สวัสดีครับ ผมเป็นคนที่เชื่อเรื่องสิ่งที่มองไม่เห็นและสิ่งลี้ลับเป็นอย่างมาก เหตุที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะมันเกิดจากเรื่องนี้
ณ เกาะแห่งหนึ่ง (ขอไม่บอกชื่อเกาะ) ผมและเพื่อนอีก 3 คน ได้จองรีสอร์ต 4 วัน 3 คืน ที่เกาะแห่งนั้นไว้ พอพวกเรามาถึงท่าเรือ ก่อนจะขึ้นเรือ เพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อ เอ (นามสมมุติ) ก็พูดขึ้นมาว่า “พวกมึง เมื่อคืนกูฝันว่าพวกเราจะกลับมาไม่ครบว่ะ” เมื่อได้ยินแบบนั้นเพื่อนอีกคนที่ชื่อ บี (นามสมมุติ) ก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “มึงเป็นอะไรมากหรือเปล่า ปากหมาฉิบหาย อย่าเพ้อเจ้อให้มาก กำลังจะออกเดินทางอยู่ละ”
ผมก็รีบห้าม กลัวจะเกิดเรื่องไม่ดี พอเรือออกจากท่าไปได้สัก 20 นาที ท้องฟ้าก็เริ่มมืด เมฆฝนเริ่มเข้ามาลอยผ่านเหนือหัว แต่เมฆก็ลอยจากไป
พอมาถึงเกาะ พนักงานก็มาช่วยยกกระเป๋าขึ้นจากเรือ ผมก็ไปเช็คอิน พนักงานก็พาเดินไปที่ห้องพัก ผมนอนกับเอ บีนอนกับซี แต่ห้องเราติดกัน พอมาถึงห้องก็อึ้งไปนิดๆ เพราะนอกจากสภาพจะดูโทรมๆ แล้วแถมหน้าห้องยังมีศาลเก่าๆ จะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ตั้งอยู่
ผมก็พยายามจะไม่คิดอะไร พอเก็บของอะไรในห้องเสร็จ ก็เปลี่ยนเสื้อแล้วไปเล่นทะเล เล่นไปเล่นมาก็ใกล้จะ 6 โมงเย็นแล้ว ก็เลยขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อไปกินข้าวกันที่ล็อบบี้ พอกินเสร็จก็เดินกลับห้องกัน
ในบรรดาเพื่อนทั้งหมด ซีเป็นคนที่กลัวผีมาก ตอนเดินมาถึงหน้าห้อง มันก็ทำท่าร้อนรนให้รีบไขห้องเข้าไป พอเห็นแบบนั้นบีก็พูดสวนขึ้นมา “มึงกลัวศาลข้างหลังขนาดนั้นเลยเหรอวะไอ้ซี” แล้วไอ้เอก็พูดเสริมขึ้น “คืนนี้เขามาหามึงแน่ ฮ่าๆ”
พอตกดึก ผมก็นอนเล่นกันกับ เอ เวลานั้นคาดว่าห้องของ ซี กับ บี น่าจะนอนแล้ว ผมก็เลยปิดไฟนอนบ้าง
แล้วผมก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากห้องของบี กับ ซี ผมรีบดูนาฬิกา ตอนนั้นประมาณตี 3 กว่าๆ ยังไม่ทันจะเดินไปถึงประตูก็มีเสียงดัง ปัง! ปัง! ปัง! ดังมาจากประตูหน้าห้องพร้อมเสียงเรียก
“เฮ้ย! รีบเปิดให้กูเร็วๆ”
ผมก็ส่องดูตรงตาแมวประตู ก็เห็น บี กับ ซี หน้าซีด ท่าทีร้อนรน ผมก็รีบเปิดประตูให้ พวกมันรีบวิ่งเข้ามากระโดดขึ้นเตียง ผมรีบล็อคห้องแล้วถามว่า ยังไง เกิดอะไรขึ้น พวกมันแย่งกันพูด จนฟังไม่ได้ศัพท์
“กะ กะ กูเจอ!”
แทบไม่ต้องถามต่อว่าเจออะไร คำตอบที่ได้ยิน ผมก็พอจะเดาได้แล้ว แต่ก็พยายามตั้งสติ แล้วพูดออกไปว่า
“มึงเจอใช่ไหม แน่ใจนะ?!”
ทั้งสองตอบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“เออ!”
ผมก็บอกให้มันนอนห้องผมก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยคุย แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครนอนลงสักคน ก็เลยนั่งคุยกัน ผมบอกให้มันเล่าทุกอย่าง บีมันเล่าว่า…
ตอนนั้นหลังจากที่แยกย้ายเข้าห้อง ไอ้ซีมันก็เอาแต่กลัว บีมันก็เลยรำคาญมัน เลยด่ามันไปว่า โตป่านนี้แล้วจะกลัวห่าไรวะ ถ้าแม่งมีจริงมันคงมาหาแล้ว เนี่ยกลัวไอ้ศาลเก่าๆ นั้นเหรอ ไอ้ปัญญาอ่อน พอพูดจบไอ้ซี มันก็อึ้งๆ พออาบน้ำจะนอน ไอ้ซีมันนอนคลุมโปง แต่บีมันก็ไม่สนใจ พอนอนไปได้สักพัก เตียงมันสั่นๆ ไอ้บีก็เลยลืมตามองไปรอบๆ เห็นไอ้ซียังนอนคลุมโปงแต่ตัวมันสั่น บีก็เลยเขย่าตัวมัน มันก็ยังไม่หยุด มันก็เลยดึงผ้าห่มมันออก
และสิ่งที่บีเห็น มันทำให้บีตกใจสุดขีด หน้ามันไม่ใช่ไอ้ซี มันเป็นหน้าผู้ชายแก่ๆ แล้วเขาก็พูดว่า
“มึงอยากเจอกูไม่ใช่เหรอ!”
บีตกใจมาก มันเลยกระโดดลงเตียง พอมองกลับไปอีกที มันก็เป็นไอ้ซี บีก็เลยรีบปลุกมัน พอมันตื่น มันก็ทำท่าตกใจ ว่าทำไมบีมันไปยืนตรงห้องน้ำ แต่ความจริงมันยืนอยู่ข้างเตียง ไอ้บีมันก็เลยเรียกบอกไอ้ซีว่า กูอยู่นี่! มันก็หันกลับมา มันก็ร้องเสียงหลง ซีมันตะโกนว่า ใครยืนอยู่หลัง พอบีหันไปดูกระจกข้างหลัง มันเป็นรอยฝ้า เป็นรูปหน้าคนอยู่บนกระจก
มันตกใจมากกระโดดโหยงออกมาเลย แล้วก็วิ่งมาหาผมนี่แหละ แต่ก่อนที่ผมจะเปิดประตู ซีมันลองหันกลับไปดู ก็เห็นลุงแก่ๆ เดินมาจากศาล กำลังเดินตรงเข้ามาหา! ก่อนที่ผมจะเปิดประตูแล้วพวกมันก็วิ่งพรวดเข้ามา
“เป็นเพราะมึงไอ้บี มึงน่ะปากพล่อย” ซีพูดเสียงสั่น
ผมก็บอกกับทุกคนไปว่า “จริงๆแล้ว กูเห็นก่อนพวกมึงแต่กูไม่พูด ตอนที่ขึ้นจากเรือ กูเห็นมีลุงแก่ๆ เดินเข้าไปในทางที่พักเรา กูก็เลยถามพนักงานว่า พี่…วันนี้มีแขกเข้าพักเยอะไหม เขาก็บอกไม่ค่อยเยอะมีแค่ พวกเรากับ อีก 3 ครอบครัว กูก็ถามต่อไปว่า มีคนแก่เข้ามาพักด้วยเหรอ พนักงานก็ทำหน้างงๆ แล้วบอกว่า ไม่มี กูก็งงๆ เหมือนกัน แล้วตอนที่เล่นน้ำเสร็จ ก่อนจะมาอาบน้ำ ก่อนเข้าห้องกูก็เห็นลุงแก่ๆ ยืนแถวๆ ศาลจ้องมาที่มึงน่ะบี”
เช้ามาผมไปถามพนักงานว่ามันมีอะไรกันแน่ ตอนแรกพนักงานก็ไม่ยอมบอก จนผมเริ่มขึ้นเสียง เขาจึงยอมบอก เขาเล่าว่า มีลุงคนหนึ่งเขามาพักที่นี้ แล้วหัวใจวายตาย ในห้องที่คุณพักนี่แหละ ตั้งแต่นั้นมา เวลามีแขกมาพักห้องนั้นก็ไม่เคยมีใครอยู่ได้ จนเจ้าของโรงแรม ต้องสร้างศาลให้ ความเฮี้ยนจึงลดลง แต่พอคิดว่าลุงแกคงไม่มาหลอกใครแล้ว ก็เลยไม่ได้ไปเซ่นไหว้อีกเลย จนกระทั่งพวกผมเข้ามาพัก
หลังจากผมรู้เรื่องทั้งหมด ผมของเช็คเอ้าท์ออกตอนนั้นเลย ผมไม่ห่วงเงินประกันแล้ว เสียดายก็เสียดายเงิน แต่ก็ดีกว่าอยู่ข้างๆ ห้องผีสิงนั่น และก่อนจะออก ผมก็ขอธูปจากพนักงาน แล้วไปขอขมาที่ศาล แล้วก็นั่งเรือออกมาจากเกาะ และไม่คิดที่จะไปเหยียบที่นั่นอีกเลย
ขอขอคุณเรื่องเล่าจาก FWmail
==========
ติดตามอ่านและฟังเรื่องราวสยองขวัญได้ที่
# 7ThaiShock.blogspot.com
# Youtube : 7ThaiShock
https://www.youtube.com/channel/UChIyO564hX7aEok8EHbDZ0A
==========
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment