"ปูเป้" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อไปนอนในห้องที่มีการฆาตกรรม
ห้องที่เจ้าของบ้านจัดให้ดิฉันอยู่นี้ เป็นห้องที่มีผีสิง!
ดิฉันเคยเป็นครูโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่มีความจำเป็นบางประการที่ทำให้ต้องลาออก แล้วกลับมาอยู่กับพ่อแม่ที่ราชบุรี บ้านของดิฉันเอง ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำมานานยี่สิบกว่าปี ตั้งแต่ดิฉันยังแบเบาะโน่นแน่ะค่ะ
เมื่อปีที่แล้ว ผู้มีพระคุณของครอบครัวเราเรียกใช้ให้ดิฉันไปสอนพิเศษให้หลานๆ ของท่าน คือลูกของลูกสาวท่านน่ะค่ะ ลูกสาวท่านชื่อคุณกิ่งแก้ว มีบ้านอยู่ที่พุทธมณฑล เธอมีลูกสาว 2 คนเป็นผู้หญิงทั้งคู่ ชื่อน้องกุ้งกับน้องกั้ง อายุ 5 ขวบ กับ 7 ขวบ งานของดิฉันคือไปสอนการบ้านและทบทวนวิชา น้องๆ จะได้เรียนเก่งๆ
ทุกๆ วันศุกร์ตอนบ่ายๆ ดิฉันจะขับรถจากราชบุรีมาที่พุทธมณฑล และค้างคืนวันศุกร์กับวันเสาร์ กลับราชบุรีเย็นวันอาทิตย์ ใช้เวลาอยู่กับน้องกุ้งน้องกั้งเต็มที่ ดูๆ แล้วก็เหมือนครูกึ่งพี่เลี้ยง คือทั้งสองทั้งไปเที่ยวด้วย และคอยดูแลตลอดสุดสัปดาห์ โดยคุณกิ่งแก้วให้ดิฉันนอนในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งที่เรือนคนใช้
เรือนคนใช้ที่ว่านี้ ดิฉันก็เรียกให้โก้ๆ ไปยังงั้นเอง...ที่จริงมันเป็นส่วนหนึ่งของตัวบ้าน แต่สร้างยื่นออกมาข้างๆ ต่อจากห้องครัว ลักษณะคล้ายห้องแถวมี 3 ห้อง
ห้องหนึ่งนั้นมีป้านวลคนรับใช้และนง-คนเลี้ยงเด็กนอนอยู่ด้วยกัน ห้องตรงกลางใช้เป็นที่รีดเสื้อผ้า และห้องริมสุดปล่อยว่างไว้เฉยๆ ดิฉันนอนห้องนั้นละค่ะ มีเตียงมีตู้พร้อมสรรพ ลักษณะเหมือนเคยมีคนอยู่ที่นี่มาก่อน แต่พอถามป้านวลกับนง ทั้งคู่ก็ไม่ทราบเพราะพวกเขาเพิ่งมาทำงานกับคุณกิ่งแก้วได้แค่ 4 ปี
พอมาถึงห้องนี้ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว...
คนใช้รุ่นก่อนหน้าป้านวลนั้นลาออกไปหมดแล้วละค่ะ คุณกิ่งแก้วบอกว่าไปแต่งงานบ้าง ไปทำงานโรงงานบ้าง ดิฉันก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่ขอบอกตรงๆ ว่า ตั้งแต่คืนแรกที่ได้มานอนดิฉันก็เริ่มรู้สึกพิกลๆ มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก!
ดิฉันไม่ใช่คนกลัวผีนะคะ เพียงแต่หวาดๆ และไม่ชอบอยู่ในที่ที่ทำให้เราต้องคอยหวาดระแวง...ห้องนี้ก็เหมือนกันค่ะ
ทีแรกดิฉันคิดว่าเป็นรอยเปื้อนสีน้ำตาลบนผนังหัวเตียง มันเหมือนเลือดที่สาดกระเซ็นเป็นฝอย ดิฉันเอาฟองน้ำจุ่มน้ำยาล้างจานมาเช็ดๆ มันก็ไม่ออก...ช่างมัน! ไม่เป็นไรหรอก ดิฉันไม่ใช่คนคิดมาก
รอยเปื้อนสีน้ำตาลยังไม่น่าสนใจเท่าอาการปวดต้นคออย่างน่ารำคาญ ซึ่งเกิดทุกครั้งที่ดิฉันใกล้จะเคลิ้มหลับ มันปวดคล้ายๆ ใครเอาอะไรมาสับ...ดิฉันถึงกับลุกขึ้นนั่งในความมืด เอามือนวดต้นคอ พอล้มตัวลงนอนก็เป็นอีก...ทีแรกนึกว่าเป็นเพราะความเครียด แต่เมื่อมันเกิดบ่อยครั้งเข้า ดิฉันก็พยายามคิดหาสาเหตุ...แน่ละค่ะ! ไม่ใช่เพราะความนุ่มความแข็งของหมอน ดิฉันนอนสบายดี แต่จะปวดต้นคอหนึบชาขึ้นมาทุกครั้งที่ใกล้จะหลับ
มันเหมือนมีใครพยายามจะมาบอกอะไรบางอย่าง...
ใครบางคนกำลังแสดงให้ดิฉันดูว่า เขาตายอย่างไร!
นั่นเป็นสิ่งที่แล่นเข้ามาในสมอง ตอนที่ดิฉันกำลังครุ่นคิดว่าอาการปวดมันเกิดจากอะไร? และมันแปลกมากที่ดิฉันเริ่มแน่ใจว่าห้องนี้มีคนตาย! ห้องนี้เคยมีการฆาตกรรม!!
ดิฉันไม่ใช่คนเก็บความสงสัยไว้กับตัวให้ปวดสมองหรอกค่ะ วันหนึ่งเมื่ออยู่ตามลำพังกับคุณกิ่งแก้ว ก็เลยมีโอกาสถามเธอ คุณกิ่งแก้วทำตาดุเชียว บอกว่ามันเป็นเรื่องไม่น่าพูดถึงและขอร้องดิฉันว่าอย่าพูดให้ป้านวลกับนงรู้ เป็นอันขาด
บ้านหลังนี้เป็นเรือนหอของคุณกิ่งแก้วเอง อุตส่าห์ปลูกอุตส่าห์สร้าง เก็บเงินเก็บทองกันสองคนกับสามี เป็นบ้านที่เธอรักและผูกพันมาก แต่พออยู่อาศัยมาได้ 5 เดือนก็เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น...
ตอนนั้นคุณกิ่งแก้วยังไม่ได้ตั้งครรภ์ เธอมีสาวใช้ชื่อดาวเป็นสาวสวย คืนหนึ่งคุณกิ่งแก้วกับสามีไปต่างจังหวัด ดาวแอบพาแฟนเข้ามานอนในห้องนี้ ทั้งคู่เกิดทะเลาะกัน ฝ่ายชายใช้ขวดเบียร์ตีศีรษะเธอเลือดกระจาย เขาตีเธอซ้ำที่ต้นคออย่างแรง ทำให้กระดูกคอหักทันที
ดาวตายในห้องนี้ แฟนเธอก็หนีไปไหนไม่รอด...เรื่องนี้เกิดมาตั้ง 8 ปีแล้วละค่ะ คุณกิ่งแก้วนิมนต์พระมาสวดมนต์ ทำบุญบ้านใหม่เรียบร้อย แต่คนรับใช้คนอื่นๆ ก็ขอลาออกไปหมดเพราะกลัวผีของสาวดาว
คุณกิ่งแก้วบอกดิฉันว่า เธอไม่คิดว่าวิญญาณของดาวจะยังสิงสู่อยู่ห้องนี้ เธอน่าจะไปผุดไปเกิดตั้งนานแล้ว!
คิดดูก็แปลก ที่เมื่อตอนที่ป้านวลมาเป็นลูกจ้างใหม่ๆ พร้อมกับนงนั้น ทั้งคู่ไม่เลือกห้องที่เกิดเหตุ ทั้งที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย พวกเธอกลับขอไปนอนด้วยกันในห้องที่ห่างออกไป ป้านวลเคยนอนห้องนี้ แต่ก็บ่นเช่นเดียวกับดิฉันว่าอึดอัดและปวดเมื่อย...โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต้น คอ
จริงๆ แล้ว วิญญาณของดาวไม่เคยปรากฏเป็นตัวเป็นตน ไม่มีสุ้มเสียงใดๆ แต่ถ้าใครได้เดินเข้าไปในห้องนั้น จะรู้ว่ามันเศร้าและหดหู่มาก เหมือนมีใครพยายามจะบอกอะไรกับเรา แต่ทำไม่ได้เพราะอยู่คนละมิติ...
ในที่สุด คุณกิ่งแก้วก็ให้ดิฉันเข้ามานอนในบ้าน ในห้องนอนที่เตรียมไว้ให้เด็กๆ ซึ่งตอนนี้เด็กทั้งสองนอนกับพ่อแม่ ห้องนั้นก็ว่างอยู่
ห้องที่ดาวตายทิ้งไว้เป็นห้องเก็บของ ป้านวลกับนงยังไม่รู้ ถึงแม้จะมาอ่านคอลัมน์ขนหัวลุกนี้ เพราะดิฉันเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามและสถานที่จริงค่ะ!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด
ห้องที่เจ้าของบ้านจัดให้ดิฉันอยู่นี้ เป็นห้องที่มีผีสิง!
ดิฉันเคยเป็นครูโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่มีความจำเป็นบางประการที่ทำให้ต้องลาออก แล้วกลับมาอยู่กับพ่อแม่ที่ราชบุรี บ้านของดิฉันเอง ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำมานานยี่สิบกว่าปี ตั้งแต่ดิฉันยังแบเบาะโน่นแน่ะค่ะ
เมื่อปีที่แล้ว ผู้มีพระคุณของครอบครัวเราเรียกใช้ให้ดิฉันไปสอนพิเศษให้หลานๆ ของท่าน คือลูกของลูกสาวท่านน่ะค่ะ ลูกสาวท่านชื่อคุณกิ่งแก้ว มีบ้านอยู่ที่พุทธมณฑล เธอมีลูกสาว 2 คนเป็นผู้หญิงทั้งคู่ ชื่อน้องกุ้งกับน้องกั้ง อายุ 5 ขวบ กับ 7 ขวบ งานของดิฉันคือไปสอนการบ้านและทบทวนวิชา น้องๆ จะได้เรียนเก่งๆ
ทุกๆ วันศุกร์ตอนบ่ายๆ ดิฉันจะขับรถจากราชบุรีมาที่พุทธมณฑล และค้างคืนวันศุกร์กับวันเสาร์ กลับราชบุรีเย็นวันอาทิตย์ ใช้เวลาอยู่กับน้องกุ้งน้องกั้งเต็มที่ ดูๆ แล้วก็เหมือนครูกึ่งพี่เลี้ยง คือทั้งสองทั้งไปเที่ยวด้วย และคอยดูแลตลอดสุดสัปดาห์ โดยคุณกิ่งแก้วให้ดิฉันนอนในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งที่เรือนคนใช้
เรือนคนใช้ที่ว่านี้ ดิฉันก็เรียกให้โก้ๆ ไปยังงั้นเอง...ที่จริงมันเป็นส่วนหนึ่งของตัวบ้าน แต่สร้างยื่นออกมาข้างๆ ต่อจากห้องครัว ลักษณะคล้ายห้องแถวมี 3 ห้อง
ห้องหนึ่งนั้นมีป้านวลคนรับใช้และนง-คนเลี้ยงเด็กนอนอยู่ด้วยกัน ห้องตรงกลางใช้เป็นที่รีดเสื้อผ้า และห้องริมสุดปล่อยว่างไว้เฉยๆ ดิฉันนอนห้องนั้นละค่ะ มีเตียงมีตู้พร้อมสรรพ ลักษณะเหมือนเคยมีคนอยู่ที่นี่มาก่อน แต่พอถามป้านวลกับนง ทั้งคู่ก็ไม่ทราบเพราะพวกเขาเพิ่งมาทำงานกับคุณกิ่งแก้วได้แค่ 4 ปี
พอมาถึงห้องนี้ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว...
คนใช้รุ่นก่อนหน้าป้านวลนั้นลาออกไปหมดแล้วละค่ะ คุณกิ่งแก้วบอกว่าไปแต่งงานบ้าง ไปทำงานโรงงานบ้าง ดิฉันก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่ขอบอกตรงๆ ว่า ตั้งแต่คืนแรกที่ได้มานอนดิฉันก็เริ่มรู้สึกพิกลๆ มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก!
ดิฉันไม่ใช่คนกลัวผีนะคะ เพียงแต่หวาดๆ และไม่ชอบอยู่ในที่ที่ทำให้เราต้องคอยหวาดระแวง...ห้องนี้ก็เหมือนกันค่ะ
ทีแรกดิฉันคิดว่าเป็นรอยเปื้อนสีน้ำตาลบนผนังหัวเตียง มันเหมือนเลือดที่สาดกระเซ็นเป็นฝอย ดิฉันเอาฟองน้ำจุ่มน้ำยาล้างจานมาเช็ดๆ มันก็ไม่ออก...ช่างมัน! ไม่เป็นไรหรอก ดิฉันไม่ใช่คนคิดมาก
รอยเปื้อนสีน้ำตาลยังไม่น่าสนใจเท่าอาการปวดต้นคออย่างน่ารำคาญ ซึ่งเกิดทุกครั้งที่ดิฉันใกล้จะเคลิ้มหลับ มันปวดคล้ายๆ ใครเอาอะไรมาสับ...ดิฉันถึงกับลุกขึ้นนั่งในความมืด เอามือนวดต้นคอ พอล้มตัวลงนอนก็เป็นอีก...ทีแรกนึกว่าเป็นเพราะความเครียด แต่เมื่อมันเกิดบ่อยครั้งเข้า ดิฉันก็พยายามคิดหาสาเหตุ...แน่ละค่ะ! ไม่ใช่เพราะความนุ่มความแข็งของหมอน ดิฉันนอนสบายดี แต่จะปวดต้นคอหนึบชาขึ้นมาทุกครั้งที่ใกล้จะหลับ
มันเหมือนมีใครพยายามจะมาบอกอะไรบางอย่าง...
ใครบางคนกำลังแสดงให้ดิฉันดูว่า เขาตายอย่างไร!
นั่นเป็นสิ่งที่แล่นเข้ามาในสมอง ตอนที่ดิฉันกำลังครุ่นคิดว่าอาการปวดมันเกิดจากอะไร? และมันแปลกมากที่ดิฉันเริ่มแน่ใจว่าห้องนี้มีคนตาย! ห้องนี้เคยมีการฆาตกรรม!!
ดิฉันไม่ใช่คนเก็บความสงสัยไว้กับตัวให้ปวดสมองหรอกค่ะ วันหนึ่งเมื่ออยู่ตามลำพังกับคุณกิ่งแก้ว ก็เลยมีโอกาสถามเธอ คุณกิ่งแก้วทำตาดุเชียว บอกว่ามันเป็นเรื่องไม่น่าพูดถึงและขอร้องดิฉันว่าอย่าพูดให้ป้านวลกับนงรู้ เป็นอันขาด
บ้านหลังนี้เป็นเรือนหอของคุณกิ่งแก้วเอง อุตส่าห์ปลูกอุตส่าห์สร้าง เก็บเงินเก็บทองกันสองคนกับสามี เป็นบ้านที่เธอรักและผูกพันมาก แต่พออยู่อาศัยมาได้ 5 เดือนก็เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น...
ตอนนั้นคุณกิ่งแก้วยังไม่ได้ตั้งครรภ์ เธอมีสาวใช้ชื่อดาวเป็นสาวสวย คืนหนึ่งคุณกิ่งแก้วกับสามีไปต่างจังหวัด ดาวแอบพาแฟนเข้ามานอนในห้องนี้ ทั้งคู่เกิดทะเลาะกัน ฝ่ายชายใช้ขวดเบียร์ตีศีรษะเธอเลือดกระจาย เขาตีเธอซ้ำที่ต้นคออย่างแรง ทำให้กระดูกคอหักทันที
ดาวตายในห้องนี้ แฟนเธอก็หนีไปไหนไม่รอด...เรื่องนี้เกิดมาตั้ง 8 ปีแล้วละค่ะ คุณกิ่งแก้วนิมนต์พระมาสวดมนต์ ทำบุญบ้านใหม่เรียบร้อย แต่คนรับใช้คนอื่นๆ ก็ขอลาออกไปหมดเพราะกลัวผีของสาวดาว
คุณกิ่งแก้วบอกดิฉันว่า เธอไม่คิดว่าวิญญาณของดาวจะยังสิงสู่อยู่ห้องนี้ เธอน่าจะไปผุดไปเกิดตั้งนานแล้ว!
คิดดูก็แปลก ที่เมื่อตอนที่ป้านวลมาเป็นลูกจ้างใหม่ๆ พร้อมกับนงนั้น ทั้งคู่ไม่เลือกห้องที่เกิดเหตุ ทั้งที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย พวกเธอกลับขอไปนอนด้วยกันในห้องที่ห่างออกไป ป้านวลเคยนอนห้องนี้ แต่ก็บ่นเช่นเดียวกับดิฉันว่าอึดอัดและปวดเมื่อย...โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต้น คอ
จริงๆ แล้ว วิญญาณของดาวไม่เคยปรากฏเป็นตัวเป็นตน ไม่มีสุ้มเสียงใดๆ แต่ถ้าใครได้เดินเข้าไปในห้องนั้น จะรู้ว่ามันเศร้าและหดหู่มาก เหมือนมีใครพยายามจะบอกอะไรกับเรา แต่ทำไม่ได้เพราะอยู่คนละมิติ...
ในที่สุด คุณกิ่งแก้วก็ให้ดิฉันเข้ามานอนในบ้าน ในห้องนอนที่เตรียมไว้ให้เด็กๆ ซึ่งตอนนี้เด็กทั้งสองนอนกับพ่อแม่ ห้องนั้นก็ว่างอยู่
ห้องที่ดาวตายทิ้งไว้เป็นห้องเก็บของ ป้านวลกับนงยังไม่รู้ ถึงแม้จะมาอ่านคอลัมน์ขนหัวลุกนี้ เพราะดิฉันเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามและสถานที่จริงค่ะ!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด