เรื่องนี้เป็นเรื่องจากคุณหาญ ใจสิงห์ เล่าว่า..
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทคนหนึ่งของผมที่ชื่อว่า เบียร์ ย้อนกลับไปเมื่อปี พศ.2541 ตอนเรียนอยู่ ปวช. ปี 2 ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เวลาเลิกเรียน ก่อนกลับบ้านผมกับเพื่อนๆ ก็จะพากันไปนั่งกินข้าวที่ตลาดเป็นประจำ ในกลุ่มพวกผมจะมีแฟนของแต่ละคนมานั่งกินข้าวด้วย (แต่ผมไม่มีนะครับ) รวมทั้งแฟนของเบียร์ที่สวยมาก เป็นระดับดาวอาชีวะเลย แล้วในกลุ่มเพื่อนของแฟนเบียร์ จะมีน้องผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง ผิวสองสี เรียนอาชีวะเหมือนกัน นั่งโต๊ะในสุดมองเบียร์ด้วยสายตาเสน่หามาก
ด้วยความที่เบียร์เป็นคนปากไว เจ้าชู้ เลยแซวไปเรื่อย รวมถึงน้องคนนี้ก็เช่นกัน พวกผมมองตามเห็นน้องคนนี้ยิ้มดูมีความสุขมากที่ถูกเบียร์แซว.. จนวันหนึ่ง แฟนเบียร์ไม่สบาย แต่พวกผมก็ไปกินข้าวร้านเดิม แน่นอนว่าน้องคนนั้นก็มารอเบียร์อยู่ น้องเดินตรงมานั่งตรงข้ามกับเบียร์ ซึ่งมีผม และไอ้พันนั่งอยู่ด้วย น้องพูดกับเบียร์ว่า ‘พี่คะ หนูชอบพี่มาก หนูรักพี่ พี่เลิกกับแฟนพี่แล้วมาอยู่กับหนูได้ไหม?’ เบียร์ตอบกลับไปว่า ‘พี่มีแฟนแล้วน้องก็รู้ สวยกว่าน้องอีก ไปหาคนอื่นเถอะนะ..’ น้องหน้าเสีย มองหน้าเบียร์เหมือนจะร้องไห้ก่อนจะลุกเดินจากไป
ผ่านไป 2-3 วัน น้องคนนั้นไม่มากินข้าวที่ร้านเลยครับ พวกผมก็บ่นเบียร์มันว่าพูดแรงไป จนตอนจะไปขึ้นรถกลับบ้าน น้องคนนั้นก็มารอเบียร์ที่รถ บอกว่า ‘พี่ไม่ชอบหนูไม่เป็นไร หนูคงจะกลับบ้านที่สุรินทร์ อาจจะย้ายที่เรียนด้วย..’ แล้วน้องก็จับมือเบียร์ พร้อมกับยื่นน้ำเปล่าให้เบียร์ เบียร์มันก็เปิดดื่มทันที แล้วทุกคนก็แยกย้ายกลับบ้าน.. หลังจากเหตุการณ์นั้น เบียร์มันก็เปลี่ยนไปเลยครับ ตอนอยู่ที่โรงเรียน ก็บ่นหาแต่น้องคนนั้น บอกอยากจะย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับน้องเขา ที่ร้ายแรงกว่านั้น คือมันบอกเลิกกับแฟนมันดื้อๆ แล้วกลับบ้านไปทะเลาะกับพ่อแม่ เก็บข้าวของไปอยู่บ้านน้องคนนั้น พวกผมห้ามก็ไม่ฟัง จนเกือบวางมวยกับไอ้พันด้วยซ้ำ
ผมกับเพื่อนๆ เฝ้าคอยดูพฤติกรรมเบียร์ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ หน้าตาดำคล้ำ ปากซีด ผอมซูบลงเหมือนศพ เคยตามไปดูที่บ้านของน้องคนนั้น ก็เห็นมันอยู่กับน้องเขา กอดจูบน้องตลอดเวลา ทีนี้มาเริ่มคิดว่าไอ้เบียร์มันต้องโดนของแน่ๆ และของคงแรงมากด้วย เพราะผมเคยแอบเอาสร้อยพระไปใส่คอมัน ก็ยังไม่หาย..
ผ่านไป 2 สัปดาห์ ที่โรงเรียนมีจัดไปเข้าค่ายลูกเสือที่แปลงยาว เบียร์มันก็ไม่อยากไป อยากอยู่กับน้องคนนั้น แต่ทางอาจารย์บังคับเลยจำใจไป.. วันเข้าค่ายต้องเข้าซุ้มต่างๆ ซึ่งอาจารย์จัดไว้ตามภูเขา ระหว่างที่พวกผมเดินไปบนเขา สายตาผมกับพันก็ไปเจอกลดพระธุดงค์ เหมือนนัดกัน ผมกับพันเดินไปนั่งคุกเข่ากราบหน้ากลด มีหลวงพ่อรูปหนึ่งเดินออกมา ท่านยิ้มแล้วบอกว่า ‘เพื่อนโยมคนนั้นกำลังอยู่ในอันตราย คืนนี้พาเขามาหาอาตมา จะทำพิธีถอนให้..’ ท่านพูดแต่สายตามองผ่านหลังพวกผมไป พอหันไปดู ก็เห็นเบียร์มันกำลังเดินผ่านไป..
เวลาผ่านไปจนถึงเวลา 3 ทุ่ม พวกผมออกอุบายชวนเบียร์มันไปเดินเล่นบนเขาแก้เบื่อ เดินไปจะถึงกลดหลวงพ่อแล้ว เบียร์มันก็สะดุ้งแล้วกำลังจะหันหลังวิ่ง พันรีบกอดตัวมันไว้ ส่วนผมเอาสายสิญจน์ที่หลวงพ่อให้มามัดมือมัดตัวเบียร์ ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนของผู้หญิงออกจากปากเบียร์ ผมกับพันอุ้มมันมาวางลงหน้ากลดหลวงพ่อด้วยความกลัว หลวงพ่อท่านจุดเทียน 1 เล่มส่องให้เห็นหน้าเบียร์ที่ตาเหลือก น้ำลายไหลออกปากตลอดเวลา และที่น่าขนลุกคือเหมือนมีลูกอะไรปูดนูนวิ่งไปมาทั่วร่างกายเบียร์
หลวงพ่อบอกเป็นผีตายโหงที่อยู่ในร่างมันจะวิ่งหนีออกไป แล้วท่านก็สวดคาถาบทหนึ่งให้ผีตายโหงนั้นมาคุยกับท่าน จึงได้รู้ว่าน้องผู้หญิงคนนั้นทำคุณไสยใส่เบียร์ โดยใส่ลงในน้ำวันนั้นที่มันกิน ซึ่งน้องต้องไปเสพสมกับหมอผี เขาถึงจะทำให้ ส่วนที่หน้าบ้านน้องเขา หมอผีคนนั้นก็เอาดิน 7 ป่าช้ามัดใส่บาตรแตกฝังไว้ ที่เลวร้ายที่สุด น้องเขาเอากางเกงในเปื้อนประจำเดือนไว้ใต้หมอนที่เบียร์นอน ส่วนข้าวที่ทำให้เบียร์กิน ก็เอาผ้าอนามัยเปื้อนเลือดมาเผาไหม้เกรียม แล้วป่นคลุกใส่จาน น้ำก็เป็นน้ำที่ล้าง ‘น้องสาว’ ตัวเอง
พวกผมทั้งกลัวทั้งสงสารเพื่อนจนน้ำตาซึม จากนั้นท่านเอาสายสิญจน์มาปั้นให้เหมือนลูกกลอน แล้วยัดใส่ปากเบียร์ ไม่ถึง 5 นาที มันอ้วกออกมามีแต่น้ำคร่ำดำๆ เหม็นมาก และยังมีเส้นผมอีกกระจุกใหญ่ออกมาด้วย แล้วท่านก็ให้พวกผมเอาน้ำมนต์อาบให้มัน ท่านยิ้มแล้วบอกให้พากลับได้ หายแล้ว..
พอเช้ามา เบียร์ก็กลับเป็นคนเดิมอีกครั้ง เข้าค่ายกลับมาได้ยินข่าวว่าน้องคนที่ทำของใส่ กลายเป็นคนเสียสติ เดินแก้ผ้าออกจากบ้านไปถึงปากซอยเลย ส่วนพวกผมลองไปขุดหน้าบ้านน้องดู ก็เจอรูปปั้นดินกับบาตรแตกจริงๆ ผ่านเรื่องนี้ไปพอถึงช่วงปิดเทอม เบียร์ก็ไปบวชให้พระธุดงค์รูปนั้น เรื่องก็มีเท่านี้ครับ.