"นั่นใคร ...ออกมานะ !"
(เรื่องเล่าแสนประหลาดจาก "พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ภายในพระบรมมหาราชวัง)
พระที่นั่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เป็นพระที่นั่งองค์ประธานของหมู่พระมหามณเฑียร ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อมีการก่อสร้างพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเสร็จแล้ว พระองค์ท่านและพระบรมวงศานุวงศ์ได้เสด็จย้ายจากที่ประทับเดิม มาประทับที่พระที่นั่งองค์นี้ และได้ทรงโปรดให้เขียนพระบรมสาทิสลักษณ์ของรัชกาลต่างๆ ไว้ในมุขกระสัน (มุขที่เชื่อมระหว่างพระที่นั่งองค์หนึ่ง กับอีกองค์หนึ่ง)
เวลานั้น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ (พระราชโอรสองค์ที่ 40 ในรัชกาลที่ 5) ยังทรงพระเยาว์และทรงซุกซนมาก
ขณะที่ประทับเล่นอยู่บริเวณห้องส่วนพระองค์และมุขกระสัน
พระองค์ทรงวิ่งเล่นไปมาภายในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน โดยที่พระพี่เลี้ยงก็ตามไม่ทัน หาพระองค์ท่านไม่เจอ โดยประมาณครู่ใหญ่พระองค์ถึงทรงกลับมาเอง พร้อมกับเล่าให้พระพี่เลี้ยงฟังว่า...
ทรงเห็นผู้ชายรูปร่างท้วมนั่งอยู่ในพระที่นั่งฯ แล้วเดินหายไปในบริเวณที่ประดิษฐานพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระมหากษัตริย์รัชกาลก่อนๆ ด้วยความที่เป็นเจ้าฟ้า ท่านจึงตะโกนเรียกว่า ...
"นั่นใคร...ออกมาเดี๋ยวนี้"
ปรากฏว่า.. ไม่มีใครออกมา ! จนมาวันหนึ่ง สมเด็จฯเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ กำลังเสด็จไปเฝ้ารัชกาลที่ 5 ทรงดำเนินผ่านห้องที่มีพระบรมสาทิสลักษณ์รัชกาลที่ 3 แขวนอยู่ พอทอดพระเนตรก็รับสั่งว่า "นี่ไงผู้ชายอวบคนนั้น..."
จนความทราบไปถึงสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯ (พระภรรยาเจ้าในรัชกาลที่ 5) พระนางจึงมีรับสั่งถามเรื่องราว และทรงเดาว่าคงเป็น รัชกาลที่ 3 ปรากฏพระองค์ให้เห็น
จึงทรงให้นางพระกำนัลจัดดอกไม้ธูปเทียน ไปถวายสมเด็จฯเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ เพื่อทรงไปขอขมาลาโทษรัชกาลที่ 3 ที่อาจทรงล่วงเกินไป เข้าไปทรงวิ่งเล่นเอะอะ ในที่ที่พระองค์เคยประทับ
การปรากฏพระองค์ของรัชกาลที่ 3 ให้สมเด็จฯเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ ได้ทอดพระเนตร ณ พระที่นั่งองค์นี้ ยิ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า ดวงพระวิญญาณของพระองค์ท่าน ยังคงสถิตย์อยู่ที่นี่
แต่ที่รู้ก็คือ พระองค์ท่านทรงเคยประทับที่พระที่นั่งองค์นี้มาตลอดพระชนม์ชีพ และทรงเสด็จสวรรคตที่พระที่นั่งองค์นี้ด้วยนั่นเอง
ขณะที่ประทับเล่นอยู่บริเวณห้องส่วนพระองค์และมุขกระสัน
พระองค์ทรงวิ่งเล่นไปมาภายในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน โดยที่พระพี่เลี้ยงก็ตามไม่ทัน หาพระองค์ท่านไม่เจอ โดยประมาณครู่ใหญ่พระองค์ถึงทรงกลับมาเอง พร้อมกับเล่าให้พระพี่เลี้ยงฟังว่า...
ทรงเห็นผู้ชายรูปร่างท้วมนั่งอยู่ในพระที่นั่งฯ แล้วเดินหายไปในบริเวณที่ประดิษฐานพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระมหากษัตริย์รัชกาลก่อนๆ ด้วยความที่เป็นเจ้าฟ้า ท่านจึงตะโกนเรียกว่า ...
"นั่นใคร...ออกมาเดี๋ยวนี้"
ปรากฏว่า.. ไม่มีใครออกมา ! จนมาวันหนึ่ง สมเด็จฯเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ กำลังเสด็จไปเฝ้ารัชกาลที่ 5 ทรงดำเนินผ่านห้องที่มีพระบรมสาทิสลักษณ์รัชกาลที่ 3 แขวนอยู่ พอทอดพระเนตรก็รับสั่งว่า "นี่ไงผู้ชายอวบคนนั้น..."
จนความทราบไปถึงสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯ (พระภรรยาเจ้าในรัชกาลที่ 5) พระนางจึงมีรับสั่งถามเรื่องราว และทรงเดาว่าคงเป็น รัชกาลที่ 3 ปรากฏพระองค์ให้เห็น
จึงทรงให้นางพระกำนัลจัดดอกไม้ธูปเทียน ไปถวายสมเด็จฯเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ เพื่อทรงไปขอขมาลาโทษรัชกาลที่ 3 ที่อาจทรงล่วงเกินไป เข้าไปทรงวิ่งเล่นเอะอะ ในที่ที่พระองค์เคยประทับ
การปรากฏพระองค์ของรัชกาลที่ 3 ให้สมเด็จฯเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ ได้ทอดพระเนตร ณ พระที่นั่งองค์นี้ ยิ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า ดวงพระวิญญาณของพระองค์ท่าน ยังคงสถิตย์อยู่ที่นี่
แต่ที่รู้ก็คือ พระองค์ท่านทรงเคยประทับที่พระที่นั่งองค์นี้มาตลอดพระชนม์ชีพ และทรงเสด็จสวรรคตที่พระที่นั่งองค์นี้ด้วยนั่นเอง