เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อปี 2556 คุณพลอยเล่าว่า
หลังจากที่ตนเองและครอบครัวย้ายจากบ้านเดิมมาอยู่บ้านหลังใหม่ที่พึ่งซื้อ
ด้วยราคากว่า 4 ล้านบาท เป็นบ้านโครงการหรูสไตล์อังกฤษ
ในวันแรกก่อนจะย้ายเข้านั้น บังเอิญญาติถอยรถไปโดนสุนัขตัวหนึ่งบาดเจ็บ
คุณพลอยเลยเอาน้องเข้ามาเลี้ยงที่บ้านใหม่ด้วย
ซึ่งปกติคุณพลอยก็เลี้ยงอยู่แล้วหลายตัว
หลังจากวันที่ย้ายเข้ามาอยู่สามีที่เป็นทหารก็มีคำสั่ง ถูกย้ายให้เข้ากทม.
กระทันหัน ทำให้ครอบครัวไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าอย่างที่ตั้งใจ
ผ่านมาหนึ่งเดือน… จู่ๆสุนัขที่คุณพลอยเลี้ยงไว้ (จากทั้งหมด 11 ตัว)
ก็ได้เริ่มตายจากไปเรื่อยๆรวม 7 ตัว ติดกันภายในเวลาแค่ 2
เดือนอย่างไม่มีสาเหตุ
รวมทั้งตัวที่เคยเก็บมาก่อนจะเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ด้วย…คุณพลอยเล่าว่ามันนอนตายไปซะเฉยๆ
เป็นจุดเริ่มต้นของความอาถรรพ์ของหมู่บ้าน
หลังจากนั้น…ไม่ใช่แค่สุนัข คนสวนในหมู่บ้านที่คุณพลอยจ้างพิเศษมาทำงานสวน
จู่ๆก็เกิดอุบัติเหตุรถประสานงา เสียชีวิตไปถึง 3 คน
และเรื่องราวอีกมากมายค่อยๆตามมาทีละเรื่อง อยู่ๆ
ลูกของเธอก็ทักว่ามีคนแอบดูเราอยู่ในบ้าน มีคนแอบคุยข้างๆหู
ซึ่งลูกคุณพลอยอยู่ ม.1 แล้ว ไม่ใช่เด็กไม่ประสีประสาที่จะไม่รู้เรื่อง
แม้แต่เพื่อนเองก็ไม่กล้ามาบ้าน
เพราะมีอยู่วันนึงเพื่อนนั่งอยู่ในห้องหน้าตู้เสื้อผ้าที่มีกระจกบานใหญ่
เพื่อนบอกว่า “ตอนหวีผมอยู่ดีๆ ก็มีผู้หญิง…แมร่งมาหวีผมอยู่ข้างหลัง”!!
คุณพลอยเล่าว่าไปดูดวงดูหมอมาหลายที่ ก็ถูกทักว่าที่บ้านมีผี มีปอบนะ
ไม่ดีนะ มีผีจะเอาชีวิต ตอนแรกตนเองยังไม่มั่นใจ เคยนิมนต์พระ 9 รูป
เคยเชิญสินแสมาเขียนฮู้ตรงราวบันได
เพราะที่ราวบันไดมีของเหลวสีแดงชวนสยองไหลออกมา
ซินแสเลยมาเขียนให้ตรงบริเวณหัวของราวบันได ซึ่งเราก็ไม่รู้ที่มาที่ไป
มีบางคนบอกว่าเคยมีคนแขวนคอที่กำแพงตรงนั้นมาก่อน!
จนกระทั่งคุณพลอยแน่ใจว่าใช่แน่ ตอนพบกับหญิงท้องเดินทะลุกำแพงเข้ามาในบ้าน
มีแต่ตัว..หัวไม่มี!
มีคืนนึงอยู่กับลูกสองคน
ได้ยินเสียงกดกริ่ง ออกไปก็เจอผู้หญิงเปียกโชกไปทั้งตัว
ยืนอยู่ในรัวบ้านแวบแรกคิดว่าคงเป็นใครที่ตกน้ำแถวนี้แล้วมาขอความช่วยเหลือรึเปล่า
แต่เธอผู้นั้นเข้ามาในบ้านได้ยังไง กำแพงสูงถึง 5
เมตรและรั้วก็ล็อคแน่นหนา ต้องใช้บันไดปีนพาดเข้ามาเลยนะ
คุณพลอยก็ถามว่าใครแต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับมา
เรื่องก็ผ่านไปจนสามีคุณพลอยกลับมาอยู่ด้วยแล้ว แต่เจอหนักกว่าเดิม
ในคืนหนึ่งสักสามทุ่มหมาหอนกันทั่ว เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง ลมก็พัดแรง
ขณะที่สามีจอดรถ หลังจากที่พวกเราไปข้างนอกกันมา สามีเอ่ยขึ้นว่า “คุณ…!
ใครอยู่ข้างหลังเรา?” พอคุณพลอยหันไปดูก็พบใครบางคนหน้าตึงๆ
ในดวงตามีนัยน์ตาที่ประหลาด เป็นสีขาวดวงเล็กๆ
สามีดูตื่นกลัวแต่ยังรู้สึกตัว และเขย่าตัวคุณพลอยพร้อมบอกว่า “คุณ!
ข้างหลังเรา มันจะเข้าสิงเรา”
คุณพลอยก็รีบวิ่งเข้าบ้านไปอุ้มพระ
เป็นพระแก้วมรกตลงมา ด้วยความตกใจคุณพลอยก็สวดมนต์เท่าที่นึกออก วนๆไป
แล้วบอกว่าพระแก้วช่วยลูกด้วยๆ! สักสามนาทีลมก็สงบ จนสามีตะโกนให้เข้าบ้านๆ
ได้จังหวะก็รีบพากันวิ่งเข้าบ้านไปเลย
นั่นเป็นครั้งแรกที่คุณพลอยรู้ว่า..คนผีเข้ามันเป็นยังไง
จากนั้นคุณพลอยก็เล่าว่า…ได้ยินเสียงคนทุบกระจก
เพราะเป็นบ้านสไตล์อังกฤษที่มีกระจกเยอะ แต่มันแปลกตรงที่
มันจะเป็นไปได้ไงที่จะมีคนไปเคาะกระจกถึงบนห้องนอนชั้นสอง
จนสั่นสะเทือนดังทั่วบ้าน
ที่ประหลาดคือ
เวลาตนอยู่บ้านต้องมีความรู้สึกว่าอยากแต่งหน้า จำเป็นต้องแต่งหน้าอยู่ตลอด
โดยเฉพาะวันไหนที่ใช้ลิปสีแดงจะมีความรู้สึกสั่นร้อน
จนไปปรึกษาเพื่อนบ้านว่าตนจะโดนผีเข้ารึเปล่า แม้กระทั่งเข้าโรงพยาบาล
ล้างหน้าหน้าสดแล้วยังเอ่ยถามแม่ตนว่า “แม่..มีอายไลน์เนอร์ เขียนตามั้ย”
คุณพลอยเหนื่อยกับเรื่องราวที่ประสบพบเจอจนวันนึงก็ลองดีด้วยความโมโห
ทั้งๆที่ตนเป็นเจ้าของบ้าน คนอื่นหรือสิ่งอื่นจะมามีปากเสียง
จะมายิ่งใหญ่กว่าเราไม่ได้ ก็ได้จุดธูปแล้วท้า..บอกว่า “ถ้าแน่จริง
เมิงออกมาหากรูเลย” หลังจากนั้นก็มาจริงๆ แต่ไม่ได้มาเป็นตัว
มาเพียงลมแผ่วเบาและเสียงกระซิบข้างหูว่า…”จำไว้ กรูชื่อจัน!”
ทำเอาวันนั้นตนต้องแอดมิดเข้าโรงพยาบาล
แม้แต่บ้านอื่นในหมู่บ้านนี้
ก็ประสบเคราะห์กรรมไม่ต่างกัน…คุณพลอยเล่าต่อว่า เพื่อนตนเอง
อยู่หมู่บ้านเดียวกันก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
แล้วไฟครอกทั้งๆที่คนในรถยังได้สติ และเนื่องจากเป็นรถเติมแก๊ส
พอเกิดเพลิงไหม้ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย
แม้ว่าเพื่อนเธอพยายามจะร้องขอความช่วยเหลือจากในซากรถ!!
และต่อมาคนสวนของบ้านนั้นก็เล่าให้ฟังว่า…
เห็นเพื่อนเธอยืนรดน้ำต้นไม้ที่บ้าน หลังจากที่ตายแล้วอยู่
มีอีกเคสนึงที่ได้ฟังจากรปภ. เรื่องของเพื่อนร่วมหมู่บ้าน
กระโดดระเบียงลงมาเพราะน้อยใจสามี หวังปลิดชีพ แต่ไปตายที่โรงพยาบาล
ซึ่งบ้านที่เกิดเหตุก็อยู่ไม่ไกลจากคุณพลอย ห่างไปไม่กี่หลังเท่านั้น
เพื่อนบ้านก็เคยมาถามว่า เคยเจอมั้ย
เป็นผู้หญิงมาลากเตียงเลื่อนเตียงในห้อง
คุณพลอยเล่าว่าตนเจอเป็นผู้หญิงท้อง
เพื่อนบ้านบอกตนไม่แน่ใจเพราะเห็นจากด้านหลัง
จนผ่านมากว่า 2 ปี
ในช่วงปี 58 จึงมีรายที่ 4 เกิดขึ้น…
คนสวนคนสุดท้ายนั้นเกิดรถชนกับกระบะคาที่สมองเปิด
จนคุณพลอยคิดว่าถึงเวลาต้องตัดใจทิ้งบ้านราคากว่า 4
ล้านบาทและย้ายออกไปอยู่บ้านคุณพ่อคุณแม่ จนรุ่งเช้า
คนแรกที่คุณพลอยโทรหาคือลูกสาวของรปภ.เก่า ซึ่งเป็นแม่บ้าน ว่าให้ช่วยขนของ
เพราะอยู่ไม่ได้แล้ว
วันที่ย้ายออก
จู่ๆลูกก็ทักขึ้นว่า…”แม่ครับ เพื่อนแม่มาหา อยู่ข้างหลัง”
คุณพลอยก็บอกว่า..อ๋อ คันนี้เราไปกัน 2 คน ส่วนน้าชลเขามากับรถกระบะ
เขาไปคันข้างหลัง คุณพลอยเข้าใจไปเองว่าลูกคงหมายถึงคนขนของ
แม่บ้านที่จ้างมาช่วย แต่ความจริงแล้วไม่ใช่… เธอจึงบอกกับ “มัน” ว่า
“จะตามก็ตามมา แต่ถ้าวันไหนไปบิ๊กซี กรูจะเอาเมิงไปปล่อยทิ้งไว้นั่น!!”
หลังจากนั้นลูกของคุณพลอยก็ไม่ได้ทักถึงอีกเลย…
คุณพลอยสรุปให้ฟังว่าตั้งแต่อยู่มาเกือบๆ 2 ปี ได้เห็นคนตายไปแล้ว 3
คนเป็นเจ้าของบ้าน กับคนสวนอีก 4 นี่คือตัวเลขแน่นอนเท่าที่คณพลอยทราบ
นอกจากนี้ยังไม่นับรวมอุบัติเหตุอื่นๆอีกด้วย
แต่ที่เห็นชัดๆที่สุดคือล้มละลาย ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยมาก บ้านหลังนึง
จากที่เคยมีเงินกว่า 11 ล้าน หมดได้ภายใน 6 เดือนจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน..
มีนักเรียนนอกกำเงินมา 10 ล้าน ตั้งใจมาเป็นครูพิเศษ เงินเดือนสูง
แต่หลังจากอยู่หมู่บ้านนี้ไปเพียง 4-5 เดือน
ก็ตกงานเพราะอยู่ๆก็ประสบอุบัติเหตุขาพิการจึงไปทำงานไม่ได้
หมู่บ้านอาถรรพ์เริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
ภายในหมู่บ้านแต่ละซอยจะเหลือบ้านเพียงแค่ 1-2 หลังเท่านั้น
บ้านใกล้เรือนเคียงก็เป็นบ้านร้าง ส่วนมากจะล้มละลาย
ตกอับจนไม่สามารถผ่อนต่อได้ หมู่บ้านมี 59 หลัง แต่มีเหลือคนอยู่เพียงแค่
20 หลัง
จนหลังย้ายออกมาจากหมู่บ้านนั้นแล้ว
ได้กลับไปถามรปภ.คนเก่าแก่ จึงได้ความว่า … ตรงนี้เดิมในอดีตเป็นที่ทิ้งศพ
มีนายฮ้อยในสมัยก่อนเอาศพมาทิ้ง
เพราะเมื่อก่อนตรงนี้เป็นป่าทางผ่านไปสู่ตัวเมือง
มีการดักปล้นดักแทงกันเยอะ นอกจากนี้ก็มีผู้หญิงถูกสามีทิ้ง
มาผูกคอดับแถวๆหมู่บ้าน ถึงแม้จะไม่ทราบว่าจริงมั้ย
แต่นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
==========
ติดตามอ่านและฟังเรื่องราวสยองขวัญได้ที่
# 7ThaiShock.blogspot.com
# Youtube : 7ThaiShock
https://www.youtube.com/channel/UChIyO564hX7aEok8EHbDZ0A
==========
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment