เรื่องมีอยู่ว่า ไปทำบุญกันที่สระแก้วไปกับเพื่อนๆไปกัน 4 คน พอไปถึงก็ไปหาโรงแรม เราติดต่อขอ 2 ห้อง
ตอนแรกๆทางโรงแรมบอกว่ามีแค่ห้องเดียว แต่เราขอร้องให้เค้าหาห้องให้อีก ทางเจ้าหน้าที่เค้าเลยบอกเราว่ามีอีกห้องจะเอาไม ถามเราถี่ๆ ก็ตอบไปว่าเอา เราแยกกันนอนห้องละ 2 คน
(ในเรื่องนี้ขออ้างชื่อบุกคนด้วยคือลูกชายและหลานชายของท่านสำเภา ประจวบเหมาะ (อดีตรัฐมนตรี)) เรานอนกับหลานชายคุณลุงสำเภา
ตอนก่อนนอนก็ไม่มีเหตุการอะไร ก็คุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน เหตุการประหลาดเกิดขึ้นตอนเราสองคนจะเอนตัวลงนอน พอปิดไฟก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคน"โยนกระเป๋าของเราลงพื้นแรงๆ" ทีแรกนึกว่าน้องเค้าติดลมไม่ยอมนอน แต่พอลุกขึ้นเปิดไฟต่างคนต่างก็นึกว่าหยอกล้อกันเอง ก็เลยเปิดไฟอีกที ทีนี้เหมือนเดิมเหมือนมีคนโยนกระเป๋าลงมาแรงๆแรงกว่าครั้งแรกอีก น้องเค้าลีบเปิดไฟดูทีนี้สีหน้าไม่ดี เดินตรวจดูในห้องแล้วเปิดเบียร์กระป๋องดื่ม 1 กระป๋องด้วยสีหน้าซีดๆ แล้วขึ้นมานอน
ที่นี้เข้านอนเบียดๆเพื่อจะแน่ใจว่าเราไม่ได้ลุกไปแกล้งโยนกระเป๋า เราเอาพระออกมาไว้ที่หัวนอนด้วย บอกตามตรงว่ากลัวมากๆ พอครั้งที่ 3 ดับไฟ เสียงโยนกระเป๋าดังมากทีนี้เสียงอยู่ที่ข้างๆหัวนอนแล้ว ด้วยความที่ตกใจมากๆ คือไม่เคยเจอ(ผี)แบบจะๆแบบนี้ในชีวิตเลย คือแบบที่เค้าเรียกว่าผีหลอกแบบจะๆ น้องกับเรากอดกันตัวสั่นเลย น้องเค้าตัวสั่นจริงๆ ด้วยความที่ทั้งกลัวทั้งโกรธ จะเป็นคนอารมย์ร้อน มากๆ บวกกับอาการ(กลัว) แบบสุดขีดเลย(วีนแตก)
โทรศัพลงไปที่ฟรอนท์โวยวายว่าเราเจอผี เจ้าหน้าที้เค้าตกใจมากๆแล้วพูดกับเพื่อนพนักงานด้วยความกลัวและลืมปิดเสียงโทรศัพโดยพูดกันด้วยความตกใจว่า..."แขกโดนอีกแล้วๆๆๆ" แล้วเค้าบอกว่าจะให้พลักงานชายมาเฝ้าหน้าประตู
ตอนนั้นเอามือคว้าพระที่เอาออกมาวางที่หัวเตียง แต่ต้องตกใจเป็นรอบที่ 2 พระที่วางไว้หาย เราคว้ากระเป๋าออกมาดู พระกลับเข้าไปอยู่ในกระเป๋าเหมือนเดิม
ทีนี้วิ่งอย่างเดียว วิ่งแบบไม่คิดชิวิตไปอีกห้องแบบหมดอาย เพื่อนอีกห้องตกใจมากที่เห็นสภาพเราทั้ง 2 กว่าฟ้าจะสว่างไม่ได้นอนเลย
พอตอนเช้าแม่บ้านมาบอกว่า..."คุณทำบุญอุทิศให้เค้านะ" กลับมาถึงกรุงเทพแล้วได้โทรเล่าให้ครูบาเจ้าอินสมท่านฟัง ยังเล่าไม่ทันจบท่านพูดสวนขึ้นว่า..."เป็นผีตายโหง เปิ้นแรงมาก เปิ้นมาขอส่วนบุญส่วนกุศล ฆ่ากันตายในห้องนั้น"
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าไปพักที่โรงแรมถ้าพนักงานเค้าบอกว่า(ห้องไม่มี)ก็อย่าไปเซ้าซี้ เพราะอาจจะพบเจอเหตุการแบบนี้ก็ได้
ที่มา: คุณพสภัธ Palungjit.Org
ตอนแรกๆทางโรงแรมบอกว่ามีแค่ห้องเดียว แต่เราขอร้องให้เค้าหาห้องให้อีก ทางเจ้าหน้าที่เค้าเลยบอกเราว่ามีอีกห้องจะเอาไม ถามเราถี่ๆ ก็ตอบไปว่าเอา เราแยกกันนอนห้องละ 2 คน
(ในเรื่องนี้ขออ้างชื่อบุกคนด้วยคือลูกชายและหลานชายของท่านสำเภา ประจวบเหมาะ (อดีตรัฐมนตรี)) เรานอนกับหลานชายคุณลุงสำเภา
ตอนก่อนนอนก็ไม่มีเหตุการอะไร ก็คุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน เหตุการประหลาดเกิดขึ้นตอนเราสองคนจะเอนตัวลงนอน พอปิดไฟก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคน"โยนกระเป๋าของเราลงพื้นแรงๆ" ทีแรกนึกว่าน้องเค้าติดลมไม่ยอมนอน แต่พอลุกขึ้นเปิดไฟต่างคนต่างก็นึกว่าหยอกล้อกันเอง ก็เลยเปิดไฟอีกที ทีนี้เหมือนเดิมเหมือนมีคนโยนกระเป๋าลงมาแรงๆแรงกว่าครั้งแรกอีก น้องเค้าลีบเปิดไฟดูทีนี้สีหน้าไม่ดี เดินตรวจดูในห้องแล้วเปิดเบียร์กระป๋องดื่ม 1 กระป๋องด้วยสีหน้าซีดๆ แล้วขึ้นมานอน
ที่นี้เข้านอนเบียดๆเพื่อจะแน่ใจว่าเราไม่ได้ลุกไปแกล้งโยนกระเป๋า เราเอาพระออกมาไว้ที่หัวนอนด้วย บอกตามตรงว่ากลัวมากๆ พอครั้งที่ 3 ดับไฟ เสียงโยนกระเป๋าดังมากทีนี้เสียงอยู่ที่ข้างๆหัวนอนแล้ว ด้วยความที่ตกใจมากๆ คือไม่เคยเจอ(ผี)แบบจะๆแบบนี้ในชีวิตเลย คือแบบที่เค้าเรียกว่าผีหลอกแบบจะๆ น้องกับเรากอดกันตัวสั่นเลย น้องเค้าตัวสั่นจริงๆ ด้วยความที่ทั้งกลัวทั้งโกรธ จะเป็นคนอารมย์ร้อน มากๆ บวกกับอาการ(กลัว) แบบสุดขีดเลย(วีนแตก)
โทรศัพลงไปที่ฟรอนท์โวยวายว่าเราเจอผี เจ้าหน้าที้เค้าตกใจมากๆแล้วพูดกับเพื่อนพนักงานด้วยความกลัวและลืมปิดเสียงโทรศัพโดยพูดกันด้วยความตกใจว่า..."แขกโดนอีกแล้วๆๆๆ" แล้วเค้าบอกว่าจะให้พลักงานชายมาเฝ้าหน้าประตู
ตอนนั้นเอามือคว้าพระที่เอาออกมาวางที่หัวเตียง แต่ต้องตกใจเป็นรอบที่ 2 พระที่วางไว้หาย เราคว้ากระเป๋าออกมาดู พระกลับเข้าไปอยู่ในกระเป๋าเหมือนเดิม
ทีนี้วิ่งอย่างเดียว วิ่งแบบไม่คิดชิวิตไปอีกห้องแบบหมดอาย เพื่อนอีกห้องตกใจมากที่เห็นสภาพเราทั้ง 2 กว่าฟ้าจะสว่างไม่ได้นอนเลย
พอตอนเช้าแม่บ้านมาบอกว่า..."คุณทำบุญอุทิศให้เค้านะ" กลับมาถึงกรุงเทพแล้วได้โทรเล่าให้ครูบาเจ้าอินสมท่านฟัง ยังเล่าไม่ทันจบท่านพูดสวนขึ้นว่า..."เป็นผีตายโหง เปิ้นแรงมาก เปิ้นมาขอส่วนบุญส่วนกุศล ฆ่ากันตายในห้องนั้น"
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าไปพักที่โรงแรมถ้าพนักงานเค้าบอกว่า(ห้องไม่มี)ก็อย่าไปเซ้าซี้ เพราะอาจจะพบเจอเหตุการแบบนี้ก็ได้
ที่มา: คุณพสภัธ Palungjit.Org