"โกสินธุ์" เล่าประสบการณ์จากสะพานลอยผีสิง
คนเราบทจะโดนผีหลอกขึ้นมาน่ะ ไม่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด แล้วเจอผีตามถนน หรือว่าเข้านอนโรงแรมก็โดนผีดุวิญญาณเฮี้ยนเล่นงานเอาหรอกครับ ขนาดอยู่ในกรุงเทพฯ ออกจากที่ทำงานมืดค่ำหน่อย มุ่งหน้ากลับบ้านแท้ๆ ยังโดนผีหลอกนี่นา นับประสาอะไร
ผมเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด เรียนหนังสือจนจบแล้วได้งานทำเมื่อปีก่อน ก็อยู่ในกรุงเทพฯ นี่แหละครับ
บ้านเก่าแก่ที่อยู่กับพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กๆ จนป่านนี้ อยู่ในหมู่บ้านซีเมนต์ไทย ริมคลองประปานี่เอง ตอนแรกบ้านช่องก็ยังหลวมๆ แต่ไม่ช้าไม่นานไหงถึงคึ่กๆ เป็นตลาดนัดสวนจตุจักรก็ไม่ทราบ
ไม่ว่าจะออกจากซอยข้ามสะพานไปรอรถเมล์ตอนเช้า หรือออกจากที่ทำงานกลับบ้านตอนค่ำๆ ลงรถเมล์ฝั่งตรงข้ามแล้วย่ำต๊อกไปขึ้นสะพานลอยที่อยู่ใกล้ๆ ข้ามไปลงใกล้ปากซอย...ผมชอบนึกถึงเรื่องสยองขวัญที่คนร้ายชิงทรัพย์บนสะพานลอย ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อถูกเล่นงานสะบักสะบอมไปตามๆ กัน
คนที่เคราะห์ร้ายมากๆ เกิดเสียดายทรัพย์สินมากกว่าชีวิตตัวเอง โดนคนร้ายใจโหดมันฆ่าทิ้งคาสะพานลอยก็มี!
เมื่อ 2-3 ปีก่อนเกิดเรื่องแบบนี้บ่อยมาก คล้ายๆ จะเป็นแฟชั่นยังงั้นแหละครับ คือคนร้ายชอบเอาอย่างกัน เหมือนกับเรื่องปาหินใส่รถจนบาดเจ็บล้มตายหลายราย พอเกิดขึ้นที่นั่น เดี๋ยวก็เกิดขึ้นที่โน่นที่นี่ไม่หยุดหย่อนอย่างทุกวันนี้ไง...
โชคดีอย่างที่ไม่เกิดเหตุร้ายบนสะพานลอยที่ผมต้องอาศัยข้ามถนนกลับบ้าน ได้ข่าวว่าเกิดเหตุแถวบางพลัดกับคลองเตยติดๆ กัน พอตำรวจเอาจริงด้วยการหมั่นตรวจตราบ่อยๆ ข่าวร้ายเรื่องนี้ก็ค่อยๆ ซาไปเอง
กว่าจะโหนรถเมล์มาจากสุขุมวิท รถติดสาหัสจนผมอยากจะเช่าห้องอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงาน ไม่ต้องปวดหัวและเสียเวลากับการเดินทางเต็มที แต่ก็ติดขัดเรื่องเป็นห่วงพ่อแม่กับน้องๆ ที่ยังเรียนหนังสืออยู่น่ะซี ทำให้ต้องทู่ซี้อยู่บ้านเดิมต่อไป
ถนนเลียบคลองประปาช่วงนั้นรถราติดขัดน่าดูครับ ยิ่งตอนเย็นๆ ยิ่งยืดยาวชนิดติดเป็นแพเชียว ใครจะข้ามถนนก็ต้องอาศัยสะพานลอยวันยังค่ำ
ถ้าผ่านไปจนถึง 4-5 ทุ่ม ถนนค่อนข้างโล่ง แต่ก็เกิดปัญหารถแล่นลิ่วเหมือนเป็นสนามแข่งรถ มอเตอร์ไซค์ก็ออกมาฉวัดเฉวียนกับเขาด้วย แถมไม่สวมหมวกนิรภัยทั้งคนขี่และคนซ้อน ราวจะเย้ยมฤตยูเล่นซะยังงั้น
เอาละ...ผมต้องข้ามสะพานลอยซะที!
คืนนั้นฟ้าครึ้มฝนชอบกล ผู้คนบางตา ผมลงจากรถเมล์ราว 5 ทุ่มเศษ เพราะเป็นวันศุกร์ต้นเดือน เพื่อนฝูงที่เป็นโสดเหมือนๆ กันก็ชักชวนกันไปซดเหล้าฟังเพลงใกล้ๆ บริษัท...กระทั่ง 4 ทุ่มกว่าถึงได้ย้ายสถานี แต่ผมขอตัวกลับบ้านก่อน...
รถราทางขวามือแล่นฉิว ผมไม่สนใจจะรอรถเพื่อเดินข้ามหรอกครับ ระยะใกล้นิดเดียวจากป้ายรถเมล์ก็ขึ้นสะพานลอยแล้ว
ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังก้าวฉับๆ ขึ้นบันได...คืนนี้ผมมีเพื่อนข้ามสะพานลอยแล้ว ดูข้างหลังเห็นแต่งตัวทะมัดทะแมงแบบสาวออฟฟิศ หุ่นดีเชียว ค่อนข้างสูง สะโพกใหญ่แต่ท่อนขาเรียวยาวน่าดู...ท่าทางเธอไม่ได้ลังเลหรือหวั่นหวาดแม้แต่น้อยนิด!
กระทั่งก้าวขึ้นบันไดแล้วเลี้ยวขวาข้ามถนน แต่ผมมองไม่เห็นสาวหุ่นดีเสียแล้ว...แทบไม่น่าเชื่อว่าเธอลับหายจากสายตาไปยังทางลงข้างหน้า...ผมหันไปดูรถราที่แล่นลิ่วลอดสะพานไปมา...ขณะนั้นเอง เสียงรองเท้ากระทบพื้นก็ดังมากระทบหูจากด้านหลัง
หันขวับไปมองเหมือนถูกจับกระชาก! เฮ้อ...โล่งใจไปทีที่เป็นผู้ชายตัวผอมๆ เสื้อกางเกงสีทึบทึม กำลังเดินก้มหน้างุดๆ ตามหลังมา
ผมขยับเท้าออกเดินต่อ แต่นึกเอะใจที่ขึ้นสะพานลอยมาเดี่ยวๆ นอกจากสาวหุ่นสวยแล้วก็ไม่มีใครอีกเลย...แล้วทำไมจู่ๆ ถึงได้มีชายหุ่นกะหร่องเทศเดินตามหลังมาติดๆ ล่ะ? แต่เมื่อหันไปมองอีกครั้งก็รู้สึกขนลุกซ่าทันที...ไม่มีผู้ชายตัวผอมๆ เดินตามหลังมาอีกแล้ว...แถมผู้หญิงในชุดสาวออฟฟิศคนเดิมกำลังเดินตามหลังผมมาติดๆ เล่นเอาต้องรีบจ้ำอ้าวแข้งขาสั่น ใจเต้นโครมคราม รู้สึกสับสนมึนงงไปหมด...
เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าพิษเหล้าทำให้ตาฝาดไปเอง?
เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังขึ้นเบื้องหน้า...เล่นเอาผมสะบัดหน้าแรงๆ เพื่อไล่ความมึนงงออกไป...เสียงแบบเดิมที่ผมได้ยินเมื่อครู่ก่อนนั่นเอง แต่ทีเสียงผู้หญิงสวมส้นสูงกลับเงียบเชียบตั้งแต่ตอนแรก...
นรกเป็นพยาน! ไอ้หนุ่มผ่ายผอมคนนั้นเองที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าผม...แถมหันมามองพลางกระตุกยิ้มนิดๆ ก่อนจะเลี้ยวขวาลงสะพานลอย
คุณพระช่วย! นี่มันเกิดนรกจกเปรตอะไรขึ้นมา?
ผู้หญิงที่ขึ้นสะพานนำหน้าเห็นๆ ดันมาเดินอยู่ข้างหลัง ส่วนเจ้าผู้ชายที่เดินตามหลังมาแท้ๆ กลับออกหน้า? ผมคงเมาขาดแน่แล้ว...เรื่องทั้งหมดไม่ใช่ความจริง ภาพที่เห็นล้วนแต่ภาพมายา...ภาพหลอนทั้งเพ!
ผมเดินกึ่งวิ่งลงสะพานลอยแทบจะหกล้มหกลุก ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เรียงรายอยู่ข้างถนนแผ่ร่มเงาคระครึ้ม อะไรบางอย่างทำให้ผมหันกลับไปมองที่สะพานลอยอีกครั้ง
บนหัวบันไดนั่นเอง ผู้หญิงร่างสูงยืนเคียงคู่กับผู้ชายร่างผอมบาง กำลังก้มหน้าลงมามองเงียบเชียบ เยือกเย็น...ผมแผดร้องออกมาสุดเสียง วิ่ง เตลิดไปที่สะพานข้ามคลองประปา...ไม่รู้ว่าโดนผีหลอกหรือผมประสาท หลอนไปเอง แต่ที่แน่ๆ คือทำให้ขนหัวลุกละครับ!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด
คนเราบทจะโดนผีหลอกขึ้นมาน่ะ ไม่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด แล้วเจอผีตามถนน หรือว่าเข้านอนโรงแรมก็โดนผีดุวิญญาณเฮี้ยนเล่นงานเอาหรอกครับ ขนาดอยู่ในกรุงเทพฯ ออกจากที่ทำงานมืดค่ำหน่อย มุ่งหน้ากลับบ้านแท้ๆ ยังโดนผีหลอกนี่นา นับประสาอะไร
ผมเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด เรียนหนังสือจนจบแล้วได้งานทำเมื่อปีก่อน ก็อยู่ในกรุงเทพฯ นี่แหละครับ
บ้านเก่าแก่ที่อยู่กับพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กๆ จนป่านนี้ อยู่ในหมู่บ้านซีเมนต์ไทย ริมคลองประปานี่เอง ตอนแรกบ้านช่องก็ยังหลวมๆ แต่ไม่ช้าไม่นานไหงถึงคึ่กๆ เป็นตลาดนัดสวนจตุจักรก็ไม่ทราบ
ไม่ว่าจะออกจากซอยข้ามสะพานไปรอรถเมล์ตอนเช้า หรือออกจากที่ทำงานกลับบ้านตอนค่ำๆ ลงรถเมล์ฝั่งตรงข้ามแล้วย่ำต๊อกไปขึ้นสะพานลอยที่อยู่ใกล้ๆ ข้ามไปลงใกล้ปากซอย...ผมชอบนึกถึงเรื่องสยองขวัญที่คนร้ายชิงทรัพย์บนสะพานลอย ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อถูกเล่นงานสะบักสะบอมไปตามๆ กัน
คนที่เคราะห์ร้ายมากๆ เกิดเสียดายทรัพย์สินมากกว่าชีวิตตัวเอง โดนคนร้ายใจโหดมันฆ่าทิ้งคาสะพานลอยก็มี!
เมื่อ 2-3 ปีก่อนเกิดเรื่องแบบนี้บ่อยมาก คล้ายๆ จะเป็นแฟชั่นยังงั้นแหละครับ คือคนร้ายชอบเอาอย่างกัน เหมือนกับเรื่องปาหินใส่รถจนบาดเจ็บล้มตายหลายราย พอเกิดขึ้นที่นั่น เดี๋ยวก็เกิดขึ้นที่โน่นที่นี่ไม่หยุดหย่อนอย่างทุกวันนี้ไง...
โชคดีอย่างที่ไม่เกิดเหตุร้ายบนสะพานลอยที่ผมต้องอาศัยข้ามถนนกลับบ้าน ได้ข่าวว่าเกิดเหตุแถวบางพลัดกับคลองเตยติดๆ กัน พอตำรวจเอาจริงด้วยการหมั่นตรวจตราบ่อยๆ ข่าวร้ายเรื่องนี้ก็ค่อยๆ ซาไปเอง
กว่าจะโหนรถเมล์มาจากสุขุมวิท รถติดสาหัสจนผมอยากจะเช่าห้องอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงาน ไม่ต้องปวดหัวและเสียเวลากับการเดินทางเต็มที แต่ก็ติดขัดเรื่องเป็นห่วงพ่อแม่กับน้องๆ ที่ยังเรียนหนังสืออยู่น่ะซี ทำให้ต้องทู่ซี้อยู่บ้านเดิมต่อไป
ถนนเลียบคลองประปาช่วงนั้นรถราติดขัดน่าดูครับ ยิ่งตอนเย็นๆ ยิ่งยืดยาวชนิดติดเป็นแพเชียว ใครจะข้ามถนนก็ต้องอาศัยสะพานลอยวันยังค่ำ
ถ้าผ่านไปจนถึง 4-5 ทุ่ม ถนนค่อนข้างโล่ง แต่ก็เกิดปัญหารถแล่นลิ่วเหมือนเป็นสนามแข่งรถ มอเตอร์ไซค์ก็ออกมาฉวัดเฉวียนกับเขาด้วย แถมไม่สวมหมวกนิรภัยทั้งคนขี่และคนซ้อน ราวจะเย้ยมฤตยูเล่นซะยังงั้น
เอาละ...ผมต้องข้ามสะพานลอยซะที!
คืนนั้นฟ้าครึ้มฝนชอบกล ผู้คนบางตา ผมลงจากรถเมล์ราว 5 ทุ่มเศษ เพราะเป็นวันศุกร์ต้นเดือน เพื่อนฝูงที่เป็นโสดเหมือนๆ กันก็ชักชวนกันไปซดเหล้าฟังเพลงใกล้ๆ บริษัท...กระทั่ง 4 ทุ่มกว่าถึงได้ย้ายสถานี แต่ผมขอตัวกลับบ้านก่อน...
รถราทางขวามือแล่นฉิว ผมไม่สนใจจะรอรถเพื่อเดินข้ามหรอกครับ ระยะใกล้นิดเดียวจากป้ายรถเมล์ก็ขึ้นสะพานลอยแล้ว
ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังก้าวฉับๆ ขึ้นบันได...คืนนี้ผมมีเพื่อนข้ามสะพานลอยแล้ว ดูข้างหลังเห็นแต่งตัวทะมัดทะแมงแบบสาวออฟฟิศ หุ่นดีเชียว ค่อนข้างสูง สะโพกใหญ่แต่ท่อนขาเรียวยาวน่าดู...ท่าทางเธอไม่ได้ลังเลหรือหวั่นหวาดแม้แต่น้อยนิด!
กระทั่งก้าวขึ้นบันไดแล้วเลี้ยวขวาข้ามถนน แต่ผมมองไม่เห็นสาวหุ่นดีเสียแล้ว...แทบไม่น่าเชื่อว่าเธอลับหายจากสายตาไปยังทางลงข้างหน้า...ผมหันไปดูรถราที่แล่นลิ่วลอดสะพานไปมา...ขณะนั้นเอง เสียงรองเท้ากระทบพื้นก็ดังมากระทบหูจากด้านหลัง
หันขวับไปมองเหมือนถูกจับกระชาก! เฮ้อ...โล่งใจไปทีที่เป็นผู้ชายตัวผอมๆ เสื้อกางเกงสีทึบทึม กำลังเดินก้มหน้างุดๆ ตามหลังมา
ผมขยับเท้าออกเดินต่อ แต่นึกเอะใจที่ขึ้นสะพานลอยมาเดี่ยวๆ นอกจากสาวหุ่นสวยแล้วก็ไม่มีใครอีกเลย...แล้วทำไมจู่ๆ ถึงได้มีชายหุ่นกะหร่องเทศเดินตามหลังมาติดๆ ล่ะ? แต่เมื่อหันไปมองอีกครั้งก็รู้สึกขนลุกซ่าทันที...ไม่มีผู้ชายตัวผอมๆ เดินตามหลังมาอีกแล้ว...แถมผู้หญิงในชุดสาวออฟฟิศคนเดิมกำลังเดินตามหลังผมมาติดๆ เล่นเอาต้องรีบจ้ำอ้าวแข้งขาสั่น ใจเต้นโครมคราม รู้สึกสับสนมึนงงไปหมด...
เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าพิษเหล้าทำให้ตาฝาดไปเอง?
เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังขึ้นเบื้องหน้า...เล่นเอาผมสะบัดหน้าแรงๆ เพื่อไล่ความมึนงงออกไป...เสียงแบบเดิมที่ผมได้ยินเมื่อครู่ก่อนนั่นเอง แต่ทีเสียงผู้หญิงสวมส้นสูงกลับเงียบเชียบตั้งแต่ตอนแรก...
นรกเป็นพยาน! ไอ้หนุ่มผ่ายผอมคนนั้นเองที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าผม...แถมหันมามองพลางกระตุกยิ้มนิดๆ ก่อนจะเลี้ยวขวาลงสะพานลอย
คุณพระช่วย! นี่มันเกิดนรกจกเปรตอะไรขึ้นมา?
ผู้หญิงที่ขึ้นสะพานนำหน้าเห็นๆ ดันมาเดินอยู่ข้างหลัง ส่วนเจ้าผู้ชายที่เดินตามหลังมาแท้ๆ กลับออกหน้า? ผมคงเมาขาดแน่แล้ว...เรื่องทั้งหมดไม่ใช่ความจริง ภาพที่เห็นล้วนแต่ภาพมายา...ภาพหลอนทั้งเพ!
ผมเดินกึ่งวิ่งลงสะพานลอยแทบจะหกล้มหกลุก ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เรียงรายอยู่ข้างถนนแผ่ร่มเงาคระครึ้ม อะไรบางอย่างทำให้ผมหันกลับไปมองที่สะพานลอยอีกครั้ง
บนหัวบันไดนั่นเอง ผู้หญิงร่างสูงยืนเคียงคู่กับผู้ชายร่างผอมบาง กำลังก้มหน้าลงมามองเงียบเชียบ เยือกเย็น...ผมแผดร้องออกมาสุดเสียง วิ่ง เตลิดไปที่สะพานข้ามคลองประปา...ไม่รู้ว่าโดนผีหลอกหรือผมประสาท หลอนไปเอง แต่ที่แน่ๆ คือทำให้ขนหัวลุกละครับ!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด