"กอฟ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อผีเด็กมาเล่นด้วย
ผมไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นมาจากไหน? ตามผมมาได้ยังไง? แถมมาวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวผมทำไม? รู้แต่แกไม่ใช่มนุษย์มนาอย่างเรา แน่นอน...แกเป็นผีครับ! บางคืนแกยังคึกนึกสนุกพาเพื่อนมาอีกเป็นฝูง...ผีล้วนๆ เลย!
ฟังดูเหมือนผมโม้ใช่มั้ย? แต่มันเป็นเรื่องจริงครับ
ผมชื่อกอฟ อายุ 31 ปี อยู่มหาวิทยาลัยปี 4 จบปีนี้ละครับ อาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านแถวประดิพัทธ ใกล้ๆ สะพานควายนี่เอง บ้านผมไม่เคยมีผีสิงเลย เราอยู่กันแสนสบาย ผมมีน้องสาวอีกคน กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย
คืนหนึ่ง ผมดูหนังสือสอบอยู่ในห้องนอน เปิดไฟกลางห้องสว่างจ้า ทันใดนั้นผมเห็นหัวเด็กโผล่แว้บๆ อยู่ปลายเตียง คือตอนนั้นผมนั่งพิงหัวเตียงไงครับ ตามองหนังสือ แต่หางตาเห็นสิ่งประหลาดสิ่งนั้น ผมเหลือบมอง หัวนั้นก็ผลุบลงไป
เอ๊ะ! มันอะไรกันเนี่ย?
ทีแรกคิดว่าตัวเองคงตาลาย หรือไม่ก็อาจเป็นหนูที่ไต่ลงมาตามท่อแอร์ ถ้าเป็นหนูล่ะก็มันจะต้องตัวใหญ่เกือบเท่าแมวเชียว ใจนึกถึงกาวดักหนูทันที แต่ตอนนี้ผมคว้านิตยสารม้วนเป็นท่อนกลมๆ ขณะคลานไปชะโงกมองตรงปลายเตียง
ไม่มีอะไรเลยครับ มันว่างเปล่า สงสัยสมองจะเล่นกลกับสายตาซะละมั้ง?
พอคิดได้ดังนั้น ผมก็ถือโอกาสพักสายตาทั้งที่ยังอยู่ในท่านั่ง เอนศีรษะพิงหัวเตียงแล้วหลับตาลง
แต่แล้วก็ต้องลืมตาตื่นทันที เพราะเตียงไหวยวบเหมือนมีอะไรบางอย่างโดดขึ้นมา...แผ่นดินไหวรึเปล่าหว่า?
ปรากฏว่า ตรงปลายเตียงเป็นรอยบุ๋มลงไปจริงๆ
ท่าจะไม่ได้การละ ผมนึกถึงคำว่า "ผี" ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ นั่งจ้องอย่างใจระทึกว่า จะมีการสำแดงอิทธิฤทธิ์อะไรอีกเป็นรายการต่อไป? ผลุนผลันจวนตัวเข้าจะเผ่นอีท่าไหน? เอ...นั่งรออยู่นานก็ไม่มี
นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับผีเด็กตนนี้!
สรุปว่าคืนนั้นผมนอนหลับ แต่กว่าจะหลับได้ก็นานเชียวละ มันระแวงนี่ครับ ถึงยังไงตอนเช้าก็ไปมหาวิทยาลัยและสอบได้ไม่ติดขัด นี่คือผลของการได้เรียนวิชาที่ชอบมาก...วิชาจิตวิทยาครับ ผมได้คะแนนเต็มทุกที
คืนต่อมา ผมเดินลงมาชั้นล่างเพื่อดื่มน้ำในตู้เย็น ตอนนั้นห้าทุ่มกว่า เจ้ากล้วยน้องผมคงหลับฝันหวานไปนานแล้ว พ่อกับแม่ยังดูทีวีอยู่ในห้องนอน ผมได้ยินเสียงลอดลงมา
ส่วน "สาวมอน" สาวใช้จอมแก่นก็คงดูรายการภาคดึกอยู่ในห้องคนรับใช้ ไอ้เจ้านี่นอนดึกครับ มันติดทีวีหนักเชียวละ แต่ทำงานบ้านได้ดีมาก...เรื่องนี้เลยต้องยอมปล่อยมันมั่ง
เอาอีกแล้ว ผมกำลังเปิดสวิตช์ไฟในห้องรับแขก จังหวะที่ไฟสว่างพรึ่บ ผมหวิดสะดุ้งเมื่อเห็นเด็กผู้ชายอายุราว 5-6 ขวบ วิ่งหายแว่บไปทางประตูด้านหลัง ที่จะเปิดไปห้องของมอน
แต่ภาพที่เห็นมันผิดธรรมชาติครับ
นั่นคือ ร่างนั้นผลุบหายทะลุผ่านฝาบ้านออกไป เล่นเอาผมหน้าชาเห่อ ขนลุกเกรียวไปหมด ยืนยันเลยว่าคราวนี้ผมไม่ได้ตาฝาด ร่างนั้นแต่งชุดคล้ายๆ นักเรียนอนุบาล หัวก็กลมทุย ท่าทางซน...เอ พูดอีกทีก็เฮี้ยนน่าดู
ผมขนลุกไม่เสร็จ รีบหยิบขวดน้ำในตู้เย็นเดินกลับขึ้นห้อง ไฟก็ทิ้งให้สว่างไว้อย่างนั้น ไม่ต้องปิดแล้ว เสียวสันหลังอย่าบอกใครเชียว
รุ่งเช้า...ตามฟอร์ม พ่อบ่นเรื่องไฟชั้นล่างที่เปิดทิ้งไว้ ผมเลยได้จังหวะเล่าให้ฟังว่า เห็นเด็กลึกลับวิ่งหายวับไปทางกำแพง พ่อบอกว่าผมดูหนังสยองขวัญมากเกินไป แม่ถือแก้วน้ำส้มค้าง ส่วนเจ้ากล้วยทำท่ากระตือรือร้นเต็มที่
อ้อ! มันชอบฟังเรื่องผีครับ ฟังแล้วเอาไปเล่าต่อให้คนอื่นขนหัวลุกเล่นๆ ไง!
ผีเด็กตนนี้มาให้ผมเห็นทุกวัน แกสามารถโผล่ขึ้นมาได้ทุกที่ในบ้าน แม้แต่ตอนผมไปเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมยังเห็นเด็กอนุบาลตัวเล็กๆตนนี้เลยครับ
ไม่ได้เห็นเต็มตา แต่แว่บไปแว่บมาให้รู้ว่า...หนูอยู่ที่นี่นะจ๊ะ อิ อิ อิ!
ไปๆ มาๆ ผมก็ชักชินซะแล้วสิ
ความรู้สึกที่แท้จริงนั้นไม่ถึงกับกลัวจนสยดสยองอะไร แค่แปลกใจ รู้สึกประหลาดดี เดี๋ยวๆ ก็มาอีกแล้ว แกมาให้เห็น แต่ไม่ได้มาหลอกหลอน ผมแน่ใจว่าเป็นอย่างนั้นนะครับ
กระทั่งคืนหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้เอง ผมรู้สึกถูกผีอำ เป็นผีเด็กมานั่งบนพุงผม ขณะที่เด็กอีกเป็นสิบวิ่งเล่นเอะอะเจี๊ยวจ๊าวรอบๆ เตียงผม เหมือนกลายเป็นสนามเด็กเล่นงั้นแหละเอ้า!
ไม่ไหวละครับ งานนี้...
ผมเกิดกลัวแล้วละสิ เพราะผีเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับผมได้ แม่เลยพาผมไปทำสังฆทาน เออ...จริงสิ ผีอาจมาขอส่วนบุญ! แต่จนป่านนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าผีเด็กนี้เป็นใคร? ตามผมมาทำไม?
ตั้งแต่ทำบุญให้แกก็หายจ้อยไปเลย อาจจะสำนึกผิดหรืออิ่มบุญแล้วก็ได้ครับ!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด
ผมไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นมาจากไหน? ตามผมมาได้ยังไง? แถมมาวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวผมทำไม? รู้แต่แกไม่ใช่มนุษย์มนาอย่างเรา แน่นอน...แกเป็นผีครับ! บางคืนแกยังคึกนึกสนุกพาเพื่อนมาอีกเป็นฝูง...ผีล้วนๆ เลย!
ฟังดูเหมือนผมโม้ใช่มั้ย? แต่มันเป็นเรื่องจริงครับ
ผมชื่อกอฟ อายุ 31 ปี อยู่มหาวิทยาลัยปี 4 จบปีนี้ละครับ อาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านแถวประดิพัทธ ใกล้ๆ สะพานควายนี่เอง บ้านผมไม่เคยมีผีสิงเลย เราอยู่กันแสนสบาย ผมมีน้องสาวอีกคน กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย
คืนหนึ่ง ผมดูหนังสือสอบอยู่ในห้องนอน เปิดไฟกลางห้องสว่างจ้า ทันใดนั้นผมเห็นหัวเด็กโผล่แว้บๆ อยู่ปลายเตียง คือตอนนั้นผมนั่งพิงหัวเตียงไงครับ ตามองหนังสือ แต่หางตาเห็นสิ่งประหลาดสิ่งนั้น ผมเหลือบมอง หัวนั้นก็ผลุบลงไป
เอ๊ะ! มันอะไรกันเนี่ย?
ทีแรกคิดว่าตัวเองคงตาลาย หรือไม่ก็อาจเป็นหนูที่ไต่ลงมาตามท่อแอร์ ถ้าเป็นหนูล่ะก็มันจะต้องตัวใหญ่เกือบเท่าแมวเชียว ใจนึกถึงกาวดักหนูทันที แต่ตอนนี้ผมคว้านิตยสารม้วนเป็นท่อนกลมๆ ขณะคลานไปชะโงกมองตรงปลายเตียง
ไม่มีอะไรเลยครับ มันว่างเปล่า สงสัยสมองจะเล่นกลกับสายตาซะละมั้ง?
พอคิดได้ดังนั้น ผมก็ถือโอกาสพักสายตาทั้งที่ยังอยู่ในท่านั่ง เอนศีรษะพิงหัวเตียงแล้วหลับตาลง
แต่แล้วก็ต้องลืมตาตื่นทันที เพราะเตียงไหวยวบเหมือนมีอะไรบางอย่างโดดขึ้นมา...แผ่นดินไหวรึเปล่าหว่า?
ปรากฏว่า ตรงปลายเตียงเป็นรอยบุ๋มลงไปจริงๆ
ท่าจะไม่ได้การละ ผมนึกถึงคำว่า "ผี" ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ นั่งจ้องอย่างใจระทึกว่า จะมีการสำแดงอิทธิฤทธิ์อะไรอีกเป็นรายการต่อไป? ผลุนผลันจวนตัวเข้าจะเผ่นอีท่าไหน? เอ...นั่งรออยู่นานก็ไม่มี
นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับผีเด็กตนนี้!
สรุปว่าคืนนั้นผมนอนหลับ แต่กว่าจะหลับได้ก็นานเชียวละ มันระแวงนี่ครับ ถึงยังไงตอนเช้าก็ไปมหาวิทยาลัยและสอบได้ไม่ติดขัด นี่คือผลของการได้เรียนวิชาที่ชอบมาก...วิชาจิตวิทยาครับ ผมได้คะแนนเต็มทุกที
คืนต่อมา ผมเดินลงมาชั้นล่างเพื่อดื่มน้ำในตู้เย็น ตอนนั้นห้าทุ่มกว่า เจ้ากล้วยน้องผมคงหลับฝันหวานไปนานแล้ว พ่อกับแม่ยังดูทีวีอยู่ในห้องนอน ผมได้ยินเสียงลอดลงมา
ส่วน "สาวมอน" สาวใช้จอมแก่นก็คงดูรายการภาคดึกอยู่ในห้องคนรับใช้ ไอ้เจ้านี่นอนดึกครับ มันติดทีวีหนักเชียวละ แต่ทำงานบ้านได้ดีมาก...เรื่องนี้เลยต้องยอมปล่อยมันมั่ง
เอาอีกแล้ว ผมกำลังเปิดสวิตช์ไฟในห้องรับแขก จังหวะที่ไฟสว่างพรึ่บ ผมหวิดสะดุ้งเมื่อเห็นเด็กผู้ชายอายุราว 5-6 ขวบ วิ่งหายแว่บไปทางประตูด้านหลัง ที่จะเปิดไปห้องของมอน
แต่ภาพที่เห็นมันผิดธรรมชาติครับ
นั่นคือ ร่างนั้นผลุบหายทะลุผ่านฝาบ้านออกไป เล่นเอาผมหน้าชาเห่อ ขนลุกเกรียวไปหมด ยืนยันเลยว่าคราวนี้ผมไม่ได้ตาฝาด ร่างนั้นแต่งชุดคล้ายๆ นักเรียนอนุบาล หัวก็กลมทุย ท่าทางซน...เอ พูดอีกทีก็เฮี้ยนน่าดู
ผมขนลุกไม่เสร็จ รีบหยิบขวดน้ำในตู้เย็นเดินกลับขึ้นห้อง ไฟก็ทิ้งให้สว่างไว้อย่างนั้น ไม่ต้องปิดแล้ว เสียวสันหลังอย่าบอกใครเชียว
รุ่งเช้า...ตามฟอร์ม พ่อบ่นเรื่องไฟชั้นล่างที่เปิดทิ้งไว้ ผมเลยได้จังหวะเล่าให้ฟังว่า เห็นเด็กลึกลับวิ่งหายวับไปทางกำแพง พ่อบอกว่าผมดูหนังสยองขวัญมากเกินไป แม่ถือแก้วน้ำส้มค้าง ส่วนเจ้ากล้วยทำท่ากระตือรือร้นเต็มที่
อ้อ! มันชอบฟังเรื่องผีครับ ฟังแล้วเอาไปเล่าต่อให้คนอื่นขนหัวลุกเล่นๆ ไง!
ผีเด็กตนนี้มาให้ผมเห็นทุกวัน แกสามารถโผล่ขึ้นมาได้ทุกที่ในบ้าน แม้แต่ตอนผมไปเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมยังเห็นเด็กอนุบาลตัวเล็กๆตนนี้เลยครับ
ไม่ได้เห็นเต็มตา แต่แว่บไปแว่บมาให้รู้ว่า...หนูอยู่ที่นี่นะจ๊ะ อิ อิ อิ!
ไปๆ มาๆ ผมก็ชักชินซะแล้วสิ
ความรู้สึกที่แท้จริงนั้นไม่ถึงกับกลัวจนสยดสยองอะไร แค่แปลกใจ รู้สึกประหลาดดี เดี๋ยวๆ ก็มาอีกแล้ว แกมาให้เห็น แต่ไม่ได้มาหลอกหลอน ผมแน่ใจว่าเป็นอย่างนั้นนะครับ
กระทั่งคืนหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้เอง ผมรู้สึกถูกผีอำ เป็นผีเด็กมานั่งบนพุงผม ขณะที่เด็กอีกเป็นสิบวิ่งเล่นเอะอะเจี๊ยวจ๊าวรอบๆ เตียงผม เหมือนกลายเป็นสนามเด็กเล่นงั้นแหละเอ้า!
ไม่ไหวละครับ งานนี้...
ผมเกิดกลัวแล้วละสิ เพราะผีเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับผมได้ แม่เลยพาผมไปทำสังฆทาน เออ...จริงสิ ผีอาจมาขอส่วนบุญ! แต่จนป่านนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าผีเด็กนี้เป็นใคร? ตามผมมาทำไม?
ตั้งแต่ทำบุญให้แกก็หายจ้อยไปเลย อาจจะสำนึกผิดหรืออิ่มบุญแล้วก็ได้ครับ!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด