เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมได้รับฟังมาจากลุงชม แกบอกว่า เป็นประสบการณ์ของแกเองตอนหนุ่มๆ ลุงชมเล่าว่า บ้านแกมีอาชีพทำนามีที่นาอยู่หลายไร่ เวลาทำนาจะแบ่งเป็นแปลงๆแล้วทำคันดินกั้นแต่ละแปลงไว้ แล้วก็สูบน้ำเข้านา
โดยคันดินที่กั้นนาแต่ละแปลงนั้น จะทำช่องให้น้ำไหลเพื่อให้น้ำเต็มนาทุกแปลง ลุงชมจึงต้องมาเฝ้าน้ำในนาด้วย เพื่อไม่ให้น้ำมันเยอะเกินไป ซึ่งกว่าน้ำจะเต็มที่นาทุกแปลงก็ใช้เวลาพอสมควร
ลุงชมจึงต้องมานอนเฝ้าที่ห้างนา ห้างนานั้นจะปลูกติดกับถนนลูกรัง อากาศเวลากลางคืนแม้จะเป็นหน้าร้อน แต่ลมก็พัดแรงจนทำให้หนาวพอได้ แกเลยจุดไฟเพื่อผิงแก้หนาวและเอาเหล้ามากินด้วย ระหว่างที่ลุงชมกำลังนั่งกินเหล้าเพลินๆ ตอนนั้นเวลาประมาณสี่ทุ่มแล้ว ลุงชมได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินอยู่บนทาง เพราะจุดที่นั่งก็ไม่ห่างจากถนนมากเท่าไร
ลุงชมเลยหันไปมอง เห็นเป็นร่างผู้ชายอายุน่าจะราวๆ 50 กว่าๆ รูปร่างผอมๆ ผิวเหี่ยวแห้งออกคล้ำๆ ผมหงอกเต็มหัวเลย ไม่ใส่เสื้อแต่ใส่กางเกงขาสามส่วนและที่เอวมีผ้าขาวม้ามัดไว้ ลุงชมด้วยความที่เป็นคนอัธยาศัยดี ก็เลยทักไปว่า ลุงๆ จะเป็นไปไหน ไม่หนาวเหรอ แวะกินเหล้ากันก่อน ชายแก่ได้ยินแบบนั้นก็เลยเดินแวะเข้ามาหาลุงชม และนั่งลงตรงข้ามกับลุงชม
ลุงชมแกก็ชวนคุยไปเรื่อย แต่ชายแก่ไม่ตอบอะไร ได้แต่พยักหน้าและยิ้มเท่านั้น ลุงชมเลยพูดว่า ลุงนี่แปลกคนเนาะ ไม่พูดไม่จาไรเลย แล้วลุงชมก็รินเหล้าใส่แก้วแล้วยื่นให้ชายแก่และพูดว่า เอ้า ลุงแกหนาวสักแก้ว ชายแก่รับแก้วเหล้าไป แล้วทำท่ายกแก้วขึ้นกระดกเข้าปาก
แต่จังหวะที่ชายแก่้เงยหน้าขึ้นกินเหล้านั้น ลุงชมต้องตกใจสุดขีด กระโดดพรวดออกห่างจากกองไฟ เพราะแกเห็นคอของชายแก่คนนั้น หักพับลงไปข้างหลัง (พอจะนึกภาพออกนะครับ) ลุงชมรู้แล้วว่าเจอกับอะไร แกรีบวิ่งไปคว้าจักรยาน รีบปั่นเข้าบ้่าน ไม่สนใจน้ำในนาอีกต่อไป
พอไปถึงบ้านก็เคาะประตูเสียงดังลั่นจนพ่อแม่ของลุงชมตกใจรีบเปิดประตูออกมา พ่อลุงชมถามว่า มีอะไรไอ้ชม มึงไม่เฝ้าน้ำล่ะ ลุงชมเลยเล่าให้พ่อแม่ฟัง ได้ยินดังนั้นพ่อลุงชมเลยเข้าบ้านไปคว้าพระมาห้อยคอ แล้วก็พากันไปที่นา เพื่ออยู่เฝ้าน้ำเป็นเพื่อนกัน แต่ก็ไม่เจอชายแก่คนนั้นอีก เรื่องราวทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้ครับ
ขอบคุณเรื่องเล่าจาก : ดุสิต รอบุญ