EP.103 : 10 ตำนานคำสาปเลื่องชื่อรอบโลก

10 ตำนานคำสาปเลื่องชื่อรอบโลก


1. คำสาปฟาโรห์ แห่งอียิปต์

พฤศจิกายน 1922 โฮวาร์ด คาร์เตอร์ นักโบราณคดีชาวอังกฤษได้ค้นพบสุสานสมัยยุค 1400 ปีก่อนคริสตกาลของฟาโรห์ตุตันคามุน ขุมสมบัติของกษัตริย์อียิปต์ที่ไม่เคยมีใครย่างกรายเข้าไปกว่าพันๆปี แต่ในช่วงเวลาไม่กี่เดือน กลุ่มคนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้นพบสุสานดังกล่าวก็ค่อยๆเสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนา ไม่ว่าจะด้วยอาการไข้, โลหิตเป็นพิษ, ฆาตรกรรม และฆ่าตัวตาย

มัมมี่กษัตริย์อียิปต์โบราณกลายเป็นเรื่องสยองขวัญ มีข่าวลือกันว่าพวกคนที่เสียชีวิตภายหลังการค้นพบสุสานล้วนต้องคำสาปของกษัตริย์ตุตันคามุน และมีแม้แต่ทฤษฎีที่ว่าจุดจบที่โหดร้ายทารุณของผู้ค้นพบสุสานเหล่านั้นเกิดจากการบงการของ Aleister Crowley ชาวอังกฤษที่ใครหลายๆคนเชื่อว่าเป็นพ่อมด เพื่อแก้แค้นต่อการไปรบกวนสุสานของฟาโรห์ตุตันคามุน

สรุปแล้วมันเป็นคำสาปลึกลับหรือว่าแค่กลุ่มคนโชคร้ายล่ะ? บันทึกได้เผยข้อมูลว่ามีคนจำนวน 58 คนที่เกี่ยวข้องเมื่อตอนเปิดสุสาน ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้มีรอยขีดข่วนจากเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด รวมไปถึง คาร์เตอร์ ผู้นำการค้นพบเองก็ตาม(เขาเสียชีวิตเมื่อผ่านไปถึง 17 ปี) แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร อาชีพนักโบราณคดีก็ดูกลายเป็นอาชีพหนึ่งที่ต้องเสี่ยงมากที่สุดในช่วงยุคต้นศตวรรษที่ 20 อย่างแน่นอน


2. คำสาปตีมูร์ มหาขุนศึกชาวเติร์ก

ตีมูร์ ขุนศึกชาวเติร์กในช่วงศตวรรษที่ 14 ผู้มีส่วนรับผิดชอบต่อการตายของผู้คนกว่า 17 ล้านชีวิต (หรือประมาณ 5% ของประชากรทั้งโลก) เขายังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้างพีระมิดจากกะโหลกมนุษย์ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เขาจึงเป็นคนที่เราไม่ควรเข้าไปยุ่มย่ามด้วยเด็ดขาด แม้เขาจะตายไปแล้วกว่า 500 ปีก็ตาม นี่ยังไม่ต้องพูดถึงสุสานของเขาที่สลักถ้อยคำหนึ่งไว้ว่า ”ทั้งโลกจักต้องสะเทือน เมื่อข้าฟื้นจากความตาย”

แต่ในเดือนมิถุนายน 1941 Mikhail Gerasimov นักมนุษยวิทยาชาวโซเวียต ได้ขุดเข้าไปในสุสานของขุนศึกผู้นี้ รวมไปถึงอาจหาญเอากะโหลกของตีมูร์มาด้วย สองวันต่อมา เยอรมนีก็โจมตีโซเวียต เป็นเหตุให้ประชาชนนับล้านต้องสังเวยชีวิต ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 1942 ตีมูร์ก็ถูกนำไปทำพิธีฝังอีกครั้งตามประเพณีของชาวอิสลามอย่างเต็มรูปแบบ แค่เพียงไม่นานก่อนที่โซเวียตจะคว้าชัยชนะได้ในสมรภูมิรบที่สตาลินกราด



3. คำสาปเตคัมเซ่ ผู้นำเผ่าอินเดียนแดง

การเป็นประธานาธิบดีของประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาก็เป็นงานที่ยากเย็นแสนเข็ญพอแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคำสาปของชนพื้นเมืองแห่งแผ่นดินอเมริกาเดิมที่ว่ากันจะลงทัณฑ์ทุกๆ 20 ปี

ในปี 1931 ”ริปลีย์ เชื่อหรือไม่” ได้บันทึกเป็นครั้งแรกว่าประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกในช่วงปีที่ 20 หารลงตัว (หรือลงท้ายด้วยเลข 0 ) มักจะประสบเหตุร้ายแรงต้องเสียชีวิตในหน้าที่ เฉกเช่น อับราฮัม ลินคอล์น, เจมส์ เอ. การ์ฟีลด์ และ วิลเลียม แมกคินลีย์ ที่ล้วนถูกสังหาร วิลเลียม แฮร์ริสัน เสียชีวิตด้วยอาการปอดบวม วาร์เรน ฮาร์ดิง ก็ถูกหามออกจากออฟฟิศเพราะโรคหัวใจคร่าชีวิต แม้หลังจากที่ทำการบันทึกไปแล้ว อะไรๆก็ไม่ได้ดูดีขึ้นเลยเพราะทั้ง แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ และ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ต่างก็ถูกสังหาร เป็นการตอกย้ำถึงคำสาปลึกลับดังกล่าวเข้าไปอีก

แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไรล่ะ? แน่นอนว่าเตคัมเซ่(ตามรูป) เป็นผู้นำของชนเผ่า Shawnee ที่ต่อสู้กับทหารของประธานาธิบดีแฮร์ริสัน ในสมรภูมิที่ Tippecanoe เมื่อปี 1811 พร้อมๆกับพี่น้องของเขาคนหนึ่ง ผู้เป็นที่รู้จักในชื่อของ ”ศาสดาพยากรณ์(The Prophet)” ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผู้สาปแช่งแฮร์ริสัน และส่งผลถึงประธานาธิบดีคนต่อๆ มาทุกคนที่เข้าดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาว’


4. คำสาปตระกูลเคนเนดี

ตระกูลเคนเนดีเป็นอะไรที่ใกล้เคียงที่สุดกับความเป็นราชวงศ์ของชาวอเมริกัน และแม้ครอบครัวนี้จะมีทั้งความมั่งคั่ง อลังการ และเต็มไปด้วยภาพลักษณ์ของอเมริกันชนที่ดี แต่ตระกูลนี้ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวโศกนาฏกรรมเช่นเดียวกัน

จอห์น เอฟ. เคนเนดี และน้องชายของเขา โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี ถูกสังหารทั้งคู่ โรสแมรี เคนเนดี ต้องทนทุกข์ทรมานกับการผ่าตัดสมองที่ล้มเหลว เทด เคนเนดี ต้องรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุที่เขาทำให้หญิงที่นั่งมาด้วยกันในรถเสียชีวิต และสมาชิกอีก 4 คนของตระกูลก็ต้องมาเสียชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องบินตก โชคยังดีที่ในตอนนี้อะไรๆในตระกูลเคนเนดีดูเหมือนจะผ่อนคลายลงบ้างแล้ว


5. คำสาปเพลง มาย เวย์ ของแฟรงก์ ซินาตรา

ในช่วงศตวรรษที่ 20 มีคนจำนวนไม่น้อยกว่า 6 คนถูกฆ่าตายขณะที่ร้องเพลง มาย เวย์ (My Way) ของแฟรงก์ ซินาตรา ในคาราโอเกะบาร์ที่ฟิลิปปินส์ จนต้องมีการนำเพลงนี้ออกจากลิสต์เพลงในโปรแกรมคาราโอเกะ อันที่จริงผับบาร์คาราโอเกะในฟิลิปปินส์มักจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นได้เป็นประจำ โดยมีสาเหตุเพียงเพราะใครซักคนร้องเพลงได้ย่ำแย่เท่านั้น แล้วทำมไต้องเป็นเพลงนี้ล่ะ? ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับร้อง Butch Albarracin กล่าวถึงสาเหตุผ่านนิตยสารนิวยอร์คไทมส์เมื่อปี 2010 ไว้ว่า ”เพลงนี้ฟังดูทะนงตนมาก เนื้อเพลงจะไปปลุกความรู้สึกหยิ่งยะโสของตัวผู้ร้อง ทำให้เหมือนเค้ารู้สึกว่าตัวเองเจ๋งทั้งๆที่จริงๆแล้วตัวเขาอาจจะไม่ได้มีอะไรเลย’


6. คำสาปราชวงศ์โรมานอฟ จักรพรรดิแห่งรัสเซีย

เราสามารถพูดได้ว่า ราชวงศ์โรมานอฟ ตระกูลของจักรพรรดิผู้ปกครองรัสเซียมาตั้งแต่ปี 1613 ไปจนถึงการปฏิวัติในปี 1917 ต้องพบเจอกับเรื่องราวโศกนาฏกรรมและความโชคร้ายตลอด 3 ศตวรรษแห่งการปกครอง บ้างเชื่อว่ามีคำสาปที่ส่งผลให้กว่า 280 ชีวิตต้องตายก่อนวันอันควร ไม่ว่าจะด้วยอุบัติเหตุหรือโรคร้ายประการใดก็ตาม ที่ล้วนสั่นคลอนความมั่นคงของราชวงศ์

โดยโศกนาฏกรรมที่เด่นชัดที่สุดก็คือการสังหารหมู่อย่างโหดร้ายของจักรพรรดิซาร์นีโคไลที่ 2 (ตามรูป) และครอบครัว โดยกลุ่มคอมมิวนิสต์ บอลเชวิก เมื่อปี 1818 นอกจากนี้ อเลกเซย์ นีโคลาเยวิช โอรสองค์เดียวของพระองค์ยังเป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด(ฮีโมฟีเลีย)มาแต่กำเนิด ทำให้เกิดการแพร่กระจายไปในเชื้อสายราชวงศ์ของยุโรปในช่วงนั้น และยังมีการถกเถียงกันอีกว่า ความใกล้ชิดของราชวงศ์ซาร์กับนักบวช เกรกอรี รัสปูติน หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ”นักบวชคลั่ง(The Mad Monk)” ผู้มีส่วนให้เกิดความเสื่อมศรัทธาในราชวงศ์จนนำไปสู่การล่มสลายของระบอบจักรพรรดิในรัสเซีย


7. งานสมรสหายนะที่สุดของโลก

สมเด็จพระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 แห่งอิตาลี เป็นที่รู้จักในปัจจุบันจากอนุสรณ์สถานสุดอลังการใจกลางกรุงโรม แต่เมื่อย้อนกลับไปในสมัยช่วงยุคศตวรรษที่ 19 พระองค์ทรงเป็นพระราชบิดาของเจ้าบ่าวเจ้าของงานสมรสที่เป็นหายนะที่สุดในโลก

พิธีสมรสของเจ้าชาย Amedeo of Savoy กับ Maria Vittoria dal Pozzo  เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 1863 ต้องเริ่มต้นด้วยการชนตอขนาดมโหฬาร ว่ากันว่าเพื่อนเจ้าบ่าวยิงตัวตาย ยามในปราสาทปาดคอตัวเอง ช่างเสื้อของเจ้าสาวแขวนคอตาย ทหารผู้ช่วยของพระราชาตกม้าตาย นายทหารผู้นำพิธีการสมรสหมดสติจากอาการลมแดด นายสถานีถูกล้อรถไฟฮันนีมูนบดทับจนถึงแก่ชีวิต เราไม่รู้เลยว่าจะต้องใช้อะไรถึงจะทำให้งานแต่งงานครั้งนั้นกลับมาเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขตามที่ควรจะเป็นได้


8. รถสปอร์ตอาถรรพ์ของเจมส์ ดีน

รถสปอร์ตยี่ห้อ Porsche รุ่น 550 Spyder ของ เจมส์ ดีน ที่มีชื่อเล่นออกจะหยาบคายว่า ‘Little Bastard’ มีตำนานยาวเหยียดที่เริ่มต้นด้วยเรื่องที่เจ้าของของมัน ดาราหนุ่ม เจมส์ ดีน ซึ่งเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 24 ปีเพราะรถคันนี้เมื่อตอนปี 1995 แล้วยังมีการบันทึกถึงอุบัติเหตุหลายๆครั้งที่มีเจ้ารถคันนี้เป็นสาเหตุหรือเข้าไปเกี่ยวข้องตลอดช่วงปี 1950-1960 ไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บสาหัสของผู้มาเข้าชม หรือจะเป็นการเสียชีวิตของคนขับรถบรรทุกที่ขนรถอาถรรพ์คันนี้มา ไม่มีใครรู้ว่าทั้งหมดนั่นอาจเป็นแค่ความบังเอิญชวนขนลุกเฉยๆ หรือว่ารถคันนี้จะถูกใช้เป็นโอกาสแจ้งเกิดของช่างที่เอาซากรถคันนี้ไปซ่อมหลังเกิดอุบัติเหตุครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตามที


9. คำสาปซุปเปอร์แมน

ตอนนี้ใครที่เคยแสดงเป็นซุปเปอร์แมนคงจะหวั่นๆกันบ้าง เพราะคำสาปซุปเปอร์แมนนั้นหมายถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับผู้คนที่เกี่ยวข้องกับผลงานการดัดแปลงเรื่องราวของยอดมนุษย์ซุปเปอร์แมน ที่โด่งดังที่สุดคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของ คริสโตเฟอร์ รีฟ (ตามภาพ) ผู้กลายเป็นอัมพาตหลังเกิดอุบัติเหตุตกม้าในปี 1995 และเสียชีวิตในเวลาต่อมาจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากอาการอัมพาตของเขา และก็มีเรื่องของ จอร์จ รีฟส์ ผู้รับบทเป็นซุปเปอร์แมนที่ซีรีย์ทีวี Adventures of Superman ที่ถูกพบว่าเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายอย่างชัดเจน แต่บางทีทั้งสองกรณีนี้อาจไม่ใช่คำสาปของซุปเปอร์แมน แต่เป็นคำสาปของสองดารานามสกุลคล้ายอย่าง รีฟ และ รีฟส์ กันแน่นะ


10. คำสาปเพชรโฮป โคตรเพชรอาถรรพ์

เราไม่รู้ว่าพอเป็นคุณจะรู้สึกยังไง แต่ถ้าเป็นเราก็คงจะดีใจไม่น้อยถ้าได้โคตรเพชรขนาด 45.52 กะรัต มูลค่ากว่า 7,750 ล้านบาทมาไว้ในครอบครอง แม้ว่ามันจะต้องคำสาปที่ได้ลงทัณฑ์ด้วยชีวิตของผู้ที่เคยครอบครองมันอย่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อ็องตัวแน็ตมาแล้วก็ตาม

เพชรโฮป เป็นโคตรเพชรสีฟ้าอายุกว่าพันล้านปีที่มีขนาดโตเท่าลูกวอลนัต ที่มีความเชื่อและบอกเล่าอาถรรพ์ของเจ้าสร้อยนี้มาเนิ่นนาน เชื่อกันว่ามันถูกค้นพบที่อินเดียเมื่อช่วงศตวรรษที่ 17 โดยตำนานได้กล่าวไว้ว่ามันถูกขโมยไปจากพระเนตรของเทวรูปฮินดูองค์หนึ่ง แล้วยังมีเรื่องเล่าอีกมากมายที่ว่ากันว่าโคตรเพชรดังกล่าวได้นำความวิบัติไปสู่ผู้ครอบครองและสวมใส่มัน เช่นเรื่องเล่าที่ว่าผู้ครอบครองคนแรกถูกฝูงสุนัขป่าฉีกเป็นชิ้นๆในคอนสแตนติโนเปิล หรือเรื่องที่นักแสดงสาวชาวฝรังเศสถูกฆาตรกรรมโดยคนรักของเธอเอง แต่ว่ากันตามจริงแล้ว เรื่องเล่าใดๆที่ถูกเล่าต่อๆกันมาแบบนี้ ก็คงถูกปรับแต่งเพิ่มสีสันให้กับความลึกลับของโคตรเพชรก้อนนี้แน่นอนล่ะ

ที่มาข้อมูล  wikipedia, pantip


EP.102 : 10 ตำนานปีศาจและสิ่งมีชีวิตลี้ลับจากทั่วโลก

เรามักจะได้ยินเรื่องราวของปีศาจหรือสิ่งลี้ลับในตำนานต่างๆ ทั่วโลกกันมามากมายหลายเรื่อง แต่มีอีกหลายตำนานที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าจะกล่าวถึงความชั่วร้ายของสิ่งเหล่านั้นก็บอกได้เลยว่ามีมากมายเหลือคณานับ ถึงแม้จะมีปีศาจบางตนที่เป็นปีศาจที่ดี คอยช่วยเหลือมนุษย์ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพราะด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูน่ากลัวเกินไป ดังนั้นวันนี้เราจะมารู้จักกับ 10 สิ่งมีชีวิตลี้ลับในตำนานจากทั่วโลกกัน

