===Not Click=== ===Not Click===

กระทู้ผีพันทิป : ป่ายูคาลิปตัส






เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณห้าปีที่ผ่านมา ที่จังหวัดอุดรธานี วันที่เกิดเรื่อง คุณเสกได้เอาของไปลงที่เวียงจันทร์ และช่วงเย็นก็ได้ข้ามกลับมาที่ฝั่งไทย ช่วงเวลานั้นประมาณเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวบ้านกำลังตัดอ้อยและเก็บเกี่ยวผลผลิตกัน

ทางบริษัทสั่งให้ไปขึ้นน้ำตาลที่อำเภอหนึ่งในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์ คุณเสกขับรถสิบล้อไปกับภรรยาสองคน และไปถึงที่หมายก่อนเวลากำหนด จึงได้ไปนอนรอขึ้นน้ำตาล กว่าจะเสร็จก็ประมาณตีหนึ่ง ภรรยาถามว่าจะนอนต่อไหม ค่อยวิ่งรถตอนเช้าหรือว่าจะออกตอนนี้เลย คุณเสกตอบไปว่า ยังไงก็ได้นอนแล้ว เดี๋ยววิ่งออกไปเลยก็แล้วกัน

คุณเสกขับรถออกมา พอหลุดออกมาจากหมู่บ้านนั้น จะเข้ามาในเขตจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อระหว่างหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง ระยะทางประมาณหกถึงเจ็ดกิโลเมตร ตามข้างทางจะมีป่าอ้อยและดงมันสำปะหลังเต็มไปหมด

พอเข้าเขตดงป่าอ้อย คุณเสกกลับรู้สึกง่วงขึ้นมาทันที ง่วงชนิดที่ว่าจะหลับให้ได้ สักพักหนึ่งคุณเสกสังเกตเห็นทางแยกข้างหน้า เหมือนเป็นทางแยกลงไปที่ไหนสักแห่ง แล้วมีเวิ้งช่องว่างพอที่จะให้รถจอดได้ คุณเสกจึงเลี้ยวรถเข้าไป แล้วจอดรถชิดไหล่ทาง โดยพยายามแอบรถหลบให้ออกห่างจากถนนเส้นหลัก

ภรรยาได้ถามคุณเสกว่า จะนอนตรงนี้เลยเหรอ คุณเสกตอบว่า ไม่ไหวแล้ว ขอสักงีบก่อน ปกติเวลานอนคุณเสกจะยกผ้าม่านมาปิดหน้ารถและหน้าต่างข้างรถหมด แต่วันนั้นคุณเสกง่วงมาก จอดรถได้ ดับเครื่องยนต์ ปิดไฟ เอนเบาะนอน แล้วก็หลับไปเลย

มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนภรรยาปลุก ภรรยาตะโกนร้องลั่น แล้วบอกว่าตอนที่คุณเสกหลับ ประมาณครึ่งชั่วโมงได้ แต่ภรรยาไม่หลับ ได้ยินเสียงหญ้าข้างทางแหวกออกเหมือนมีคนเดินมา ภรรยาจึงชะโงกหน้าออกไปดูนอกรถ แต่ก็ไม่เห็นอะไรเพราะข้างนอกนั้นมืดมาก และก็มีเสียงเดินรอบรถ เดินวนไปวนมา
สักพักหนึ่ง ภรรยาของคุณเสกก็เริ่มจะมองเห็นลางๆ เธอเห็นเป็นผู้ชายสองคน เธอตกใจและรีบปลุกคุณเสก และบอกว่ามีคนมาปีนรถเราอยู่ คุณเสกก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา มองไปข้างหน้าต่าง เห็นขาคนปีนบันไดข้างรถขึ้นไปด้านบนหัวรถ (รถสิบล้อจะมีบันไดติดอยู่ข้างรถใกล้ๆ ประตูด้านคนขับ)

