===Not Click=== ===Not Click===

EP.088 : ผีฆ่าขโมย!

"นายแบน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกในซอยผีดุ



ผมเป็นคนย่านบางกรวยนี่เองครับ บ้านอยู่ในตรอกซอยที่มีทางแยกหลายเลี้ยวค่อนข้างจะคดเคี้ยวยอกย้อนเอาการ ตามบ้านช่องส่วนมากมีต้นไม้ใหญ่น้อยร่มครึ้ม ตอนกลางวันมีคนเดินคึ่กๆ ก็ให้ร่มเงาดีหรอก แต่พอตกกลางคืนผู้คนชักจะบางตา บรรยากาศกลับดูเยือกเย็น น่าวังเวงใจอย่างบอกไม่ถูก

บอกตรงๆ ว่าน่ากลัวทั้งคนทั้งผีแหละครับ!

นับวันบ้านช่องก็ยิ่งแน่นหนา ผู้คนก็เพิ่มขึ้นตามสัดส่วน เคยรู้จักกันทั้งย่านมาเหลือแต่ในซอย ต่อมาก็ชักจะเห็นคนแปลกหน้ามากขึ้นทุกที


ขโมยขโจรค่อนข้างชุม บางทีก็เข้าบ้านกลางวันแสกๆ ยิ่งตอนกลางคืนหายห่วงเลยครับ เพราะมีพวกตีนแมวโผล่ออกมาอาละวาด ตัดช่องย่องเบาสารพัด ไม่ว่าจะปีนรั้วหรือดอดเข้าทางหลังคา ขนาดมีหมาปากเปราะคอยเห่าหอนเตือนภัย แต่ไอ้พวกผู้ร้ายใจบาปก็เอาเนื้อคลุกยาเบื่อให้หมากินจนตาย จะได้ไม่เป็นอุปสรรคในการโจรกรรม

บ้านตรงข้ามผมโดนคนร้ายขึ้นบ้าน ลูกสาววัยรุ่นเกิดเปิดประตูออกมาพอดีเลยโดนปลุกปล้ำ หวังจะข่มขืนเป็นกำไรอีกต่างหาก ดีแต่ว่าเด็กสาวขัดขืน ต่อสู้ไม่คิดชีวิตเลยรอดตัวมาได้ ร้องเอะอะโวยวายให้ช่วย ไอ้โจรหื่นเห็นท่าไม่ดีก็กระโจนออกจากบ้านไป

เขาว่าในซอยผีดุนะครับ มีคนเห็นบ่อยๆ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน ทั้งผีโดนฆ่า โดนรถชน รวมทั้งฆ่าตัวตายเพราะอกหักมั่ง เจ็บไข้ได้ป่วย ทนทุกข์ทรมานเหลือหลาย เลยตัดสินใจฆ่าตัวตายให้พ้นทุกข์พ้นร้อน!

ล่าสุดก็มีสาวใช้ที่บ้านกลางซอย เคยเห็นออกมาเดินหัวเราะต่อกระซิกกับพวกหนุ่มๆ แทบไม่ซ้ำหน้า เกิดผูกคอตายที่ต้นไม้ริมรั้วดื้อๆ สาเหตุเพราะท้องไม่มีพ่อ

ป้าเยื้อนกับยายจง คนข้างบ้านกับก้นซอยเคยโดนผีหลอกคล้ายๆ กัน คือเดินผ่านบ้านนั้นตอนเย็นๆ ได้ยินเสียงเหมือนอะไรหล่นตุ๊บ เลยหันขวับไปมองอย่างไม่รู้ตัว...

สาวใช้ที่ผูกคอตายเดือนก่อนน่ะซีครับ ทิ้งตัวลงมาจากกิ่งมะม่วง ห้อยต่องแต่งเห็นตาถลน ลิ้นจุกปาก เล่นเอาคุณป้ากับคุณยายร้องจ้า....วิ่งไปร้องไปจนหมาเห่าเกรียวกราว ผู้คนแตกตื่นกันทั้งซอย โจษขานเรื่องผีดุสาหัสชนิดน่าขนลุกขนพองสิ้นดี!

เจ้าของบ้านทำบุญเลี้ยงพระแล้วนะครับ แต่วิญญาณเธอก็ไม่ไปผุดไปเกิดเสียที...พวกหนุ่มๆ ที่เคยเดินควงกับเธอ มีทั้งพวกขับตุ๊กตุ๊กและวินมอเตอร์ไซค์ ก็ดูเหมือนจะหายหน้าหายตาไปหมดสิ้น...คงกลัวโดนผีหลอกละมั้ง?

ที่หน้าบ้านสาวผุกคอตายนั่นแหละครับ มีซุ้มกระดังงาอยู่ข้างใน เลื้อยขึ้นมาคลุมรั้วข้างๆ ประตู ใบดกหนาดูร่มครึ้ม ตอนเย็นๆ มักมีดอกสีเหลืองอร่ามโผล่ขึ้นที่นั่นที่นี่ ตอนแรกๆ ก็มีเด็กสาวในซอยวนเวียนมาเด็ดดอกกระดังงาที่ยื่นออกมานอกรั้วแบบถือวิสาสะ แต่เจ้าของบ้านก็ไม่ได้ห้ามหวงอะไร

จนกระทั่งมีสาวใช้ผูกคอตายน่าสยองในรั้วเดียวกัน แถมต้นมะม่วงก็อยู่ใกล้ๆ ซุ้มกระดังงาอีกต่างหาก เดี๋ยวคนนั้นคนนี้โดนผีหลอกน่าขนลุก เด็กสาวๆ ก็เลยไม่กล้ามาข้องแวะแถวนั้นเท่าไหร่ ยกเว้นแต่มากันเป็นพรวนในตอนเย็นๆ ที่มีผู้คนเดินไปเดินมาพอให้อุ่นใจ

วันดีคืนดีก็เกิดเรื่องขนหัวลุกโดยไม่นึกฝัน!

เย็นนั้น เด็กสาว 3-4 คนจากปากซอยเข้ามาเดินเล่น หัวเราะต่อกระซิกจนโดนวัยโจ๋ร้องแซวคึกคะนอง แต่พวกเธอไม่แยแส เดินไปที่ซุ้มกระดังงาดอกเหลืองอร่าม อยู่ค่อนข้างสูงเพราะดอกใกล้ๆ มือโดนเด็ดไปจนเกลี้ยงแล้ว

มีการกระโดดขึ้นไปคว้าเอาดื้อๆ ผิดมั่งถูกมั่ง หัวเราะคิกคักยั่วหนุ่มไปตามๆ กัน

จู่ๆ ก็มีเสียงหวีดว้าย ท่ามกลางความตื่นตะลึงของคนอื่นๆ เพราะใบกระดังงาแหวกพรวด ใบหน้าขาววอกของผู้หญิงโผล่ออกมายิ้มแป้น...สาวใช้ที่ผูกคอตายนั่นแหละครับ!

"ว้ายๆๆ" เสียงร้องเหมือนเกิดไฟไหม้ สาววัยรุ่นกลุ่มนั้นผงะหน้าก่อนจะเผ่นกระเจิงไปคนละทิศละทางพลางร้องว่า "ช่วยด้วยๆ ผีหลอกๆๆ ผีหลอกแล้วโว้ย"

คนที่เดินผ่านไปมาวิ่งมาดูแต่ก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ นอกจากยอดมะม่วงไหวซ่าน่ากลัวทั้งๆ ที่ไม่มีลมพัดแม้แต่น้อยนิด

คืนนั้นเองที่เกิดเรื่องสยองขวัญสุดขีดขึ้นมา!

ผู้คนเหน็ดเหนื่อยจากการงาน ถึงเวลาพักผ่อนนอนหลับอย่างสุขารมณ์ ท่ามกลางความเงียบเชียบเยือกเย็นของรัตติกาล...เสียงสายลมพัดลู่ไปตามสุมทุม พุ่มไม้ เคล้ากับเสียงหมาหอนเบาๆเหมือนจะเกิดความวังเวงใจเหลือประมาณ

ทันใดนั้น เสียงแผดร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดสุดขีดก็ดังลั่นไปทั้งซอย ผู้คนสะดุ้งตื่น...ไม่ช้าก็ทยอยกันโผล่ออกมาดูเหตุการณ์ แต่ก็ไม่เห็นสิ่งใดผิดปกติ พี่ส่ง-คนข้างบ้านหันมาบอกผมว่า...ลองแหงนหน้าขึ้นไปดูฝั่งโน้นหน่อย ใครขึ้นอยู่บนต้นมะม่วงน่ะ?

พวกเรา 3-4 คนหับขวับ...เสียงใครร้องเฮ้ย! ผมเองก็ม่านตาพร่าพรายไปถนัดเมื่อมองเห็นภาพนั้นได้เต็มตา

ที่กิ่งมะม่วงอันเคยมีสายใช้ผูกคอตายนั่นเอง ร่างของชายคนหนึ่งห้อยโตงเตงอยู่ที่นั่น! ปรากฏว่าเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งจะสิ้นใจไปหยกๆ ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน? เหตุใดจึงอุตริปีนเข้าไปผูกคอตายด้วยเชือกป่านที่นั่น?

สันนิษฐานว่าคงจะเป็นหัวขโมยที่โดนอิทธิฤทธิ์ปีศาจเล่นงานหนักหน่วงจนถึง แก่ความตายแน่นอน...เจ้าของบ้านทนไม่ไหวต้องขายบ้านหนีก็แล้วกันครับ! บรื๋อออ...

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด