===Not Click=== ===Not Click===

The Ghost Radio : โศกนาฏกรรม โดย คุณปู




ย้อนไปเมื่อสิบปีที่แล้ว คุณปูและเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกัน ต่างก็แยกย้ายไปทำงานที่อื่น แต่ก็ยังติดต่อกันเรื่อยๆ และคนที่อยู่ไกลสุดเห็นจะเป็นพร ที่แต่งงานและย้ายไปอยู่หาดใหญ่บ้านของสามี บ้านของคุณพรไกลออกไปจากตัวเมืองมาก ด้านหน้าเป็นสวนยาง ด้านหลังเป็นสวนลองกอง บ้านและสวนนี้พ่อแม่สามียกให้ไว้ทำมาหากิน

แต่ช่วงนั้นข่าวความรุนllรงในสามจังหวัดชายแดน ก็มีมาให้ได้ยินประจำ จนเพื่อนทุกคนต่างเป็นห่วงคุณพร อยากให้ย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพ เพราะบ้านก็ซื้อไว้แล้วและยังอยู่ไม่ไกลกับเพื่อนๆ นัก คุณพรท้องแก่ใกล้คลอด บอกกับเพื่อนๆ ว่า ช่วงนี้ใกล้เก็บลองกองอยากอยู่ช่วยสามีก่อน หมดหน้าลองกองแล้วค่อยว่ากัน แล้วคุณพรก็เงียบหายไป

วันหนึ่งคุณปูและเพื่อนนัดกินก๋วยเตี๋ยวกันที่ร้านเก่าใกล้ๆ บ้าน นิดหันไปเห็นมอเตอร์ไซค์ขับผ่านก็ตะโกนขึ้น

"พร..พร.. เฮ้ยพร!!!"

ทุกคนมองตามไปก็เห็นเป็นพรท้องโตนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์สามีและมีลูกเล็กๆ อายุราวๆ สองขวบนั่งอยู่ด้วย พรหันมาโบกมือให้ แต่มอเตอร์ไซค์ไม่ได้จอด ขี่เลยเข้าไปในซอย

"อ้าว! สงสัยรีบมั้ง"

"เออ มันร้อนน่ะ แล้วมันท้องอยู่ด้วย ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปหามันที่บ้านก็ได้"

เมื่อกินเสร็จจึงพากันเข้าไปหาพรที่บ้านในซอยนั้น แต่เมื่อไปถึงบ้านกลับปิด ก็คิดกันว่าพรคงไปธุระต่อหรือไม่ก็ไปบ้านแม่ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เลยตกลงกันว่าอีกสองวันค่อยนัดกันมาใหม่

คืนนั้นดึกมากแล้วมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นที่บ้านคุณปู เมื่อคุณปูไปรับสาย ซ่า ซ่า ซ่า เสียงเหมือนสัญญาณไม่ดี พยายามฟังก็ไม่ได้ยินว่ามีใครพูดอะไรจึงวางสาย พอกลับไปนอนได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงทัก

"ปู...ปู" 

คุณปูตกใจตื่นเปิดหน้าต่างมองออกไปเห็นเป็นพรมายืนเรียกอยู่หน้าบ้าน

"เฮ้ย! ดึกป่านนี้ เดินมายังไงวะ! ทำไมแฟนมันปล่อยให้เดินมาวะ..." คุณปูคิดอยู่ในใจ แล้วร้องตะโกนลงไปว่า

"พร รอแป๊ปนึง เดี๋ยวเปิดประตูให้ "

ขาดคำก็รีบวิ่งไปหน้าบ้าน แต่เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบแต่ความว่างเปล่า ไม่เห็นใคร

"เอ้า เล่นอะไรวะเนี่ย"  ตอนนั้นคุณปูไม่คิดติดใจอะไรก็กลับขึ้นมานอนต่อ

ผ่านไปจนถึงวันนัดเพื่อนๆ คุณปูก็เจอนกกับแยม แยมก็ถามว่า "ปูเจอพรบ้างมั้ย เราว่ามันแปลกๆ เมื่อคืนมีโทรศัพท์มา แม่เรารับ แล้วมาตามเรา บอกมีผู้หญิงโทรมาหา พอเรามารับสาย มันมีแต่เสียงสะอื้น ถามอะไรก็ไม่พูด จนเราวางสาย"

"โอ้ยยังดี นกว่า เมื่อคืนตอนเรานอน เหมือนมีคนมานอนร้องไห้อยู่ข้างๆ เรากลัวมากไม่กล้าหันไปดู สักพักเสียงนั้นก็เงียบหายไป"

หลังจากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ได้เจอมาต่างก็อยากไปหาพรทันที แต่ติดที่นิดยังไม่มา รอเกือบ 2 ชั่วโมง จึงตัดสินใจไปหานิดที่บ้านเพราะบ้านนิดอยู่ไม่ไกลบ้านพร

"หวัดดีค่ะแม่ นิดมันไม่อยู่เหรอคะ"

"ไปดูเอาเถอะหนู ลุกไม่ขึ้นแต่เมื่อคืนแล้ว ผมเผ้าร่วงหมด แม่ฝากหน่อยแล้วกัน นี่จะไปตามหลวงพ่อที่วัด"

เมื่อเข้าไปพบนิด นิดยังอยู่ในอาการช็อคไม่ยอมพูดอะไรกับใคร จนหลวงพ่อมาถึงท่านรดน้ำมนต์ให้นิดจึงดีขึ้น

"เมื่อคืน พรมันมาเรียกเราหน้าบ้าน เราก็ออกไปหา เพราะเห็นว่าดึกแล้ว ถามว่ามายังไง มันก็ไม่ตอบ เอาแต่ร้องไห้ เราเลยชวนมันเข้ามาในบ้าน เราเอาน้ำมาให้ แล้วก็ถามอีกว่าทะเลาะกับแฟนมาเหรอ มันก็เอาแต่ร้องสะอึกสะอื้น เราไม่รู้ทำไงเลยปล่อยให้ร้องไปแล้วก็นั่งอยู่ข้างๆ จู่ๆ มันก็ร้องไห้จนตัวโยน แล้วเอามือบีบที่ท้องตัวเอง เราตกใจเลยขยับเข้าไปใกล้ ถามไปว่าเป็นอะไร มันเงยหน้ามาอาเจียนเป็นเลือด เลือดทั้งนั้นเลยแก เราตกใจทำไรไม่ถูก กรี๊ดลั่นบ้าน วิ่งไปเรียกพ่อแม่ พี่ทุกคนเลย แต่พอทุกคนตามเราออกมา กลับไม่เจอมัน มันหายไป นิดยืนยันว่าเจอพรจริงๆ เพราะน้ำที่รินให้ยังวางอยู่ที่โต๊ะ"

หลังจากที่นิดอาการดีขึ้นแล้ว ทั้งสี่คนจึงชวนกันไปที่บ้านพร แต่พอไปถึงบ้านก็ยังคงปิดอยู่ เลยลองเอามือไปขยับกลอนประตูดู ปรากฏว่ากลอนเป็นสนิมร่วงกราว ราวกับว่าไม่เคยมีใครมาเปิดบ้านหลังนี้เลย

"งั้นไปบ้านแม่พรกันเถอะ"

จากบ้านพรไม่นานก็มาถึงบ้านของแม่พร

"แม่ได้คุยกับพรบ้างมั้ย"

"ไม่ได้คุยกันเป็นอาทิตย์แล้ว เค้าว่างานยุ่ง กำลังจะตัดลองกอง ตัดเสร็จก็จะพากันลงมากรุงเทพ แม่เลยไม่ได้โทรไปอีก ก็รออยู่นี่แหละ"

ทั้งสี่คนจึงเล่าเรื่องที่เจอให้แม่ฟัง เมื่อลองโทรไปหาพรกลับติดต่อไม่ได้ แม่จึงโทรไปหาพ่อแม่ของสามีพร ซึ่งท่านอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง ทางนั้นเองก็ไม่สามารถติดต่อบ้านพรได้เช่นกัน ด้วยสถานการณ์ที่ไม่ปกตินัก จึงขอให้ทหารสองนายช่วยเข้าไปดูในสวนให้

ทหาร 2 นายออกเดินทางโดยรถมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่เช้า จนบ่ายคล้อยก็ยังไม่ติดต่อกลับมา ทางการจึงส่งทหารตามไปอีก 4 นาย

เมื่อไปถึงทางเข้าสวนมองเห็นทหารนายหนึ่งโดนยิงนอนตายอยู่ข้างรถมอเตอร์ไซค์ เมื่อเข้าไปเกือบถึงบ้านก็เห็นศพทหารอีกหนึ่งนายโดนปาดคอ บ้านคุณพรหลังนั้นยังเปิดหน้าต่างประตูดูปกติทุกอย่าง แต่กลับไม่มีใครอยู่ในบ้านเลย จึงเดินเข้าไปตามหาในสวนลองกอง ก็ต้องพบกับภาพที่น่าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง คุณพรซึ่งท้องแก่ สามี และลูกสาววัยสองขวบ ถูกพบเป็นศพโดนมัดมือมัดเท้า ยิงและทิ้งศพไว้ในร่องสวนนั่นเอง ทางการจึงช่วยกันเคลื่อนย้ายศพทั้งหมดออกมาให้ญาตินำไปทำพิธี

หลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น พ่อแม่สามีก็จ้างคนไปเฝ้าสวน แต่ไม่เคยมีใครอยู่ได้ ต่างก็บอกตรงกันว่า มักจะได้ยินเสียงคนร้องไห้ หนักเข้าเห็นเป็นผู้หญิงท้องเดินอยู่ในสวน และที่ทำให้สวนนี้กลายเป็นสวนร้างรวมถึงคนที่อยู่แถวๆ นั้นก็ย้ายออกกันหมด คือคนเฝ้าสวนรายสุดท้าย ถูกยิJขณะขับรถมอเตอร์ไซค์ กำลังจะออกไปถนนใหญ่

ทุกวันนี้สวนยางสวนลองกองถูกปล่อยให้รกร้าง คนที่ผ่านไปมาแถวนั้นเล่าว่า พวกเขายังคงเห็นพ่อ แม่ ลูกมายืนโบกรถตรงทางเข้าสวนเป็นประจำ เรื่องทั้งหมดก็มีเท่านี้

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment