===Not Click=== ===Not Click===

เวรหลอน : คุณฟ้า



เรื่องเล่าโดยคุณฟ้า

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ฟ้าเป็นพยายาลฝึกหัดอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนึง แล้ววันนั้น เพื่อนฟ้าไม่สบาย ฟ้าก็เลยต้องเข้าเวรแทนเพื่อน โดยส่วนตัวฟ้านั้นจะอยู่ที่แผนกฉุกเฉิน แต่วันนั้นฟ้าต้องไปอยู่ที่ แผนก อายุรกรรมชาย ซึ่งเป็นชั้น 2 ของโรงพยายาล

ในคืนนั้นเวลา 5 ทุ่มครึ่ง ฟ้าก็เข้ามารอ เพราะตอนเที่ยงคืนก็จะส่งเวรต่อให้ฟ้า แล้ววันนั้นก็มีอุบัติเหตุใหญ่ พี่ที่เป็นหัวหน้าพยายาลจะลงไปช่วยที่ฉุกเฉินข้างล่าง ณ ตรงนั้นก็จะเหลือแค่ ฟ้า แค่คนเดียว ฟ้าก็กลัวก็เลยบอกให้เพื่อนอีกคนนึงที่เข้าเวรอยู่ชั้น 3 ลงมาอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าพี่หัวหน้าจะกลับมา แล้วก็ถึงเวลาที่ฟ้าจะต้องไปวัดความดันคนไข้ แต่พี่หัวหน้าพยาบาลก็ยังไม่ขึ้นมา ฟ้าก็ชวนเพื่อนไป โดยเริ่มต้นที่ชั้น 2 ก่อน ก็ไม่มีปัญหาอะไร ก็เลยจะไปต่อกันที่ชั้น 3 ในระหว่างทางที่จะไปชั้น 3 ก็เห็นเด็กผู้ชายคนนึงอายุประมาณ 13 นั่งอยู่มีผ้าพันศีรษะอยู่ตรงบันได ฟ้าก็ตกใจ แต่เพื่อนของฟ้าก็บอกฟ้าว่า ไม่ต้องตกใจ ฉันก็เห็น ก็เข้าใจตรงกันว่าคน ก็เลยเดินเข้าไปหาน้องคนนั้น ลักษณะของน้องผู้ชาย ก็เป็นคนปกติ



หลังจากนั้น แจงก็ขึ้นไปวัดความดัน ส่วนฟ้าอยู่ที่ เคาท์เตอร์ เพื่อที่จะเอาแฟ้มเอกสาร ไม่เกิน 20 นาที แจงก็ออกมา ก็เลยจะลงไปชั้น 2 แวะดูน้องด้วย แต่พอเดินลงมาน้องก็ไม่อยู่แล้ว และฟ้าก็ทักเพื่อนไปว่า แกยังไม่ได้วัดความดันน้องเลยนะ แจงก็บอกไม่เป็นไร เหลือแค่ห้องเดียว เดี๋ยวพอส่งเวร ค่อยขึ้นมาวัดความดันก็ได้ แล้วก็ลงมารอพี่ๆข้างล่าง

ในระหว่างที่รอ ก็เริ่มไล่ๆดูแฟ้มประวัติว่าคนไข้อาการเป็นยังไงบ้าง ระหว่างนั้นฟ้าก็เห็นเสียงเหมือนรถเข็นมาจากทางบันได ฟ้าก็เลยมองไปทางเสียงนั้น และฟ้าก็ถามแจงว่า ทำไมมีการย้ายคนไข้หรอ และได้ยินเสียงรถเข็นมั๊ย แจงก็บอกว่าได้ยินๆ แปปนึง เพราะว่ากำลังหาชื่อน้องผู้ชายคนนั้นอยู่ พอเจอชื่อวันเฉลิม แจงก็สงสัยว่าทำไมวันเฉลิมถึงเป็นสัญลักษณ์สีแดง ซึ่งตอนนั้นฟ้า ไม่ได้สนใจในสิ่งที่แจงพูด เพราะมัวแต่สนใจเสียงรถเข็นที่เข็นมาอยู่ว่าเป็นใคร และฟ้าก็ชะโงกหน้าออกไปดูก็เห็นว่าเป็นน้องวันเฉลิม 

