เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ช่วงนั้นลุยได้ไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งย่านตากสิน พอดีมีคนรู้จักแนะนำมาให้ ลุยก็ได้เริ่มงานที่แผนกบาร์น้ำ ที่นั่นจะมี พนง. ดื่ม และผู้ดูแลร้านนั่งประจำอยู่ด้วย
ช่วงแรกๆก็ยังไม่ค่อยรู้จักใคร จนเมื่อทำงานได้ซักพักก็เริ่มสนิทกับ พนง. แทบทุกคน จนได้มีโอกาสไปสนิทกับดีเจเปิดแผ่นประจำร้าน ลุยก็สนใจงานแบบนั้น จึงอยากขึ้นไปขอดูเขาทำงานที่ห้องคอนโทรลข้างบนดูบ้าง ลักษณะของตึกร้านนี้ทั้งหมดจะมี 5 ชั้น
ชั้นแรกจะเป็นคาราโอเกะกับเวที ถัดมาเป็นชั้นลอย ซึ่งชั้นนี้จะมี พนง.ดื่ม และลุยก็จะประจำอยู่ตรงนี้ ด้านหลังของบาร์นี้จะมีห้องน้ำหญิงอยู่
ชั้นถัดมาเป็นห้อง VIP กับห้องน้ำ ลักษณะห้องน้ำและห้อง VIP จะแยกกันไปคนละทาง ชั้นต่อขึ้นมาเป็นห้องคาราโอเกะ
กับห้อง VIP รวมอยู่ด้วยกัน ส่วนชั้น 4 เป็นบาร์สไตล์ญี่ปุ่น ชั้นสุดท้ายจะเป็นครัวของร้าน
หลังจากที่ลุยขออนุญาติไปดูงาน ในห้องคอนโทรลและดีเจอนุญาตินั้น ลุยก็ได้ตามดีเจเข้าไปในห้องดูนั่นดูนี่สักพัก
ลุยก็ขอลงไปทำธุระส่วนตัวด้านล่าง พอเสร็จก็เดินกลับขึ้นไปที่ห้องคอนโทรล ครั้งนี้ลุยเดินกลับขึ้นไปคนเดียว ก็เห็นแผ่นยันต์
เป็นยันต์สีแดง 1 ผืน ติดอยู่เหนือกระจกบานเลื่อนสีดำสนิท ทันทีที่ลุยเห็นก็ขนลุกขึ้นมาทันที แต่ก็เดินกลับเข้าไปหาดีเจที่ห้องคอนโทรล
และระหว่างที่นั่งคุยกับดีเจอยู่ ลุยก็รู้สึกว่าได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังอยู่ในชั้นเดียวกันนั้น เริ่มเอะใจในความไม่ชอบมาพากลของที่นี่ขึ้นมาทันที ในขณะเดียวกันดีเจก็ยังคนนั่งเฉยๆต่อไป เหมือนว่าไม้สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น ลุยจึงบอกกับดีเจว่าจะขอตัวไปดูหน่อย แต่ดีเจกลับตอบว่า “อย่าเลย มันไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องเดินไปดูให้เสียเวลา” ลุยก็ได้แต่ งงๆ แต่ก็ยอมเชื่อนั่งอยู่ต่อไป หลังจากวันนั้นลุยก็ไม่ค่อยได้ขึ้นไปห้องคอนโทรลอีก
จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 3 สัปดาห์ วันนั้นเป็นวันที่แขกออกจากร้านไว จะเหลือแต่คนในร้านเท่านั้น พนง. ส่วนใหญ่ก็ว่าง ลุยรีบเช็คของจะได้นั่งอย่างสบายใจ หลังจากเช็คของเรียบร้อยลุยก็ได้ขึ้นไปหาดีเจ ก็ปรากฏว่า กุ๊กแฟนของดีเจอยู่ด้วย
ลุยจึงได้นั่งคุยกันทั้ง 3 คน ประจวบเหมาะกับที่ลุยนึกเรื่องวันนั้นขึ้นมาได้ ก็เลยลองถามว่า “เวลาไม่มีแขกข้างในห้องนั้นมันมีอะไรหรอพี่ ทำไมไม่ให้ผมเข้าไปดู”
พี่ดีเจก็ตอบว่า “ก็เพราะมันไม่มีอะไรเลยไงล่ะ ถึงไม่อยากให้เข้าไปดู” ลุยเริ่มแน่ใจว่าที่นี่ต้องมีอะไรแน่ๆเลยถามอีกว่า “คนที่เคยเห็นหรือได้ยิน ไม่ได้มีแค่ผมใช่มั้ยพี่” พี่ดีเจก็ตอบสั้นๆว่า “เออ ก็ไม่รู้สินะ” แต่เจ้าของเคยเล่าให้ฟังว่า มีวันนึงเจ้าของให้ ผจก. ร้าน พา พนง. ขึ้นไปหาแขกชั้นบน 2-3 คน
แต่เจ้าของร้านนั่งมองอยู่หน้ามอนิเตอร์กล้องวงจรปิดกลับเห็นในกล้องมีถึง 6-7 คน พอ ผจก. เดินมา
เจ้าของก็ถามว่า “แกพา พนง.ขึ้นไปกี่คน” คำตอบที่ได้คือ “พาไปแค่ 3 คนเองพี่” เจ้าของร้านเลย งง ว่าแล้ว 3-4 ที่เหลือมาจากไหน
พอพี่ดีเจเล่าเรื่องนี้จบก็มีเสียงดัง ตึง!!! เสียงนั้นดังมาจากชั้นบน ทั้ง 3 คนก็เลยแหงนหน้ามองบนเพดาน
ลุยหลุดปากมาทันทีว่า “เห้ย พี่ ข้างบนไม่มีแขกไม่ใช่หรอ” ดีเจนั่งเงียบไม่ปริปากสักคำ แต่ก็มีเรื่องที่น่าตกใจเกิดขึ้น
อยู่ดีๆน้องสาวของดีเจคนนั้นก็วิ่งหกน้าตื่นมาจากบาร์ชั้นบนพร้อมกับร้องตะโกนว่า ” พี่เอก พี่เอก ผีหลอก ผีหลอก”
โดยอาการตกใจสุดขีด ดีเจซึ่งเป็นพี่ชายของเธอจึงบอกให้เธอสงบสติอารมณ์และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
เธอเล่าว่า ตอนที่กำลังเก็บของอยู่บนบาร์ อยู่ดีๆก็รู้สึกว่ามีใครมาอยู่ข้างหลัง พอหันหลังไปดูก็เจอผู้หญิงคนหนึ่ง
ผู้หญิงคนนั้นชุดขาว ผมยาว กำลังลอยเข้ามาหาเธอ
เธอตกใจมากก็เลยรีบวิ่งหนี แต่ประตูเป็นแบบผลักเข้าและดึงออก ด้วยความตกใจเธอผลักอยู่ตั้งนานมันก็ไม่ออก เธอหันหน้ากลับไปดูผู้หญิงคนนั้นก็ลอยใกล้จะมาถึงตัวอยู่แล้ว เธอดึงประตูสุดแรง แล้วก็รีบวิ่งลงบันไดมาเลยนี่แหละ พอเล่าจบทั้ง 4 คนได้แต่มองหน้ากัน แล้วก็ตัดสินใจขึ้นไปดูพร้อมๆกัน
พอขึ้นไปถึงปรากฏว่าไม่พบแม้แต่เงาของใครสักคน เลยช่วยเธอเก็บของทั้งหมด แล้วรีบลงไปด้านล่าง เสร็จแล้วลุย พี่ดีเจ และแฟนก็เดินขึ้นไปที่ห้องคอนโทรลอีกครั้งเพื่อเก็บของ เหลือแต่น้องสาวของดีเจที่ยังตกใจไม่หายนั่งรออยู่ชั้นล่างสุด
ระหว่างที่กำลังเก็บของอยู่นั้นก็คุยกันถึงเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น ลุยพูดขึ้นมาว่า “ตอนขึ้นไปข้างบนก็ไม่เห็นอะไรนะพี่”
ดีเจก็ตอบว่า “เออ แล้วมันเห็นอะไรของมันวะ” ทันทีที่จบประโยคเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น อยู่ๆไฟที่ชั้นนั้นก็ดับทั้งชั้น พร้อมทั้งมีเสียงคนกระโดดหรือกระทืบเท้าอยู่ด้านบน เสียงนั้นดังมาจากด้านบนแน่นอน ทั้ง 3 คนตกใจขนหัวลุกซู่ รีบวิ่งลงไปรวมตัวกันที่ชั้นล่างทันที และลุยก็นึกขึ้นมาได้ว่า ชั้นล่างมีมอนิเตอร์อยู่ จึงขอให้ ผจก. ร้านย้อนกลับไปดู
ช่วงเวลาที่น้องสาวของดีเจเจอผู้หญิงคนนั้น กับตอนที่ไฟดับ ภาพที่ปรากฏในจอมอนิเตอร์คือ ในกล้องปรากฏเงาสีดำรูปร่างคล้ายคนอยู่ในกล้องนั้นจริงๆ เงานั้นค่อยๆเลื่อนเข้าไปหาเธอ ทันทีที่เห็นเงานั้น น้องสาวของดีเจก็วิ่งถอยห่างออกไปจากกล้องทันที แล้วลุยก็ขอให้ ผจก. เดินหน้าเทปไปอีกหน่อยเข้าสู่ช่วงก่อนที่ไฟจะดับลง
ภาพที่ปรากฏในกล้องคือ มีผู้หญิงชุดดำแต่งตัวคล้ายมีผ้าคลุมพุ่งเข้าหาทั้ง 3 คนแล้วหายไปก่อนไฟจะดับลง
จนทั้งหมดวิ่งเตลิดลงมาที่ชั้นล่าง เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้
ขอบคุณเรื่องเล่าจาก : คุณลุย
