เรื่องผี เดอะช็อค | เฮี้ยนแบบนี้ ต้องปราบ
เรื่องราวที่คุณนุประสพพบเจอกับตัวเองมา ในสถานศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดยโสธร เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา คุณนุให้ชื่อเรื่องนี้ว่า “เฮี้ยนแบบนี้ ต้องโดนปราบ”
ขอท้าวความไปเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ตอนที่ผมยังเรียนอยู่ที่สถานศึกษานี้ ที่แห่งนี้อยู่ในจ. ยโสธร ศึกจะพบเจอกับเหตุการณ์ความ “เฮี้ยน” กันมาต่อเนื่อง
หนึ่งในเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่เคยลืมคือ จะมีน้องผู้หญิงคนนึงที่ถูกสัมภเวสีเข้าสิงเป็นประจำ เธอมักจะกรี๊ดร้องขณะเข้าแถวในตอนกลางวันแสกๆ
บ้างก็วิ่งกระโดลงในสระน้ำของสถานศึกษา บ้างก็ลุกขึ้นด่าอ.ที่มาใหม่ว่า…
“เมิงมาใหม่ ทำไมไม่บอกไม่กล่าวกรู”
จนก็พยายามหาทางช่วยกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพรมน้ำมนต์ สวดมนต์ หรือเอาพระมาใส่
หลังจากนั้นผมก็จบจากสถานศึกษาแห่งนี้ไปเรียนต่อ 2 ปี ก่อนจะกลับมาเป็นครูอัตราจ้างที่สถานศึกษาแห่งนี้อีกครั้ง…
ตอนมาผมก็ลืมๆเรื่องนั้นไปบ้าง มาถึงก็ไม่ได้ไหว้หรือจุดธูปอะไร… ผมมาสอนวันแรกก็เจอเลยครับ ที่ห้องพักครูด้านหลังจะเป็นห้องน้ำ ขณะผมเข้าห้องน้ำ…จู่ก็มีน้ำล้น ไหลออกมาจากห้องข้างๆจนนองพื้น
บนน้ำที่กระเพื่อมอยู่นั้น ผมเห็นเป็น “เงาคน” ยืนอยู่ที่นั่น ออกมาจากห้องน้ำ ผมก็สังเกตเห็นได้ว่าห้องข้างๆประตูปิดอยู่ บางทีอาจจะมีคนเข้า ผมคิดเช่นนั้น
จนผ่านไปอีกวัน ผมก็ยังเจอเหตุการณ์แบบนี้ คือเห็นเหมือนมีคนใช้ห้องน้ำข้างๆ และยืนหันหน้ามาทางนี้
วันต่อมาผมจึงถามภารโรงว่า…
“นี่ลุง ทำไมห้องน้ำด้านหลัง มีคนใช้แล้วไม่ปิดน้ำล่ะ”
สิ่งที่ลุงพูดกลับมาคือ… “เป็นไปไม่ได้ ห้องน้ำด้านหลังนั่นไม่ได้ถูกเปิดใช้งาน เพราะมันเสียรวมทั้งประตูด้วย ยังไม่ได้เบิกงบซ่อมเลย”
สร้างความขนลุกให้ผมเป็นอย่างยิ่ง คืนนั้นผมนั่งทำงานล่วงเวลาจนราว 2 ทุ่ม… ขณะผมจะกลับ ปิดจอคอมเรียบร้อย จู่ๆก็มีเงาคนปรากฎขึ้นสะท้อนบนหน้าจอคอม! ผมตกใจหันหลังไปดูก็ไม่มีอะไร มีเพียงผ้าม่านกระจกหลังโต๊ะทำงาน จากนั้นผมก็ปิดไฟห้องทำงาน ออกมาล็อคประตูกระจกจากด้านนอก
จู่ๆท่ามกลางความมืด…จอคอมเครื่องผม ก็ดันสว่างวาบขึ้นมาซะงั้น ที่น่าตกใจกว่าคือ มันเผยให้เห็น “เงาคน” บางคนที่อยู่ด้านหลังผ้าม่านนั่น!!
ผมรีบวิ่งกลับไปที่บ้านพักทันที จู่ๆก็ได้กลิ่นเน่าๆทันที พยายามเดินหาแหล่งที่มากลิ่นอยู่นานก็ไม่เจอ จนนอนไปทั้งแบบนั้น สักพักนึงก็รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก อย่างกับว่ามีคนมานั่งทับท้องจนกระดุกกระดิกไม่ได้
พอตั้งสติได้ผมก็เอื้อมมือหยิบพระและตระกรุดที่พ่อให้ไว้มา พอตระกรุดตกลงมาที่หลังผมเท่านั้นแหละ อาการทุกอย่่างหายเป็นปลิดทิ้ง!
นอกจากผมแล้ว…ครูที่มาใหม่ก็จะเจอกันทุกคน เช่นครูรุ่นพี่คนหนึ่งที่เข้ามานอนเวร ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู พร้อมเสียงผู้หญิงเรียกเย็นเยียบเข้ามาว่า…
“นอนกับใครเหรอ…”
หลังจากนั้นทั้งผมและครูคนนั้นก็ลาออกทันที เป็นสถานที่ที่มักไม่มีใครอยากเข้ามาสอนจริงๆ ขึ้นชื่อเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ หนึ่งในนั้นคือ…แม้แต่ผอ.ก็ไม่เว้น เนื่องจากผอ.ย้ายมาใหม่ จนทำให้แกไม่มาที่สถานศึกษาแห่งนี้ไปเป็นอาทิตย์
หลังจากนั้นแกก็ตัดสินใจสร้างศาลพระภูมิขึ้น โดยเป็นศาลพระภูมิลักษณะแบบเรือนไม้ มีบันไดขึ้น เราไหว้ศาลกันอยู่กว่า 5-6 เดือน แต่แทนที่เรื่องทุกอย่างจะสง กลับรุนแรงกว่าเดิม… วันไหนที่ของเซ่นไหว้ช้าหน่อย จะเริ่มอาละวาดแล้ว
วันนึงน้องคนที่มักโดนผีเข้า จู่ๆก็พรุ่งพรวดขึ้นไปนั่งบนศาลพระภูมิ พร้อมพูดว่า…
“อยู่ที่นี่ ทำไมพวกมึงไม่ดูแล กรูหิว..กรูหิว!” … “พวกเมิงเข้ามาอยู่กันก็ไม่เคารพกรู”
จบคำนั้นทั้งครู และนักเรียนก็วิ่งแตกฮือกันไปคนละทาง จนมีนักเรียนบางคนที่ใจกล้า เข้าไปรวบตัวน้องผู้หญิงลงมา… ภาพที่ไม่น่าเชื่อสายตาคือ นักเรียนผู้ชาย 5 คนรั้งน้องผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียวแทบไม่อยู่!
จนผอ. ได้เรียกประชุมกับคณะครู ได้อัญเชิญพระหลวงปู่ท่านนึงมาช่วยทำพิธีที่โรงเรียน
หลวงปู่ท่านกลับพูดว่า…”สถานศึกษาไม่จำเป็นต้องมีศาล ใครให้ตั้งศาล?”
“สัมภเวสีก็อยู่ส่วนสัมภเวสี ไม่ต้องไปกราบไหว้”
หลวงปู่ท่านก็ให้รื้อศาลทิ้ง เรียกว่ารื้อกันทั้งหมดเลย… แล้วหลวงปู่ก็ทำพิธีใหญ่สวดอยู่ 9 วัน รวมถึงปัดเป่าให้ทั้งครูและนักเรียน
จากนั้นท่านก็อัญเชิญองค์พระวิษณุมาประดิษฐาน มาตั้งแทน แล้วก็เปลี่ยนมาไหว้พระกันแทน แล้วหลังจากนั้นเรื่องราวแปลกๆก็เงียบหายไปเลย
ภายหลังผมได้ไปสืบเรื่องราว ได้ความว่า..โรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่บนป่าช้าเก่า มีผู้อุปถัมภ์ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว แล้วทางครอบครัวเขาได้บริจาคมอบให้มาสร้างโรงเรียนบนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งด้านหลังโรงเรียนเป็นป่า ซึ่งยังใช้เป็นที่ฝังศพอยู่เลย แต่ต่อมา 2-3 ปีหลัง ได้เลิกใช้ไปแล้ว เพราะทางโรงเรียนนำพื้นที่ไปปลูกต้นยูคา
ส่วนอีกเรื่องเล่าคือ ว่ากันว่าขณะสร้างโรงเรียนแห่งนี้ ก็มีคนตายไปกว่า 10 คน เนื่องจากสร้างความไม่พอใจให้เหล่าสัมภเวสี มีอยู่คนนึงที่ถูกกระเบื้องตกลงมาปาดคอ จนดับอย่างน่าสยอง และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดของเรื่องผี the shock เรื่องนี้
0 Comments:
Post a Comment