เรื่องผี เดอะช็อค | เสื้อวัด
เรื่องราวของคุณมีนในวันนี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาที่ทางภาคเหนือ ตุณมีนให้ชื่อเรื่องนี้ว่า “เสื้อวัด”
คือเรื่องผี the shock เรื่องนี้มันมีมีอยู่ว่า…คุณมีนเล่าว่าเป็นเรื่องราวสมัยยังเป็นวัยรุ่น มีอยู่คืนนึงเพื่อนชวนออกไป “หาผู้ชาย” ซึ่งตัวคุณมีนนั้นแค่ไปเป็นเพื่อนเท่านั้น
โดยไปกันทั้งหมด 4 สาวรวมตัวคุณมีน ด้วยมอ’ไซค์ 2 คัน
ตอนนั้นเป็นเวลาราว 3 ทุ่มแล้ว ก็พากันไปทางทางขึ้นดอยสุเทพ ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ตีนดอย” ซึ่งสร้างความสงสัยกับคุณมีนมากกก นางก็งงว่ามาทำไรกันแถวนี้ เพราะถัดจากครูบาศรีวิชัยไปอีก ก็จะมีแต่ป่าเท่านั้น
จนกระทั่งขี่มาเจอวัดวัดหนึ่ง ก็จอดที่วัดนั้น คิดว่าคงนัดกับเพื่อนชายซึ่งอาจจะมากินเหล้าอะไรกันในที่แบบนี้ล่ะมั้ง ขณะที่รออยู่หน้าบันไดทางขึ้นวัด คุณมีนก็เหลือบไปเห็นลุงคนนึงอยู่แถวนั้นใส่เสื้อม้อฮ่อมของทางเหนือ ใจคอก็ไม่สู้ดีว่านั่นใคร
คุณมีนยังไม่ทันหายสงสัยว่ามาหาใคร สักครู่มีสามเณรเดินมา 3 รูป เรื่องราวมาเฉลยจากปากเพื่อนผู้หญิง 2 คนว่า…
“ก็นี่แหละ…กรูมาหาเณร”
เล่นเอาตะลึงกันเลยทีเดียว ระหว่างนั้นทั้งหมดก็นั่งอยูที่บันไดทางขึ้นวัด คุยกันได้สักพัก คุณมีนกับเพื่อนหญิงอีกคนนึงที่มาเป็นเพื่อนเช่นกัน ก็เดินออกมาจากตรงนั้น เนื่องจากไม่อยากรับรู้กับเรื่องราวอาบัติที่จะเกิดขึ้น ซึ่งคุณมีนก็ไม่ทรบได้ว่าระหว่างนั้น..2 หญิง 3 เณร จะทำอะไรกันมากไปกว่าคุยหรือไม่ ซึ่งใครที่ได้ฟังเรื่องผี the shock ในวันนั้น คงรู้สึกได้ถึงความดำมืดที่จะตามมาในเหตุการณ์นี้
ส่วนคุณมีนก็เดินห่างออกมาอีกจนไปเจอลุงคนที่เห็นเมื่อสักครู่เข้า… ลุงถามว่า
“หนู เป็นผู้หญิงยิงเรือ มาทำอะไรกันดึกๆแบบนี้ แล้วนี่ก็เป็นวัดนะ”
คุณมีนก็ได้แต่บอกไปว่า…
“หนูมาเป็นเพื่อนเขาเฉยๆ ใจจริงหนูอยากกลับแล้วลุง”
“ลุงช่วยไปบอกเพื่อนหนูทางนู้นทีได้ไหม” … ในใจคุณมีน หวังให้ลุงช่วยไปเอ็ด แต่สิ่งที่ลุงพูดกลับมาคือ..
“กรรมใคร ก็กรรมมัน”!!?
ออกจะเป็นคำพูดที่มีความนัยอยู่…ขณะนั้นเพื่อนคุณมีนอีกคนมาตามบอกว่าเขาจะขึ้นไปบนวัดกันแล้ว จังหวะนั้นคุณมีนหันกลับไปดู ก็ไม่พบลุงคนเมื่อกี้ ราวกับแกหายไปในอากาศซะเฉยๆ
หลังจากคุณมีนต้องตามน้ำขึ้นมาบนวัด เพราะรถมอ’ไซค์ไม่ใช่ของตนเอง คุณมีนบอกเพื่อนแล้วว่า “กลับเถอะ ฉันว่าบรรยากาศมันไม่ค่อยดีแล้ว” แต่เพื่อนก็ยังรั้นว่า “ไม่มีอะไรหรอก”
เพื่อนของคุณมีน 2 คน นั่งคุยกับเณรอยู่หลังกุฏิ ส่วนคุณมีนกับเพื่อนอีกคนก็รออยู่ด้านหน้า… สักพัก เพื่อน 2 คนก็ออกมาแจ้งข่าวเซอร์ไพรส์ว่า..
“คืนนี้กรูจะนอนกุฏินี่นะ” !!!
คุณมีนก็ได้แต่ทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังเพื่อนทั้งคู่เข้าไปนอนกันสักพักใหญ่ ก็มีเสียงของเพื่อนดังออกมาจากในกุฏิ!
เพื่อนออกมา บอกว่า..เห็นผู้ชาย ผู้หญิงเดินไปมาอยู่นอกหน้าต่างจนนอนไม่ได้ สักพักนอนๆอยู่ก็ถูกดึงขา!
ตอนนั้นคุณมีนบอกว่าใจไม่ดีมาก เลยชวนเพื่อนอีกคนที่รออยู่ไปไหว้ขอขมาศาลในวัด ที่คนเหนือจะเรียกกันว่า “เสื้อวัด”
“หนูไม่ได้ตั้งใจมาทำอะไรไม่ดีเลย หนูแค่มาเป็นเพื่อน และหนูไม่สามารถจะทำอะไรได้จริงๆ หนูขอโทษด้วย”
จนกระทั่งราวตี 2 เพื่อนทั้งคู่ก็ออกมาบอกว่าจะกลับแล้ว ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร มารู้ตอนหลังว่าเจอหลอกจนนอนไม่ได้เลยกลับ
เช้าวันต่อมา ปรากฎว่าเพื่อนทั้ง 2 คนนั้นกลายเป็นคนสติหลุด ไม่มีสติสัมปัชชัญญะ อย่างกับคนบ้า!
พ่อแม่ของทั้งคู่ก็ได้มาถามทางคุณมีนว่า ไปทำอะไรกันมารึเปล่า… แต่ด้วยเรื่องราวที่มันเป็น untold story ไม่สามารถเล่าได้จริงๆ คุณมีนเลยเลี่ยงไปว่า
“ไม่ได้ไปทำอะไรนะคะ แค่ไปเที่ยวแถวคูเมืองเอง เพื่อนไม่สบายรึเปล่า”
ปรากฎว่าเพื่อนไปหาหมอก็แล้ว แต่ก็ไม่หาย จนในที่สุดพาไปหาร่างทรง ทันทีที่ร่างทรงเห็นก็ทักมาคำเดียวว่า…
“พวกเมิงไปทำเรื่องอะไรกันมา เค้าตามกลับมา” … “เตือนแล้วไม่ฟัง รู้มั้ยว่าเค้าจะเอาให้ตาย”
หลังจากนั้นแม่ของเพื่อนก็มาถามมีน ว่าร่างทรงเค้าทักมาแบบนี้..มีนจึงต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
ทันทีที่แม่เค้ารู้เรื่องก็ร้องไห้เสียใจ น้ำตาร่วง จนวันต่อมาต้องพาเพื่อนไปทำพิธีขอขมากับเจ้าที่เจ้าทางที่วัด พร้อมกับสามเณรอีก 3 รูป
ร่างทรงก็ไปด้วยกัน ก็ทำพิธีขอขมา ทำพิธีเสียผี ส่วนสามเณรก็ต้องถูกจับสึก หลังจากทำเสร็จแล้ว…ร่างทรงก็บอกว่า
“กรูไม่ยอม มันมากเกินไป กรูจะเอาให้ตาย!” ราวกับว่ามีบางอย่างสื่อสารผ่านร่างทรง
ตอนนั้นทุกคนต่างกลัวหมด จนร่างทรงบอกว่ามีอยู่วิธีเดียวที่จะแก้ได้คือ..”บวชชี”
คนพ่อคนแม่ก็พยายามเจรจาว่า…เออนี่ จะให้ไปบวชชีก็ได้ ยอมทำตาม แต่ขอให้ลูกกลับมามีสติ พูดรู้เรื่องก่อนได้มั้ย ขืนเป็นแบบนี้คงจะไปบวชไม่ได้
ร่างทรงก็ตอบกลับมาว่า…ให้ไปบวชเถอะ เดี๋ยวจะดีเอง
หลังจากนั้นทางครอบครัวก็พาเพื่อนไปบวชอยู่ 1 เดือน ระหว่างที่บวชก็เจอผีหลอกทุกกกกวัน แต่ก็ผ่านมาได้ จนครบเวลาแล้วก็กลับมามีสติเหมือนดังเดิม…
เรื่องผี the shock เรื่องนี้เป็นสติสอนใจได้ดีเลยว่า…”อะไรควร และไม่ควร” ต้องรู้จักกาละ และเทศะให้มาก
0 Comments:
Post a Comment