คุณเสกเห็นอย่างนั้นก็ตกใจคิดว่าเป็นโจร จึงรีบสตาร์ตเครื่องรถทันที แล้วคลำดูที่ประตูรถก็ยังล็อกอยู่ เปิดไฟหน้ารถแล้วรีบขับออกมาเลย เพราะตอนนั้นอยู่กลางป่า ไม่สามารถเปิดประตูออกไปดูได้แน่ๆ เพราะอันตรายมาก ภรรยาก็บอกว่า มันยังอยู่บนหลังคารถทั้งสองคนเลย คุณเสกจึงรีบขับรถออกมาจากจุดนั้น

ขับไปสักพักจนเข้าเขตตัวอำเภอวังสามหมอ พอเจอป้อมตำรวจ คุณเสกเลยจอดรถทันที แต่ไม่กล้าเปิดประตู เลยแง้มกระจกแล้วส่องขึ้นไปดู แต่กลับไม่เห็นอะไรเลย คุณเสกสังเกตเห็นตำรวจอยู่ในป้อม จึงเปิดประตูแล้ววิ่งลงไปข้างล่าง แล้วหันกลับมามอง ก็ไม่เจอใครอยู่ข้างบนหลังคารถ คุณเสกลองเดินสำรวจรอบรถแต่ก็ไม่เจออะไร สักพักคุณเสกก็กลับเข้ามาในรถ แล้วขับออกไปนอนที่ปั้มน้ำมัน คิดว่าตอนเช้าค่อยเดินทางต่อ

หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ คุณเสกต้องเอาของไปลงในตัวเมืองจังหวัดของแก่น แต่ครั้งนี้ต้องเดินทางคนเดียว พอลงของเสร็จ บริษัทก็โทรมาบอกว่า ให้ไปขึ้นไม้ยูคาที่อำเภอหนึ่ง ซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างอำเภอสีชมพูจังหวัดขอนแก่น กับอำเภอศรีบุญเรืองของหนองบัวลําภู

คุณเสกบอกกับทางบริษัทว่า นี่มันก็บ่ายแล้วนะ น่าจะไปถึงประมาณสี่โมงเย็น เขาจะขึ้นให้เหรอ ทางบริษัทก็บอกว่าคุยไว้แล้วเดี๋ยวเขาจะขึ้นให้ คุณเสกก็เลยขับออกไป

มาขับรถมาจนถึง ลักษณะบริเวณจะเป็นป่าไม้ยูคาทั้งสองข้างทาง ตัวไร่ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณสองกิโลเมตร คุณเสกขับรถวิ่งเข้าไปในไร่ ทางเข้าไร่จะเป็นทางเกวียน ถึงที่หมายประมาณสี่โมงเย็น เขาก็นำไม้ขึ้นรถให้

จนเวลาล่วงเลยไปประมาณหกโมงเย็น บรรยากาศโพล้เพล้ แต่ก็ยังขึ้นของไม่เสร็จ แล้วไม้ไม่พอ ต้องรอขึ้นพรุ่งนี้อีกที คุณเสกเลยบอกว่า “มีที่นอนให้ผมไหม” ชาวบ้านเลยบอกว่า เดี๋ยวเข้าไปนอนในหมู่บ้านกับพวกเขาก็ได้ คุณเสกก็ถามต่ออีกว่า “แล้วรถของผมล่ะ” เขาบอกว่า “รถน่ะจอดไว้นี่ก็ได้ ไม่มีอะไรหรอกพี่” แต่ด้วยความที่คุณเสกห่วงรถ เลยถามออกไปว่า “พี่มานอนเป็นเพื่อนผมที่นี่สักคนไม่ได้เหรอ” แต่ก็ไม่มีใครอาสามานอนด้วยเลย

สุดท้ายแล้วคุณเสกเลยตัดสินใจนอนเฝ้ารถคนเดียว เวลาประมาณทุ่มหนึ่ง ท้องฟ้ามืดสนิท คุณเสกลงไปปัสสาวะแล้วรีบขึ้นรถมานอน ปิดผ้าม่านรอบรถ เปิดพัดลม แล้วก็หลับไป

วันนั้นร้อนมาก คุณเสกสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกที เพราะรู้สึกเหมือนมีคนมาขย่มรถ ลักษณะเหมือนมีคนเดินขึ้นเดินลงรถ และเสียงดัง ตุ๊บ! เหมือนมีคนกระโดดลงจากรถ ทั้งซ้ายทั้งขวา คุณเสกตาสว่างขึ้นมาทันที เลยเอาผ้าห่มคลุมโปง แล้วปิดพัดลมเพื่อไม่ให้มีเสียง มันเงียบมาก จะมีก็แต่เสียงแมลงกลางคืนที่กรีดปีกร้องระงมไปทั่วบริเวณ

เวลาผ่านไป คุณเสกเปิดโทรศัพท์ดูนาฬิกา เวลาตอนนั้นประมาณตีสามกว่าๆ แล้วก็เหมือนมีคนเดินในลักษณะเดิม เสียงเดินรอบรถ สักพักมาหยุดเดินอยู่ที่หน้ารถ แล้วก็มีเสียงเมือนผู้ชายคุยกัน แต่จับใจความไม่ได้ คุณเสกเริ่มนึกไปถึงเรื่องเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ไปเจอมาที่ไร่อ้อย ตอนนั้นคุณเสกทำอะไรไม่ได้เลยเพราะอยู่ในป่าคนเดียว ได้แต่ฝืนข่มตานอน แต่ก็นอนไม่หลับ เสียงคุยกันก็ยังดังต่อเนื่องแต่ก็จับใจความไม่ได้

จนกระทั่งคุณเสกได้ยินเสียงนกกระพือปีกดัง พรึ่บ! คุณเสกก็เริ่มจับใจความเสียงที่คุยกันอยู่นอกรถได้ความว่า

“กินไหม…ไม่ได้กินนานแล้ว…”

พอได้ยินแบบนั้น คุณเสกคิดในใจว่า ยังไงก็ไม่ใช่คนแน่ๆ ได้แต่นอนตัวสั่นคลุมโปงน้ำตาไหลพรากอยู่ในรถ แต่ทำยังไงก็นอนไม่หลับ เพราะเสียงคนเดินอยู่รอบรถ เสียงลมพัดยอดไม้ไหวไปมา แต่ในรถอากาศกลับร้อนมากบ้า จนสุดท้ายคุณเสกก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

ตื่นมาอีกทีตอนเจ็ดโมง คนขึ้นไม้มาเรียก คุณเสกกะจะเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่เล่าให้ใครฟัง แต่มันก็อดใจไม่ได้เลยเล่าให้คนขึ้นไม้ฟัง เขาก็บอกกลับมาว่า ทีแรกพวกเขาก็มาตั้งแคมป์ตรงนี้เหมือนกัน แต่เขาไม่ใช่คนในพื้นที่ มารับจ้างตัดไม้เฉยๆ ก็เจอแบบที่คุณเสกเจอเหมือนกัน

เขาบอกว่า พวกเขามากันสิบคน มาตั้งแคมป์ทำงานตัดไม้ กลางดึกปวดปัสสาวะ ก็เดินออกมาปลดทุกข์ เขาก็เจอในลักษณะเงาคนเดินไปเดินมาในป่า โดยเฉพาะเวลาคืนเดือนหงาย ที่มันยังพอจะมีแสงให้มองเห็นได้บ้าง

หลังจากขึ้นไม้เรียบร้อยก็เวลาบ่ายคล้อย คุณเสกขับรถผ่านออกมาทางหมู่บ้าน เห็นร้านชำเลยถือโอกาสจอดแวะกินกาแฟเพราะเมื่อคืนแทบไม่ได้นอน คุณเสกก็เล่าเรื่องที่เจอมาเมื่อคืนให้พ่อใหญ่เจ้าของร้านของชำฟัง แกก็บอกว่าพื้นที่แถบนั้น สมัยก่อนเป็นที่ซ่องสุมกบดานของพวกนายฮ้อยโจรปล้นควาย และโดนตำรวจยิงตายไปก็เยอะ วิญญาณที่เห็นคงจะเป็นพวกนี้ที่ยังไม่ไปผุดไปเกิด เพราะไม่มีใครทำบุญให้ เลยวนเวียนชดใช้กรรมที่เคยก่อมา และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ขอขอบคุณที่มา: พันทิปดอทคอม

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment