ห้องสมุดวิศวกรรมศาสตร์
เราไม่เคยเข้านะเลยไม่รู้ว่าห้องนี้ยังใช้อยู่หรือเปล่า แต่ที่ได้ยินมาคือ เป็นห้องที่ดัดแปลงจากอาคารที่เดิม เป็นตึกเรียนเก่า กลางวันแสกๆ วันหนึ่งมีอาจารย์ท่านหนึ่ง เข้าไปค้นหนังสือในส่วนที่ห้ามนิสิตเข้า คือยืมได้แต่ห้ามเดิน เข้าไปเองน่ะ ทีนี้อาจารย์ท่านนั้นกำลังก้มหน้าส่องหาหนังสือ อยู่ตามชั้นต่างๆ พอขยับหน้าผ่านไปตรงช่องว่างระหว่างหนังสือ ก็เห็นฝั่งตรงข้ามมีหน้าจ้องผ่านร่องหนังสือเข้ามา เห็นว่าใส่ ชุดนิสิตอยู่ด้วย อาจารย์ตกใจและโกรธด้วยเลยเดินไปถามว่า นิสิตเข้ามาได้ยังไง แต่พอเดินไปถึงช่องนั้นก็ไม่มีใครอยู่เลย ที่สำคัญพออาจารย์เดินหาจนทั่วพบว่าแม้แต่เจ้าหน้าที่ห้องสมุด เองก็ไม่อยู่ด้วยซ้ำไม่มีทางที่ใครจะมาโผล่หน้าให้เห็นได้ แต่เมื่ออาจารย์เดินกลับไปหาหนังสือที่ชั้นเดิมก็ได้กลิ่นฉุน กลิ่นเหม็นไหม้ที่แรงมาก พอมองไปที่พื้นก็เห็นควันลอยขึ้น มาจากพื้น อาจารย์เลยเผ่นแนบ มาทราบภายหลังว่าตรงนั้น เคยเป็นห้องแล็บ มีนิสิตเผาตัวตาย
ลานพระรูป
เย็นวันหนึ่งเมื่อประมาณปี 37 -38 เวลาราวๆ หกโมงเย็น เพื่อนเรา (รัฐศาสตร์รหัส 34) เดินกับแฟนจากฝั่งสถาปัตย์มาด้านวิทยาฯ ผ่านทางเดินหน้าพระรูป ขณะที่กำลังเดินมาใกล้พระรูป มองเห็นว่าบนรั้วเตี้ยๆ ที่เลียบทางเดินข้างพระรูปออกไปยังเสาธง (ซึ่งมันจะเป็นกึ่งๆ ที่นั่ง - คงจะนึกกันออก) มีชายหนุ่มกับหญิงสาวคู่หนึ่งนั่งหันหลังให้ สองคนนี้สวีทกันมากจนเพื่อนเราหมั่นไส้ เพราะหญิงสาวผมยาวนั่งเอาหัวเกยไหล่ฝ่ายชายอยู่ เท่าที่เห็นผู้ชายใส่เสื้อขาวกางเกงแสล็คเหมือนชุดนิสิต แต่ผู้หญิงใส่เสื้อขาวจุดดำคล้ายๆ ชุดไปงานศพ เพื่อนเราก็อยากเห็นหน้าสองคนนี้มาก เนื่องจากเห็นว่าอะไรจะมาสวีทกันในที่สาธารณะอย่างนี้ ทีนี้นึกออกมั้ยว่าก่อนที่เพื่อนเราจะเห็นหน้าสองคนนี้ได้ก็ต้องเดินผ่าน น้ำพุและโดนน้ำพุบังสายตาไปแว้บนึง ปรากฏว่าพอเดินเลยน้ำพุมาแล้วหันไปดู ทั้งสองคนเล่าเหมือนกันว่า ผู้ชายคนนั้นดูท่าทางไม่ปกติ ดูเอ๋อๆ ชอบกล ที่สำคัญคือ ...เห็นผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวไม่มีผู้หญิง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมองไม่เห็นหากผู้หญิงหลบไปที่อื่น เพราะแวบเดียวจริงๆ และพุ่มไม้ที่ใกล้ที่สุดก็อยู่ห่างไปตั้ง 5 - 6 เมตร นอกจากว่าผู้หญิงคนนั้นจะอุตริกระโดดไปหมอบหลังที่นั่งอันนั้นเท่านั้นเอง (แล้วต้องนอนราบด้วยจึงจะมองไม่เห็นเพราะที่กั้นนั้นเตี้ยมาก) เพื่อนเรานั้นซึ่งไม่ได้พูดกับแฟนเลยตั้งแต่แรกเลยรีบจูงมือแฟนเดินมาจนถึง คณะแล้วถามว่าเห็นหรือเปล่า ปรากฏว่าแฟนมันก็เห็นเหมือนกัน (ลืมบอกไป ว่าเพื่อนเราเป็นคู่หวานแหววมากอันดับต้นๆ ในคณะ ย่อมจะทนเห็นคนหวานแหววกว่าได้ยาก) ขอย้ำว่าเรื่องนี้เกิดตอนหกโมงเย็น หน้าลานพระรูป และแดดยังออกอยู่ด้วยแหละ
ห้องล้างรูป คณะศิลปกรรมศาสตร์
ว่ากันว่าห้องล้างรูปรวมของศิล'กรรมน่ากลัวที่สุด นอกจากเรื่องเห็นขาแกว่งแล้ว ยังมีแสงลูกไฟสีต่างๆ แวบไปแวบมาในห้องล้างรูปด้วย (ซึ่งห้องล้างรูปจะต้องมืดหรืออาจให้มีแสงสีแดงได้สีเดียว) บางทีก็มีเสียงเก้าอี้้นั่งรอล้างรูปดังอี๊๊ดอ๊าด ทั้งๆ ที่ไม่มีคนนั่งรอ หรือนิสิตบางคนได้ยินเสียงคนตบแท็งค์น้ำในห้องล้างรูปทั้งๆ ที่ไม่มีคนอื่นในห้อง ว่ากันว่านิสิตขอให้คณะย้ายห้องหลายครั้งแต่คณะไม่มีงบ - อันนี้เป็นข้อมูลหลายปีแล้ว ไม่รู้ป่านนี้ย้ายห้องหรือยัง
ล๊อกเกอร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์
ที่นั่นเคยมีคนเห็นคนนั่งห้อยขาอยู่บนล๊อกเกอร์ทีแรกเห็นแต่ขา แต่ว่าเมื่อมองขึ้นไปกลับไม่มีตัวตนอยู่เลย
ห้องสมุด คณะอักษรศาสตร์
ห้องสมุดที่ตึกเก่าของอักษร มีนิสิตชายคนหนึ่งไปอ่านหนังสือ เห็นนิสิตผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามก้มหน้าอ่านหนังสือนานมากไม่เงยหน้าซะที เลยถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า ผู้หญิงเลยเงยหน้าขึ้นมา ปรากฏว่า...ไม่มีหน้า
ห้อง Sound Lab คณะอักษรศาสตร์
ห้องไหนไม่รู้และไม่รู้ด้วยว่าตึกที่ถูกทุบไปหรือตึกที่ยังอยู่ปัจจุบัน เพราะอักษรมี Sound Lab เยอะมาก อาจารย์หญิงท่านหนึ่งรับฝากชั้นเรียนไว้ ได้รับคำฝากฝังให้เปิดเทปให้นิสิตฟังและคอยเช็คชื่อก็พอ ขณะกำลังเปิดเทปมีนิสิตหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่หลังห้องไม่ยอมใส่หูฟัง อาจารย์เดินไปถามก็ตอบว่าเจ็บคอ พอตอนออกจากห้อง อาจารย์คอยเช็คชื่อเห็นคนครบแต่ไม่มีชื่อเด็กคนที่ไปคุยด้วยและเด็กก็ไม่ ยอมออกมาสักที เลยเดินกลับไปหา ไปดูที่โต๊ะก็ไม่เจอ แต่พอหันออกมาจะกลับ เห็นเด็กยืนอยู่กลางห้องสายหูฟังพันคออยู่และโยงไปที่เพดาน อาจารย์หมดสติไปเลย มาทราบทีหลังว่ามีเด็กเพิ่งฆ่าตัวตายในห้องนั้น
ตึกชีววิทยาทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์
ชั้น 4 หรือชั้น 5 ไม่รู้ นิสิตที่อยู่ดึกบอกว่าเห็นเงาคนและแสงไฟวูบวาบบ่อยมากทั้งที่ไม่มีคน ลิฟต์ก็ชอบเปิดชั้นนี้ทั้งที่ไม่มีคนกดเรียก ห้องน้ำแถวภาควิชาเคมี - อยู่ดีๆ บานประตูก็ปิดเอง (และล้อคด้วย) บ่อยมากๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีลม - และแน่นอน ไม่มีคนเข้า - พอนิสิตไปถามยามยามก็บอกว่าชินแล้ว บอกอย่างทำใจได้ว่าถ้าเจอก็มาตามก็แล้วกัน จะไปช่วยไขกุญแจให้
ห้องประชุมชั้นล่างตึกสาม คณะรัฐศาสตร์
(ปี 36 - 37) กลางวันแสกๆ นิสิตรัฐประศาสนศาสตร์รหัส 34 นั่งสอบอยู่ นิสิตบางคน (ซึ่งคงมีสัมผัสที่หก) มาบอกทีหลังว่ารู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกและได้ยินเสียงเพลงแว่วๆ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะเป็นห้องเก็บเสียงดีมาก เพื่อนเรา (คนที่เล่าให้ฟัง) นั่งอยู่หลังห้อง เห็นอาจารย์เดินไปท้ายห้องประชุมทำเสียงดุๆ ใส่ห้องว่างๆ แต่จับใจความไม่ได้ว่าพูดอะไร ภายหลังทราบว่าอาจารย์เห็นนิสิต "ตน" หนึ่ง (จำไม่ได้ว่าหญิงหรือชาย) ยืนร้องเพลงของเบิร์ด - ตามข่าวน่ะยืนยันว่าเพลงเบิร์ดด้วยนะ ขอบอก - อยู่หลังห้องประชุม อาจารย์เลยไปดุว่าขอให้หยุดเพราะน้องๆ สอบอยู่ ที่สำคัญ...วันนั้นไม่ได้มีแค่ตนเดียว มีอีกตนหนึ่งไม่ใช่นิสิต นั่งห้อยขาอยู่บนลำโพงห้องประชุมด้วย
ประตูอังรีฯ
เพื่อนเราอยู่คณะวิทยาศาสตร์ (สำหรับเพื่อนสาธิตรามขอบอกว่าคือ แนน) ขับรถมาทางประตูรัฐศาสตร์ อังรีฯ จะวกรถออกไปแยกสุรวงศ์ เลยต้องไปรอเลี้ยวรถกลางถนน พอไฟส่องไปที่ใต้สะพานลอยฝั่งโรงพยาบาลจุฬา ก็เห็นคนนั่งยองๆ อยู่ใต้สะพาน ทุกอย่างเหมือนคนทั่วไป นอกจากหน้าเหมือนปูนปลาสเตอร์ที่ยังไม่แห้งแล้วโดนสาดน้ำน่ะ คือขาวๆ ย้อยๆ ไฟหน้ารถเธอจับอยู่นานพอดูเพราะต้องรอกลับรถ เมื่อเธอหันไปดูเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่นั่งมาด้วยกันก็ไม่มีทีท่าว่าเห็นอะไร เหมือนเธอเลย เธอก็เลยทำเฉยๆ กลัวว่าเพื่อนจะกลัว
คณะเศรษฐศาสตร์
ประตูชั้นล่างที่จะออกไปโรงอาหารด้านหลัง - ถูกกั้นไม่ให้เข้าออกเพราะเป็นทางผีผ่าน มีคนเห็นอะไรแปลกประหลาดมามากมาย ใครที่มีเรื่องขยายโปรดเพิ่มเติมมาด้วยจักเป็นพระคุณ (โดยเฉพาะน้องบี๊ช่วยเสริมมาด้วยก็จะดี)
ชั้นที่มีห้องพักนิสิต ป.โท (ไม่รู้ชั้นไหน)
เพื่อนเราเพิ่งจบโทมาปีสองปี (สำหรับเพื่อนสาธิตรามขอบอกว่าคือ โอชิน) เล่าว่า วันหนึ่งค่ำแล้วฝนตกหนักทุกคนกำลังจะกลับบ้าน แต่เลอะเทอะกันมากเลยกลับมาห้องพักนิสิตปริญญาโทเพื่อหลบฝนและล้างโคลน เพื่อนเราไปล้างโคลนคนเดียวในห้องน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องพัก พอดีไฟดับ เพื่อนเราเลยโผล่ออกมาดูคนอื่นๆ ว่าเป็นไงบ้าง เห็นเงาดำๆ อยู่ห่างออกไปตรงทางเดิน ทำท่าเหมือนกำลังเดินเข้ามาหา เธอดูรูปร่างแล้วเลยเรียกชื่อเพื่อนผู้ชายในกลุ่มที่หุ่นแบบนี้ แต่เงาดำไม่ตอบ และเดินเท่าไหร่ก็ไม่ใกล้เข้ามาสักที แป๊บนึงอยู่ดีๆ เงาดำก็หายไป เพื่อนเราคนนี้ก็เหมือนคนที่แล้ว คือ ไม่ยอมบอกเพื่อน กลัวเพื่อนจะกลัว เดินกลับเข้าห้องไปรวมกลุ่มเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หอหญิง (ตึกดำ)
เพื่อนเราเคยอยู่หอหญิงบอกว่าชั้น 10 เนี่ยดุสุดๆ คืนหนึ่ง ก่อนนอนกลัวว่าจะร้อนเลยเปิดประตูมุ้งลวดให้ลมเข้า คนที่นอนริมในสุดบังเอิญเป็นคนที่มีสัมผัสที่หกพอดี เล่าว่ากลางดึกอยู่ดีๆ เธอก็ตื่นมา เมื่อมองไปนอกมุ้งลวด เห็นคนคลุมหัวเดินอยู่ ตอนแรกเธอนึกว่าเป็นเพื่อนที่เป็นมุสลิมในชั้นเดียวกันนั้น แต่ร่างที่ว่าเดินเท่าไรก็ไม่พ้นหน้าห้องซักที เธอเลยรู้ว่าเจอดีเข้าแล้ว ก็เลยคลุมโปงนอนต่อ
ห้องมืด (ห้องล้างฟิลม์) คณะนิเทศศาสตร์
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อก่อนมีรุ่นพี่คนหนึ่งได้เข้าไปล้างฟิลม์ในห้องนี้แล้วไม่ได้กลับออกมาก เลย มีคนเข้าไปหาตั้งหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่มีใครพบ ได้มีนิสิตรุ่นน้องต่อ ๆ มาเล่าให้ฟังว่า ยังมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นอีกเช่น มีนิสิตได้เข้าไปล้างฟิลม์ในห้องนี้ ขณะที่เข้าไปนั้นก็คิดว่าตนนั้นเข้าไปกับเพื่อน ก็มีการพูดคุยกัน แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบจากเพื่อน บอกให้หยิบของส่งให้ก็มีคนหยิบส่งให้ แต่พอออกมาเห็นเพื่อนของตนอยู่นอกห้อง จึงได้รู้ว่าตนเข้าคนเดียว แล้วใครล่ะที่เป็นคนหยิบของส่งให้ ยังคงเป็นปริศนาอยู่
บันไดวน คณะเภสัชศาสตร์
เป็นบันไดที่ปิดตายไม่ใช้แล้ว มีคนเล่าว่ามีคนเคยเห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวตลอดทั้งตัวยืนอยู่ที่บันไดนี้
ห้อง 415 หอพักนิสิตหญิงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เล่ากันว่าถ้าหากวันไหนตื่นขึ้นมาตอนดึก ๆ คนที่ตื่นขึ้นมาจะเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยมายืนอยู่ที่ปลายเตียง
ดาดฟ้า ตึกพยาธิวิทยา
ตอนดึก ๆ หรือตอนเย็น ๆ ใกล้ค่ำ ถ้าหากมีใครขึ้นไปบนดาดฟ้าจะเห็นคนยืนนุ่งชุดสไบสีขาว
ทางเดินระหว่างตึก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
ทางเดินที่ว่านี้มีประวัติอยู่ว่า สมัยก่อนมีสามีภรรยานักการของคณะสถาปัตย์ได้ทะเลาะกัน ฝ่ายภรรยาได้เอาปืนยิงสามีจนเสียชีวิต เลือดสาดไปทั่วหน้าห้องทางเดินนี้ ต่อมาเมื่อทางคณะได้มีการปรับปรุงพื้นชั้นหนึ่งได้มีการเทปูนไว้ แต่มีเฉพาะหน้าห้องนี้เท่านั้นที่ไม่ยอมแห้ง ทิ้งไว้นานสักเท่าไรก็ไม่ยอมแห้ง ทางคณะจึงต้องปูไม้กระดานทับไว้อย่าที่เห็นกันทุกวันนี้
ที่มา http://www.waiza.com/
เราไม่เคยเข้านะเลยไม่รู้ว่าห้องนี้ยังใช้อยู่หรือเปล่า แต่ที่ได้ยินมาคือ เป็นห้องที่ดัดแปลงจากอาคารที่เดิม เป็นตึกเรียนเก่า กลางวันแสกๆ วันหนึ่งมีอาจารย์ท่านหนึ่ง เข้าไปค้นหนังสือในส่วนที่ห้ามนิสิตเข้า คือยืมได้แต่ห้ามเดิน เข้าไปเองน่ะ ทีนี้อาจารย์ท่านนั้นกำลังก้มหน้าส่องหาหนังสือ อยู่ตามชั้นต่างๆ พอขยับหน้าผ่านไปตรงช่องว่างระหว่างหนังสือ ก็เห็นฝั่งตรงข้ามมีหน้าจ้องผ่านร่องหนังสือเข้ามา เห็นว่าใส่ ชุดนิสิตอยู่ด้วย อาจารย์ตกใจและโกรธด้วยเลยเดินไปถามว่า นิสิตเข้ามาได้ยังไง แต่พอเดินไปถึงช่องนั้นก็ไม่มีใครอยู่เลย ที่สำคัญพออาจารย์เดินหาจนทั่วพบว่าแม้แต่เจ้าหน้าที่ห้องสมุด เองก็ไม่อยู่ด้วยซ้ำไม่มีทางที่ใครจะมาโผล่หน้าให้เห็นได้ แต่เมื่ออาจารย์เดินกลับไปหาหนังสือที่ชั้นเดิมก็ได้กลิ่นฉุน กลิ่นเหม็นไหม้ที่แรงมาก พอมองไปที่พื้นก็เห็นควันลอยขึ้น มาจากพื้น อาจารย์เลยเผ่นแนบ มาทราบภายหลังว่าตรงนั้น เคยเป็นห้องแล็บ มีนิสิตเผาตัวตาย
ลานพระรูป
เย็นวันหนึ่งเมื่อประมาณปี 37 -38 เวลาราวๆ หกโมงเย็น เพื่อนเรา (รัฐศาสตร์รหัส 34) เดินกับแฟนจากฝั่งสถาปัตย์มาด้านวิทยาฯ ผ่านทางเดินหน้าพระรูป ขณะที่กำลังเดินมาใกล้พระรูป มองเห็นว่าบนรั้วเตี้ยๆ ที่เลียบทางเดินข้างพระรูปออกไปยังเสาธง (ซึ่งมันจะเป็นกึ่งๆ ที่นั่ง - คงจะนึกกันออก) มีชายหนุ่มกับหญิงสาวคู่หนึ่งนั่งหันหลังให้ สองคนนี้สวีทกันมากจนเพื่อนเราหมั่นไส้ เพราะหญิงสาวผมยาวนั่งเอาหัวเกยไหล่ฝ่ายชายอยู่ เท่าที่เห็นผู้ชายใส่เสื้อขาวกางเกงแสล็คเหมือนชุดนิสิต แต่ผู้หญิงใส่เสื้อขาวจุดดำคล้ายๆ ชุดไปงานศพ เพื่อนเราก็อยากเห็นหน้าสองคนนี้มาก เนื่องจากเห็นว่าอะไรจะมาสวีทกันในที่สาธารณะอย่างนี้ ทีนี้นึกออกมั้ยว่าก่อนที่เพื่อนเราจะเห็นหน้าสองคนนี้ได้ก็ต้องเดินผ่าน น้ำพุและโดนน้ำพุบังสายตาไปแว้บนึง ปรากฏว่าพอเดินเลยน้ำพุมาแล้วหันไปดู ทั้งสองคนเล่าเหมือนกันว่า ผู้ชายคนนั้นดูท่าทางไม่ปกติ ดูเอ๋อๆ ชอบกล ที่สำคัญคือ ...เห็นผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวไม่มีผู้หญิง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมองไม่เห็นหากผู้หญิงหลบไปที่อื่น เพราะแวบเดียวจริงๆ และพุ่มไม้ที่ใกล้ที่สุดก็อยู่ห่างไปตั้ง 5 - 6 เมตร นอกจากว่าผู้หญิงคนนั้นจะอุตริกระโดดไปหมอบหลังที่นั่งอันนั้นเท่านั้นเอง (แล้วต้องนอนราบด้วยจึงจะมองไม่เห็นเพราะที่กั้นนั้นเตี้ยมาก) เพื่อนเรานั้นซึ่งไม่ได้พูดกับแฟนเลยตั้งแต่แรกเลยรีบจูงมือแฟนเดินมาจนถึง คณะแล้วถามว่าเห็นหรือเปล่า ปรากฏว่าแฟนมันก็เห็นเหมือนกัน (ลืมบอกไป ว่าเพื่อนเราเป็นคู่หวานแหววมากอันดับต้นๆ ในคณะ ย่อมจะทนเห็นคนหวานแหววกว่าได้ยาก) ขอย้ำว่าเรื่องนี้เกิดตอนหกโมงเย็น หน้าลานพระรูป และแดดยังออกอยู่ด้วยแหละ
ห้องล้างรูป คณะศิลปกรรมศาสตร์
ว่ากันว่าห้องล้างรูปรวมของศิล'กรรมน่ากลัวที่สุด นอกจากเรื่องเห็นขาแกว่งแล้ว ยังมีแสงลูกไฟสีต่างๆ แวบไปแวบมาในห้องล้างรูปด้วย (ซึ่งห้องล้างรูปจะต้องมืดหรืออาจให้มีแสงสีแดงได้สีเดียว) บางทีก็มีเสียงเก้าอี้้นั่งรอล้างรูปดังอี๊๊ดอ๊าด ทั้งๆ ที่ไม่มีคนนั่งรอ หรือนิสิตบางคนได้ยินเสียงคนตบแท็งค์น้ำในห้องล้างรูปทั้งๆ ที่ไม่มีคนอื่นในห้อง ว่ากันว่านิสิตขอให้คณะย้ายห้องหลายครั้งแต่คณะไม่มีงบ - อันนี้เป็นข้อมูลหลายปีแล้ว ไม่รู้ป่านนี้ย้ายห้องหรือยัง
ล๊อกเกอร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์
ที่นั่นเคยมีคนเห็นคนนั่งห้อยขาอยู่บนล๊อกเกอร์ทีแรกเห็นแต่ขา แต่ว่าเมื่อมองขึ้นไปกลับไม่มีตัวตนอยู่เลย
ห้องสมุด คณะอักษรศาสตร์
ห้องสมุดที่ตึกเก่าของอักษร มีนิสิตชายคนหนึ่งไปอ่านหนังสือ เห็นนิสิตผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามก้มหน้าอ่านหนังสือนานมากไม่เงยหน้าซะที เลยถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า ผู้หญิงเลยเงยหน้าขึ้นมา ปรากฏว่า...ไม่มีหน้า
ห้อง Sound Lab คณะอักษรศาสตร์
ห้องไหนไม่รู้และไม่รู้ด้วยว่าตึกที่ถูกทุบไปหรือตึกที่ยังอยู่ปัจจุบัน เพราะอักษรมี Sound Lab เยอะมาก อาจารย์หญิงท่านหนึ่งรับฝากชั้นเรียนไว้ ได้รับคำฝากฝังให้เปิดเทปให้นิสิตฟังและคอยเช็คชื่อก็พอ ขณะกำลังเปิดเทปมีนิสิตหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่หลังห้องไม่ยอมใส่หูฟัง อาจารย์เดินไปถามก็ตอบว่าเจ็บคอ พอตอนออกจากห้อง อาจารย์คอยเช็คชื่อเห็นคนครบแต่ไม่มีชื่อเด็กคนที่ไปคุยด้วยและเด็กก็ไม่ ยอมออกมาสักที เลยเดินกลับไปหา ไปดูที่โต๊ะก็ไม่เจอ แต่พอหันออกมาจะกลับ เห็นเด็กยืนอยู่กลางห้องสายหูฟังพันคออยู่และโยงไปที่เพดาน อาจารย์หมดสติไปเลย มาทราบทีหลังว่ามีเด็กเพิ่งฆ่าตัวตายในห้องนั้น
ตึกชีววิทยาทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์
ชั้น 4 หรือชั้น 5 ไม่รู้ นิสิตที่อยู่ดึกบอกว่าเห็นเงาคนและแสงไฟวูบวาบบ่อยมากทั้งที่ไม่มีคน ลิฟต์ก็ชอบเปิดชั้นนี้ทั้งที่ไม่มีคนกดเรียก ห้องน้ำแถวภาควิชาเคมี - อยู่ดีๆ บานประตูก็ปิดเอง (และล้อคด้วย) บ่อยมากๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีลม - และแน่นอน ไม่มีคนเข้า - พอนิสิตไปถามยามยามก็บอกว่าชินแล้ว บอกอย่างทำใจได้ว่าถ้าเจอก็มาตามก็แล้วกัน จะไปช่วยไขกุญแจให้
ห้องประชุมชั้นล่างตึกสาม คณะรัฐศาสตร์
(ปี 36 - 37) กลางวันแสกๆ นิสิตรัฐประศาสนศาสตร์รหัส 34 นั่งสอบอยู่ นิสิตบางคน (ซึ่งคงมีสัมผัสที่หก) มาบอกทีหลังว่ารู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกและได้ยินเสียงเพลงแว่วๆ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะเป็นห้องเก็บเสียงดีมาก เพื่อนเรา (คนที่เล่าให้ฟัง) นั่งอยู่หลังห้อง เห็นอาจารย์เดินไปท้ายห้องประชุมทำเสียงดุๆ ใส่ห้องว่างๆ แต่จับใจความไม่ได้ว่าพูดอะไร ภายหลังทราบว่าอาจารย์เห็นนิสิต "ตน" หนึ่ง (จำไม่ได้ว่าหญิงหรือชาย) ยืนร้องเพลงของเบิร์ด - ตามข่าวน่ะยืนยันว่าเพลงเบิร์ดด้วยนะ ขอบอก - อยู่หลังห้องประชุม อาจารย์เลยไปดุว่าขอให้หยุดเพราะน้องๆ สอบอยู่ ที่สำคัญ...วันนั้นไม่ได้มีแค่ตนเดียว มีอีกตนหนึ่งไม่ใช่นิสิต นั่งห้อยขาอยู่บนลำโพงห้องประชุมด้วย
ประตูอังรีฯ
เพื่อนเราอยู่คณะวิทยาศาสตร์ (สำหรับเพื่อนสาธิตรามขอบอกว่าคือ แนน) ขับรถมาทางประตูรัฐศาสตร์ อังรีฯ จะวกรถออกไปแยกสุรวงศ์ เลยต้องไปรอเลี้ยวรถกลางถนน พอไฟส่องไปที่ใต้สะพานลอยฝั่งโรงพยาบาลจุฬา ก็เห็นคนนั่งยองๆ อยู่ใต้สะพาน ทุกอย่างเหมือนคนทั่วไป นอกจากหน้าเหมือนปูนปลาสเตอร์ที่ยังไม่แห้งแล้วโดนสาดน้ำน่ะ คือขาวๆ ย้อยๆ ไฟหน้ารถเธอจับอยู่นานพอดูเพราะต้องรอกลับรถ เมื่อเธอหันไปดูเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่นั่งมาด้วยกันก็ไม่มีทีท่าว่าเห็นอะไร เหมือนเธอเลย เธอก็เลยทำเฉยๆ กลัวว่าเพื่อนจะกลัว
คณะเศรษฐศาสตร์
ประตูชั้นล่างที่จะออกไปโรงอาหารด้านหลัง - ถูกกั้นไม่ให้เข้าออกเพราะเป็นทางผีผ่าน มีคนเห็นอะไรแปลกประหลาดมามากมาย ใครที่มีเรื่องขยายโปรดเพิ่มเติมมาด้วยจักเป็นพระคุณ (โดยเฉพาะน้องบี๊ช่วยเสริมมาด้วยก็จะดี)
ชั้นที่มีห้องพักนิสิต ป.โท (ไม่รู้ชั้นไหน)
เพื่อนเราเพิ่งจบโทมาปีสองปี (สำหรับเพื่อนสาธิตรามขอบอกว่าคือ โอชิน) เล่าว่า วันหนึ่งค่ำแล้วฝนตกหนักทุกคนกำลังจะกลับบ้าน แต่เลอะเทอะกันมากเลยกลับมาห้องพักนิสิตปริญญาโทเพื่อหลบฝนและล้างโคลน เพื่อนเราไปล้างโคลนคนเดียวในห้องน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องพัก พอดีไฟดับ เพื่อนเราเลยโผล่ออกมาดูคนอื่นๆ ว่าเป็นไงบ้าง เห็นเงาดำๆ อยู่ห่างออกไปตรงทางเดิน ทำท่าเหมือนกำลังเดินเข้ามาหา เธอดูรูปร่างแล้วเลยเรียกชื่อเพื่อนผู้ชายในกลุ่มที่หุ่นแบบนี้ แต่เงาดำไม่ตอบ และเดินเท่าไหร่ก็ไม่ใกล้เข้ามาสักที แป๊บนึงอยู่ดีๆ เงาดำก็หายไป เพื่อนเราคนนี้ก็เหมือนคนที่แล้ว คือ ไม่ยอมบอกเพื่อน กลัวเพื่อนจะกลัว เดินกลับเข้าห้องไปรวมกลุ่มเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หอหญิง (ตึกดำ)
เพื่อนเราเคยอยู่หอหญิงบอกว่าชั้น 10 เนี่ยดุสุดๆ คืนหนึ่ง ก่อนนอนกลัวว่าจะร้อนเลยเปิดประตูมุ้งลวดให้ลมเข้า คนที่นอนริมในสุดบังเอิญเป็นคนที่มีสัมผัสที่หกพอดี เล่าว่ากลางดึกอยู่ดีๆ เธอก็ตื่นมา เมื่อมองไปนอกมุ้งลวด เห็นคนคลุมหัวเดินอยู่ ตอนแรกเธอนึกว่าเป็นเพื่อนที่เป็นมุสลิมในชั้นเดียวกันนั้น แต่ร่างที่ว่าเดินเท่าไรก็ไม่พ้นหน้าห้องซักที เธอเลยรู้ว่าเจอดีเข้าแล้ว ก็เลยคลุมโปงนอนต่อ
ห้องมืด (ห้องล้างฟิลม์) คณะนิเทศศาสตร์
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อก่อนมีรุ่นพี่คนหนึ่งได้เข้าไปล้างฟิลม์ในห้องนี้แล้วไม่ได้กลับออกมาก เลย มีคนเข้าไปหาตั้งหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่มีใครพบ ได้มีนิสิตรุ่นน้องต่อ ๆ มาเล่าให้ฟังว่า ยังมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นอีกเช่น มีนิสิตได้เข้าไปล้างฟิลม์ในห้องนี้ ขณะที่เข้าไปนั้นก็คิดว่าตนนั้นเข้าไปกับเพื่อน ก็มีการพูดคุยกัน แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบจากเพื่อน บอกให้หยิบของส่งให้ก็มีคนหยิบส่งให้ แต่พอออกมาเห็นเพื่อนของตนอยู่นอกห้อง จึงได้รู้ว่าตนเข้าคนเดียว แล้วใครล่ะที่เป็นคนหยิบของส่งให้ ยังคงเป็นปริศนาอยู่
บันไดวน คณะเภสัชศาสตร์
เป็นบันไดที่ปิดตายไม่ใช้แล้ว มีคนเล่าว่ามีคนเคยเห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวตลอดทั้งตัวยืนอยู่ที่บันไดนี้
ห้อง 415 หอพักนิสิตหญิงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เล่ากันว่าถ้าหากวันไหนตื่นขึ้นมาตอนดึก ๆ คนที่ตื่นขึ้นมาจะเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยมายืนอยู่ที่ปลายเตียง
ดาดฟ้า ตึกพยาธิวิทยา
ตอนดึก ๆ หรือตอนเย็น ๆ ใกล้ค่ำ ถ้าหากมีใครขึ้นไปบนดาดฟ้าจะเห็นคนยืนนุ่งชุดสไบสีขาว
ทางเดินระหว่างตึก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
ทางเดินที่ว่านี้มีประวัติอยู่ว่า สมัยก่อนมีสามีภรรยานักการของคณะสถาปัตย์ได้ทะเลาะกัน ฝ่ายภรรยาได้เอาปืนยิงสามีจนเสียชีวิต เลือดสาดไปทั่วหน้าห้องทางเดินนี้ ต่อมาเมื่อทางคณะได้มีการปรับปรุงพื้นชั้นหนึ่งได้มีการเทปูนไว้ แต่มีเฉพาะหน้าห้องนี้เท่านั้นที่ไม่ยอมแห้ง ทิ้งไว้นานสักเท่าไรก็ไม่ยอมแห้ง ทางคณะจึงต้องปูไม้กระดานทับไว้อย่าที่เห็นกันทุกวันนี้
ที่มา http://www.waiza.com/