ลักษณะที่เขาเดินมา คือเห็นน้องเขาลงมาจากบันไดแล้วเลี้ยวมาตรงทางเดินมาที่เคาท์เตอร์แล้ว   แล้วน้องก็เรียกฟ้าว่า พี่ครับๆ ฟ้าก็ถามแจงว่าเห็นมั๊ย แจงก็บอกว่าเห็น แต่ไม่ใช่คน ซึ่งตอนนั้นแจงนั้นน้ำตาไหลแล้ว แล้วถ้าฟ้าและแจงจะลงจากตึกก็ต้องเดินผ่านน้องเพื่อไปที่บันได ซึ่ง ณ เวลานั้นมันอยู่ไม่ได้แล้ว ฟ้าก็หันหน้าไปที่ระเบียง ฟ้าก็เลยดึงแจงไปตรงระเบียง พอฟ้าไปถึงระเบียง น้องก็มาถึงตรงเคาท์เตอร์ละ และก็ก้มหน้าลงมาที่ช่อง แล้วก็พูดว่า พี่ครับเห็นแม่ผมมั๊ยครับ ฟ้าก็เลยถามแจงว่าจะอยู่หรอ แจงก็ถามว่า ไม่อยู่แล้วจะไปทางไหน ฟ้าก็เลยบอกว่า ต้องโดดระเบียง แจงก็บอกว่า ไม่ โดดไม่ได้ โดดลงไปขาแข้งหักเลยนะ ฟ้าก็บอกต่อว่า เออ งั้นก็อยู่ให้น้องมาคุยกับแกละกัน และฟ้าก็โดดลงจากชั้น 2 ลงมาเลย ซึ่งข้างล่างจะเป็นสวนหย่อม และแจงก็โดดตามลงมา ตอนนั้นฟ้าข้อเท้าหัก ส่วนแจงแขนหัก คนที่อยู่ข้างล่างก็ตกใจตะโกนกันว่าพยาบาลโดดตึก ฟ้าก็ได้แต่เงียบแล้วก็มองขึ้นไปที่ระเบียง ก็เห็นน้องอยู่ตรงระเบียงแล้วก็มองลงมา แล้วพี่ๆเขาก็พาเราไปปฐมพยาบาลที่แผนกฉุกเฉิน และด้วยวันนั้นที่แผนกฉุกเฉินคนเยอะมาก ทั้งผู้ป่วยทั้งญาติ เสียงก็ดังมาก ฟ้าก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คนตรงนั้นฟัง ด้วยเสียงที่มันดัง ฟ้าก็รู้ตามจรรยาบรรณว่าไม่ควรเป็นแบบนั้น แต่ ณ เวลานั้น ฟ้าคุมสติไม่ได้แล้ว หลังจากที่ปฐมพยาบาลเสร็จ ฟ้าก็ไปอยู่ที่ห้องพักเวร ก็มีสายจากท่าน ผอ.  ว่าพรุ่งนี้ 8 โมงเช้าให้เข้าพบ ฟ้าก็ทำใจแล้วแหละ ว่าอาจจะไม่จบ


พอตอนเช้า ฟ้าและแจงก็เข้าพบท่าน ผอ. ท่านก็เรียกฟ้าไปสอบถาม ซึ่งตามทางหลักวิทยาศาสตร์ เขาไม่เชื่ออยู่แล้ว แล้วท่านก็เอาหุ่นที่เป็นกระดูกมาชี้ และถามฟ้าว่าส่วนนี้เรียกว่าอะไร ส่วนนั้นเรียกว่าอะไร และฟ้าก็ตอบได้หมด จนมาถึงคำถามสุดท้าย เขาถามว่าแล้ววิญญาณอยู่ตรงไหน ฟ้าและเพื่อนก็ตอบไม่ได้ ท่าน ผอ.เลยให้ฟ้าและเพื่อนไปนั่งคิด โดยการให้ไปเฝ้าเวรหน้าห้องดับจิต 7 วัน เข้าเวรตั้งแต่ 1 ทุ่มจนถึง 8 โมงเช้า ณ เวลานั้นฟ้าและแจนไม่ได้กลัวอะไรเลย เพราะรู้อยู่แล้วว่าข้างไหนนั้นคือศพ แต่ไม่รู้ว่าจะเอาคำตอบที่ไหนมาตอบ ว่าวิญญาณมันอยู่ตรงไหน ท่าน ผอ.ก็บอกอีกว่าเป็นพยาบาลควรมีจรรยาบรรณมากกว่านี้ ควรมีสติมากกว่านี้

พอเสร็จจากห้อง ผอ. ฟ้าก็เดินลงมาเอาของที่ชั้นที่เกิดเหตุ พอลงมาถึง ฟ้าก็เห็นว่ามีคนจับกลุ่มกันอยู่ ฟ้าก็คิดว่าต้องมีคนพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแหละ พอฟ้าไปถึงหน้าเคาท์เตอร์ก็บอกว่า พี่ค่ะ หนูขอของหน่อยค่ะ ในระหว่างที่รอพี่เขาไปหยิบของมาให้ ฟ้าก็หันไปเห็นผู้หญิงคนนึงยืนร้องไห้อยู่ และพยายามเรียกพยาบาลที่อยู่ตรงนั้นคุย แต่เหมือนกับว่าไม่มีใครที่จะคุย เหมือนกับแค่ว่าตอบผ่านๆแล้วก็เดินไป เขาก็เลยถามว่า พยาบาลที่ชื่อฟ้าอยู่ไหน ฟ้าก็เลยเดินไปหา แล้วก็บอกว่า หนูฟ้าเองค่ะ เขาก็เลยบอกว่า เขาเป็นแม่ของวันเฉลิมนะ แล้วเขาก็ร้องไห้แล้วก็จับมือฟ้า

แม่น้องก็เล่าว่า ในคืนนั้นช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ก่อนที่ฟ้าจะมาเตรียมรับเวร ซึ่งก่อนหน้านั้นคุณหมอได้แจ้งกับคุณแม่ไว้แล้วว่า น้องไม่มีอาการตอบสนองต่อยา นั่นก็คือร่างกายน้องไม่ไหวแล้ว ให้คุณแม่ทำใจ ในช่วงที่หมอบอกให้ทำใจ แม่ก็อยู่กับน้องมาตลอด น้องสู้มาเกือบๆ 2 เดือน ถอดเครื่องมือออกหมด อยากให้น้องหลับให้สบาย พอประมาณ 2 ทุ่มน้องเขาได้สติ และขอน้ำดื่ม แม่ก็เอาน้ำให้ดื่ม ซึ่งก่อนหน้านี้หมอบอกว่าถ้าน้องต้องการอะไร ให้ได้ก็ได้  แม่ก็แจ้งพยาบาลว่าน้องต้องการน้ำดื่ม และพยาบาลก็ไปแจ้งหมอต่อ หมอก็เลยบอกกับคุณแม่ว่า มันจะเป็นเหมือนเฮือกสุดท้ายจะมีอาการดีขึ้น และถ้าน้องได้หลับ น้องก็จะไปอย่างสงบ

พอคุณแม่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มทำใจไม่ได้ ณ ตอนนั้นความดันน้องเริ่มต่ำละ และก็จับมือแม่ไว้ตลอด คุณแม่ก็บอกกับฟ้าอีกว่า คุณแม่เลิกกับพ่อไปนานแล้ว ตลอดเวลารักษา คุณแม่ก็อยู่ข้างๆน้องตลอด และน้องก็จะบอกกับคุณแม่ตลอดตั้งแต่ก่อนผ่าตัดแล้วว่า น้องจะเป็นอะไรไม่ได้ คุณแม่ไม่มีใคร มีแค่เค้าคนเดียว และในตอนนั้นน้องก็หันมาเห็นคุณแม่ร้องไห้ น้องก็ถามว่าแม่ร้องไห้ทำไม ไหนแม่บอกว่าพรุ่งนี้เราจะกลับบ้านกันแล้วไง เนี่ยหนูดีขึ้นแล้วนะ หนูกินน้ำได้แล้ว คุณแม่ก็ยิ่งร้องเข้าไปใหญ่ ณ เวลานั้นก็มีน้า มีญาติๆมาอยู่เป็นเพื่อน น้องก็เลยบอกให้แม่ไปล้างหน้าสิ คุณแม่ก็บอกว่าไม่เป็นไรลูก หลังจากนั้นอาการน้องเริ่มไม่ดี คุณแม่ก็ทำใจไม่ได้

และบอกน้องว่าเดี๋ยวแม่จะไปเข้าห้องน้ำนะ น้องก็ถามแม่ว่าแม่จะไปเข้าที่ไหน ที่นี่ก็มีห้องน้ำนะ คุณแม่ก็เลยบอกว่าห้องน้ำมันเสียลูก แม่จะลงไปเข้าห้องน้ำตรงเนี๊ย ใกล้ๆ แปปเดียวเดี๋ยวแม่มา น้องก็บอกคุณแม่ว่า เขาจะรอ และพอคุณแม่เดินพ้นประตูออกไปน้องก็หลับตาและเสียชีวิตเลย ฟ้าก็เลยเข้าใจว่าเพราะเหตุนี้นี่เอง ฟ้าก็เลยบอกเขาว่า คือเขากำลังจะรับศพกลับบ้าน ก็ให้คุณแม่บอกเขานะ ว่าคุณแม่ไม่ได้ไปไหน เพราะไม่อย่างนั้นน้องก็จะอยู่แบบนี้

และคุณแม่ก็ทำพิธีตามศาสนา ซึ่งฟ้าก็ไปงานศพของน้องทุกคืน