===Not Click=== ===Not Click===

The Shock Story เรื่อง แขก - คุณซัน


เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2555 มีแขกขายโรตีอยู่คนนึง แขกคนนี้ มักจะขับรถมอเตอร์ไซด์มาขายโรตีที่หมู่บ้านของคุณซันเป็นประจำแทบทุกวัน โดยส่วนตัวของคุณซันนั้นก็ชอบกินโรตี คุณซันก็ได้ซื้ออุดหนุนแขกคนนั้นอยู่เป็นประจำเกือบทุกวัน

แล้วก็มีอยู่วันนึงแขกคนที่ขายโรตีนั้น ก็ขับรถมาขายโรตีตามปกติ และเขาก็ได้ขับรถมาจอดที่หน้าบ้านของคุณซัน ต้องอธิบายก่อนว่า ในบริเวณพื้นที่บ้านของคุณซันนั้นมีอยู่ 2 หลัง หลังนึงเป็นบ้านที่คุณซันอาศัยอยู่ และบ้านอีกหลังนึงเป็นบ้านของน้าของคุณซันเอง ซึ่งน้าของคุณซันที่ชื่อว่าน้าใหม่ น้าใหม่ได้ไปทำงานที่จังหวัดชลบุรี ได้หลายเดือนแล้ว

หลังจากที่แขกคนนั้นขับรถมาจอดที่หน้าบ้านคุณซัน แขกก็ชี้นิ้วไปที่บ้านของน้าใหม่ ถามกับคุณซันว่า บ้านหลังนั้นไม่มีคนอยู่หรือ คุณซันก็ตอบไปว่า ไม่มี บ้านหลังนั้นเป็นบ้านของน้าผมเอง น้าไม่อยู่ไปทำงานต่างจังหวัด แขกก็ถามอีกว่า บ้านหลังนั้นเปิดให้เช่าบ้างไหมหละ คุณซันจึงตอบกลับไปว่า เดี๋ยวขอโทรศัพท์ไปถามน้าดูก่อนว่าเปิดให้เช่ามั๊ย แขกก็พยักหน้าเป็นการรับทราบ หลังจากที่คุณซันซื้อโรตีเสร็จก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน ซักพักนึงก็โทรศัพท์ไปหาน้า คุยกับน้าใหม่เรื่องบ้านที่ถูกขอเช่า น้าใหม่ก็บอกว่า คงทำงานอยู่ที่นั่นอีกนาน เปิดให้เช่าก่อนก็ได้ หลังจากที่คุณซันคุยโทรศัพท์กับน้าใหม่เสร็จก็เดินออกมาหน้าบ้านอีกครั้งนึง ก็ยังเห็นแขกคนนั้นยังอยู่ คุณซันเลยพูดออกไปว่า น้าเปิดให้เช่านะ แขกคนนั้นก็พูดว่า ดีเลย อีก 2-3 วันจะมาขอเช่านะครับ คุณซันก็ตอบกลับไปว่า ได้เลยครับ แล้วแขกคนนั้นก็ขับรถจากไป

จนเวลาล่วงเลยไป 3 วัน แขกก็กลับมาที่บ้านของคุณซัน มาพร้อมกับภรรยาที่นั่งซ้อนท้ายรถมาด้วย แขกเดินเข้าไปหาคุณซันที่หน้าบ้าน แล้วก็พูดว่า วันนี้มาขอเช่าบ้าน คุณซันจึงบอกรายละเอียดทั้งหมดที่ได้คุยกับน้ามาว่า ต้องจ่ายค่ามัดจำอย่างไร เก็บต่อเดือนเท่าไหร่ แขกคนนั้นก็ได้ตอบตกลง และได้จ่ายค่ามัดจำ ซึ่งบ้านของน้าใหม่เป็นบ้านหลังเล็กๆ อยู่กัน 2 คนได้แบบสบายๆ หลังจากทั้งคู่ได้ทำสัญญาเช่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต่างแลกเบอร์โทรศัพท์มือถือซึ่งกันและกัน เอาไว้เพื่อติดต่อเวลามีปัญหา หรือต้องการสอบถามอะไร และหลังจากทั้งคู่ได้คุยทุกอย่างเรียบร้อยลงนั้น แขกที่มาขอเช่าบ้านก็บอกกับคุณซันว่า ขอย้ายเข้ามาอยู่พรุ่งนี้เลย คุณซันก็ตอบว่า ได้เลย

วันรุ่งขึ้น แขกทั้งคู่ซึ่งเป็นสามีภรรยากันนั้นก็ได้ขนของเข้ามา ย้ายเข้ามาอยู่ที่่บ้านของน้าใหม่ เวลาก็ผ่านไปเกือบจะครบเดือน ทุกอย่างก็ดูเป็นปกติดี จนกระทั่งวันนึง วันนั้นคุณซันก็เห็นแขกคู่สามีภรรยากำลังจะขับรถมอเตอร์ไซด์ออกไปจากบ้าน คุณซันเดินออกมาเจอพอดี ก็ทักทายกันตามปกติว่า จะไปไหนกันหรือ แขกทั้งคู่ก็ตอบกลับมาว่า อ๋อ วันนี้ หยุดขายโรตีซักหน่อย กะว่าจะพาภรรยาไปเที่ยวหนะ ก็ทักทายกันตามปกติแล้วก็แยกย้ายกันไป

เวลาล่วงเลยผ่านไปจนถึงกลางดึกของคืนวันนั้น คืนนั้นคุณซันยังไม่นอน นั่งดูทีวีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน แล้วก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของคุณซัน คุณซันจึงเปิดประตูออกไปดู สิ่งที่เห็นก็คือ แขกที่เป็นสามีขี่รถมอเตอร์ไซด์เข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านของคุณซัน แต่ว่าคุณซันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากเห็นผู้เป็นสามีเพียงคนเดียว ภรรยานั้นหายไป คุณซันจึงถามไปว่า ทำไมกลับมาซะดึกเลย ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว แฟนคุณหายไปไหนหละ แล้วคำถามที่คุณซันได้รับนั้นก็ทำเอาคุณซันตกใจพอสมควรแขกผู้ที่เป็นสามีนั้นบอกให้คุณซันฟังว่า แฟนของเขาโดนรถชนบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้แฟนอยู่ที่โรงพยาบาล และที่ขับรถกลับมานี่ เพื่อจะเก็บของและกลับไปเฝ้าแฟนที่โรงพยาบาลต่อ คุณซันได้ยินแบบนั้นก็นิ่งไปพักนึง เห็นแขกผู้ที่เป็นสามีเดินกลับเข้าไปที่บ้านเช่า เก็บของบางอย่างและก็ขี่รถมอเตอร์ไซด์ออกไป

คุณซันก็ทำได้เพียงแค่มองแขกผู้นั้นขี่รถมอเตอร์ไซด์จากไปจนลับตา แล้วก็เดินกลับเข้ามาในบ้านของตัวเอง กำลังจะปิดประตูบ้าน คุณซันก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์กำลังขี่กลับเข้ามาบริเวณหน้าบ้านตัวเองอีกครั้ง ซึ่งเสียงรถก็เป็นเสียงที่คุ้นเคย เหมือนเสียงรถของแขกข้างบ้าน และที่น่าประหลาดใจก็คือ นอกจากเสียงมอเตอร์ไซด์แล้ว ยังตามมาด้วยเสียงร้องไห้สะอึกสะอึ้น คุณซันถึงกับยืนชะงักอยู่หน้าประตูบ้าน ครุ่นคิดอยู่ในใจว่า นี่มันเสียงมอเตอร์ไซด์ของแขกคนนั้นแน่นอน แล้วเขาจะขี่รถวนกลับมาทำไม ไหนว่าจะรีบไปโรงพยาบาล คิดได้แค่นั้นคุณซันก็เลยตัดสินใจ ลองเปิดประตูบ้านออกไปดูอีกครั้งว่ามันคืออะไรกันแน่

แต่สิ่งที่คุณซันเห็นนั้น ทำให้คุณซันถึงกับช็อค เพราะภาพที่อยู่ข้างหน้าของคุณซันขณะนี้ก็คือ แฟนของแขกผู้นั้นขี่รถมอเตอร์ไซด์เข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านที่เช่าเพียงลำพังคนเดียว พร้อมด้วยอาการที่ร้องไห้แบบสะอึกสะอื้น คุณซันก็อึ้งๆ และก็พยายามรวบรวมสติ และข่มความกลัว ตะโกนถามแขกสาวคนนั้นออกไปว่า นี่ คุณครับ แฟนคุณไปไหนหรอ ทำไมไม่มาด้วยกัน เมื่อกี๋เพิ่งจะเห็นเขาขี่รถมอเตอร์ไซด์ออกไป บอกว่าจะกลับไปเฝ้าคุณที่โรงพยาบาล แล้วคำตอบที่ทำให้คุณซันถึงกับช็อคไปเลยก็คือ แขกสาวร้องไห้ไปพร้อมกับเล่าให้ฟังว่า ตัวเธอกับแฟน กำลังนั่งทานข้าวอยู่ริมทาง ผู้ที่เป็นสามีก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่รถมอเตอร์ไซด์ พร้อมกับบอกเธอว่า สั่งข้าวไปก่อนเลย เดี๋ยวขับรถไปซื้อบัตรโทรศัพท์เติมเงินก่อนเดี๋ยวมา และในขณะที่ฝ่ายสามีกำลังจะขี่รถออกไปนั้น ก็ได้มีรถกระบะคันนึงวิ่งมาด้วยความเร็ว ชนสามีของเธอจนกระเด็นไปตกอยู่ตรงเกาะกลางถนน เสียชีวิตคาที่ คุณซันฟังเรื่องราวไปก็อึ้งไป แขกสาวผู้นั้นก็ยังพูดอีกว่า ที่ขี่รถกลับมาก็เพื่อจะเก็บของแล้วจะไปรอรับศพแฟนที่โรงพยาบาล

พอเธอพูดจบก็เดินเข้าไปในบ้านของน้าใหม่ คุณซันก็ตัดสินใจเดินกลับเข้าไปในบ้านของตัวเอง และปิดบ้านเพื่อที่จะเข้านอน ซึ่งคุณซันรู้ตัวแล้วว่า เมื่อสักครู่นี้เผชิญหน้ากับอะไรมา ในระหว่างที่คุณซันพยายามข่มตานอนให้หลับนั้น คุณซันก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ก็เลยลุกขึ้นมาจากที่นอน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อกดรับสาย พอกดรับสาย ก็เป็นเสียงของผู้ชายคนนึง ทักขึ้นมาว่า

" ฮัลโหล นี่ใช่เบอร์คุณซันใช่มั๊ยครับ"
คุณซันก็ตอบกลับไปว่า "ใช่ครับ ผมซันเอง"
ปลายสายที่โทรมาก็พูดต่อว่า "ผมคืออาสาสมัครมูลนิธินึง"
คุณซันฟังแล้วงงๆ จึงถามว่า "มีอะไรหรือครับ"

มูลนิธิตอบกลับมาว่า ตอนนี้ตัวเขาได้ออกมาปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น และนี่ก็คือโทรศัพท์ของผู้ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ลองไล่โทรกลับไปแล้ว 2-3 เบอร์ก่อนหน้านี้ไม่มีคนรับ จนกระทั่งมาถึงเบอร์ของคุณซัน ซึ่งผู้ที่เกิดอุบัติเหตุก็คือ คู่แขกสามีภรรยาเกิดประสบอุบัติเหตุโดนรถกระบะชนเสียชีวิตคาที่ทั้งคู่ คุณซันรู้จักใช่มั๊ยครับ คุณซันได้ยินแค่นั้นก็กดวางสายไป ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกก็เลยรีบวิ่งออกไปเปิดประตูหน้าบ้านดูอีกครั้งนึง แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าคือ ความมืด ความว่างเปล่า ไม่มีแขกสาว ไม่มีรถมอเตอร์ไซด์ และในคืนนั้น คุณซันก็นอนไม่หลับทั้งคืน

เข้าสู่ช่วงสายของวันต่อมา ก็มีญาติของแขกสามีภรรยาคู่นั้น มาติดต่อคุณซันเพื่อที่จะขอเข้าบ้านหลังที่เช่า เพื่อที่จะเก็บของของผู้เสียชีวิตออกไป หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา พอตกกลางดึก คุณซันก็มักจะได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ที่คุ้นหู วิ่งมาจอดที่หน้าบ้านเกือบทุกคืน เรื่องราวทั้งหมดก็มีประมาณนี้

ขอให้ทุกท่านอ่านพื่อความบันเทิงเท่านั้น