1. Clurichaun


ภูติแคระในตำนานของประเทศไอร์แลนด์ ที่ชอบสร้างความปั่นป่วนให้โกลาหลวุ่นวายตามสวน และไร่นาต่างๆ เพื่อทำลายพืชและผลผลิต แถมยังชอบขี่สัตว์เลี้ยงเล่น และยังชอบเข้าไปแอบดื่มเหล้ากับไวน์ที่ชาวบ้านหมักไว้จนหมดเกลี้ยง

2. Death Worm


หนอนมรณะของมองโกเลีย มันจะฝังตัวอยู่ในที่ใดที่หนึ่งในทะเลทรายโกบี มีความยาวประมาณ 1-1.5 เมตร สามารถพ่นกรดที่ฆ่าคนตายได้ หรืออาจช็อตด้วยกระแสไฟฟ้า แถมในปากของมันยังเต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคมซี่เล็กๆ อีกนับพัน

3. Bakhtak


ปีศาจร้ายแห่งเปอร์เซีย ซึ่งผู้คนพากันเชื่อว่าอาการถูกผีอำนั้นเกิดจากปีศาจตนนี้ โดยมันจะขึ้นมานั่งทับบนตัวของคนพร้อมกับทำให้เกิดฝันร้ายขึ้นมา และเป้าหมายของมันก็คือการฆ่าเหยื่อให้ตายขณะที่กำลังหลับอยู่ แต่ถ้ามันล้มเหลวล่ะก็ มันจะกลับมาทำซ้ำๆ จนกว่าจะทำได้สำเร็จ

4. Blemmyes


ปีศาจไร้หัวที่มีใบหน้า ดวงตา ปาก และจมูกอยู่ตรงบริเวณอก จากตำนานของกรีกโบราณ ซึ่งมีความเชื่อว่ามันอาศัยอยู่ในแถบภาตตะวันตกของลิเบีย ดินแดนที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดในตำนาน และเรื่องลี้ลับ

5. Chamrosh


สัตว์ในตำนานของเปอร์เซีย มีร่างกายคล้ายกับสิงโต แต่มีหัวกับปีกเหมือนนกอินทรีย์ อาศัยอยู่บนเขา Alburz สถานที่ที่มีทั้งต้นไม้ใหญ่และพืชพรรณทั้งหมดบนโลก ซึ่งเจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้มีหน้าที่กระจายเมล็ดพืชลงไปในทะเล เพื่อให้ระเหิดไปกับสายฝน และกระจายไปทั่วทั้งโลก

6. Abarimon


สิ่งมีชีวิตในตำนานของกรีกและโรมัน ซึ่ง Abarimon นั้นมีความหมายว่า คนภูเขา จึงมีความเชื่อว่าพวกมันนั้นอาศัยอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย มันมีลักษณะคล้ายกับมนุษย์ เพียงแต่มีใบหน้าหันมาทางด้านหลัง และมีร่างกายเปลือยเปล่า อีกทั้งยังมีพละกำลัง ความเร็ว และความดุร้าย


7. Wolpertinger


สัตว์ประหลาดในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี มีรูปร่างเป็นกระต่าย แต่มีเขาเหมือนกวาง มีปีกเหมือนเป็ด และมีเขี้ยวขนาดเล็กเหมือนเสือเขี้ยวดาบ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีทั้งความเร็ว สามารถบินได้ แถมเป็นอมตะอีกต่างหาก

8. Kirin หรือ กิเลน


ส้ตว์ในตำนานของจีนโบราณ มีรูปร่างคล้ายกวาง แต่มีหัว และมีเกล็ดเหมือนมังกร ซึ่งชาวจีนเชื่อว่ามันเป็นสัญลักษณ์แห่งลางดี ถ้ามันเข้าไปที่เมืองใดก็ตาม เมืองนั้นจะมีผู้ปกครองเมืองที่เข้มแข็ง และเป็นธรรม


9. Enfield


สัตว์ในตำนานของอังกฤษและไอร์แลนด์ มีรูปร่างหน้าตา และขาคู่หลังเหมือนสุนัขจิ้งจอก มีหางเหมือนหมาป่า และมีขาคู่หน้าที่มีกรงเล็บ และปีกติดอยู่เหมือนกับนกอินทรีย์


10. Jorogumo


ปีศาจสาวแมงมุมดำในตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่น ว่ากันว่าเมื่อมันมีอายุครบ 400 ปี ร่างกายท่อนบนจะกลายเป็นสาวสวยสะพรั่ง และหลอกล่อให้ผู้ชายเข้าไปที่กระท่อมกลางป่าด้วยกัน จากนั้นจะฉีดพิษเข้าสู่ร่างของชายผู้นั้นในแน่นิ่ง แล้วห่อหุ้มร่างกายของเหยื่อด้วยใย เพื่อเก็บไว้ดูดกินจนร่างกายแห้งตายอย่างสยดสยอง


ที่มา : thechive.com 

EP.101 : 5 คดีการปราบผีจากฝีมือของ Ed และ Lorraine Warren

เรื่องราวเกี่ยวกับตำนานสยองที่เกิดขึ้นจริงในประเทศอังกฤษและถูกคลี่คลายลงด้วยฝีมือของ เอ็ด และ ลอร์เลน วอเรน (Ed and Lorraine Warren) สุดยอดตำนานนักปราบผี (ไม่ว่าจะเป็น ของอาถรรพ์ หรือ บ้านผีสิง พวกเขาก็ปราบมาจนหมดแล้ว) อย่างไรก็ตามหลายๆ คนอาจจะอยากทราบว่าพวกเขาเคยทำคดีสยองอะไรมาแล้วบ้างในวันนี้ Rabbit Daily ของเราจะพาคุณผู้อ่านไปรู้จักกับครอบครัวนี้กันให้มากขึ้นกับ 5 คดีชื่อดังที่เคยผ่านมือของครอบครัวนี้มาแล้ว


1.แอนนาเบลตุ๊กตาหลอน



เรื่องราวของแอนนาเบลตุ๊กตาผีเป็นที่รู้จักจากผู้คนจำนวนมากผ่านสื่อต่างๆ ทั่วโลก จนได้รับการนำเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ในที่สุด เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 1970 เมื่อดอนน่าและเพื่อนร่วมห้องของเธอเกิดสังเกตุเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตุ๊กตาที่ชื่อว่าแอนนาเบล (ที่ดอนน่าได้รับมาจากแม่ของเธอ) เพราะอยู่ดีๆ มันก็เกิดเปลี่ยนท่าทางขึ้นมาเสียเฉยๆ ในทุกๆ ครั้งที่จับมันวางไว้เฉยๆ หรือในบางครั้งเวลาที่เธอเผลอมันก็ไปนอนอยู่บนเตียงของเธอเสียดื้อๆ ทั้งที่ดอนน่าเองก็มั่นใจว่าเธอได้เอาตุ๊กตาสยองไปวางไว้ที่นอกห้องแล้ว เรื่องราวสยองขวัญเกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนเมื่อเพื่อนของเธอพบข้อความประหลาดที่เขียนด้วยลายมือที่เธอไม่รู้จักวางเอาไว้ภายในห้อง เช่น ช่วยฉันด้วย เป็นต้น

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้สร้างความตื่นตะลึงให้กับ ดอนน่าและเพื่อนร่วมห้องของเธอเป็นอย่างมาก ทั้งคู่จึงได้ตัดสินใจเชิญร่างทรงมาเพื่อสื่อสารกับวิญญาณที่อยู่ในตุ๊กตาดังกล่าว ปรากฏว่าในตุ๊กตาที่แม่ของดอนน่าได้ซื้อมาจากร้านขายของเก่านั้นดันมีวิญญาณแถมมาด้วย โดยมันเปิดเผยว่ามันเป็นดวงวิญญาณของเด็กที่ตายในพื้นที่ดังกล่าวก่อนที่มันจะตัดสินใจย้ายเข้ามาสิงสู่อยู่ในร่างของตุ๊กตาตัวนี้


ด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่เรื่องกลับกลายเป็นว่าดอนน่ายิ่งรู้สึกผูกพันกับตุ๊กตาตัวนี้มากขึ้น จนเธอไม่ได้นำมันไปทิ้งและตัดสินใจที่จะเก็บมันเอาไว้กับตัวแทน ความซวยเลยมาตกที่เพื่อนร่วมห้องของเธอเพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เพื่อนของเธอถูกทำร้ายโดยสิ่งที่มองไม่เห็น ร้อนถึงครอบครัว วอเรน ต้องมาเป็นผู้จัดการกับวิญญาณที่อยู่ในตุ๊กตาตนนี้ก่อนที่พวกเขาจะนำมันไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์สยองของตัวเอง ว่ากันว่าในระหว่างที่พวกเขากำลังกลับบ้านวิญญาณของแอนนาเบลก็ยังไม่เลิกแผลงฤทธิ์ โดยมันเกือบจะทำให้รถของครอบครัว วอเรน  ต้องเสียหลักทุกๆ ทางโค้งที่รถผ่าน จนพวกเขาต้องนำน้ำมนต์มาพรมและเอาถุงครอบตัวมันเอาไว้จึงได้สิ้นฤทธิ์ลงในที่สุด ในปัจจุบันนี้หากใครอยากไปเยี่ยมแอนนาเบลแล้วละก็สามารถไปหามันได้ที่ พิพิธภัณฑ์สยองในประเทศสหรัฐอเมริกา (Warren’s Occult Museum)


2.ปรากฏการณ์สยองของที่ Connecticut


อีกหนึ่งเรื่องราวที่ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และเป็นหนึ่งในคดีที่น่ากลัวไม่แพ้กันกับเรื่องราวของตุ๊กตาแอนนาเบล โดยเหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อครอบครัวแคมพ์เบลย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่ มลรัฐ คอนเนคติกัต (Connecticut) ก่อนที่คนในครอบครัวจะเริ่มเห็นสิ่งแปลกๆ เกิดขึ้นรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเงาปริศนา หรือเสียงพูดที่มองไม่เห็นตัว เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นจนทำให้ครอบครัวแคมพ์เบลไม่สามารถอยู่ได้อย่างสงบสุข ในที่สุดพวกเขาจึงได้เชิญครอบครัว วอเรน มาเพื่อจัดการ


จากการลงพื้นที่สำรวจของครอบครัววอเรนในที่สุดพวกเขาก็ได้ค้นพบต้นตอของปัญหาดังกล่าวโดยสืบเนื่องไปในอดีตนั้นสถานที่แห่งนี้เคยถูกใช้เพื่อเป็นสถานที่จัดพิธีประกอบงานศพมาก่อน และสิ่งที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับครอบครัวแคมพ์เบลมากยิ่งขึ้นไปอีกก็คือสัปเหร่อที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่นั้นมีอาการโรคจิตสุดขีดกล่าวคือเขาเป็นพวกชอบข่มขืนศพ ด้วยเหตุนี้เองวิญญาณที่อยู่ยังสถานที่แห่งนี้จึงหาความสงบไม่ได้

เรื่องราวของคดีการสืบสวนเรื่องเหนือธรรมชาติของ เอด และ ลอร์เลน วอเรน ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้เพราะในคราวต่อไปเราจะกลับมาพร้อมกับเรื่องราวปริศนาที่พวกเขาได้เผชิญกัน รับประกันได้เลยว่าเรื่องราวในครั้งหน้าจะหลอนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน แล้วคุณจะรู้ว่าเพราะอะไรพวกเขาจึงกลายมาเป็นหนึ่งในครอบครัวนักปราบผีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา


3.คดีบ้านผีสิงอมิตี้วิล (Amityville)


อีกหนึ่งคดีที่กลายมาเป็นต้นกำเนิดของภาพยนตร์เรื่อง ผีทวงบ้าน (The Amityville Horror) โดยในครั้งนี้ทั้ง เอ็ด และ ลอร์เรน วอเรน ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์สุดลึกลับที่เกิดขึ้นภายในบ้านอีกครั้ง (ว่ากันว่ามันเป็นบ้านผีสิงที่น่ากลัวที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา)

เรื่องเล่าสุดสยองของบ้านหลังนี้เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 13 พฤศจิกายน ปี 1974 ได้เกิดเหตุฆาตกรรมสยองขึ้นในเขตอมิตี้วิล โดยมีผู้บุกรุกเข้ามาในบ้านแล้วใช้ปืนไรเฟิลสังหารครอบครัวผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้อย่างโหดเหี้ยม เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนและพบต้นตอของผู้ที่ก่อเหตุฆาตกรรมสยองนี้ขึ้น นั่นก็คือลูกชายคนโตของบ้านหลังนี้ที่มีนามว่า โรนัลด์ เดฟิโอ จูเนียร์ (Ronald DeFeo Jr.) อายุ 23 ปี


เขาเล่าให้เจ้าหน้าตำรวจฟังด้วยอาการช็อกว่าในช่วงเวลาตี 3 ของคืนที่เกิดเหตุ เขาได้ยินเสียงปริศนาที่บงการให้สังหารทุกคนที่อยู่ในบ้าน พร้อมทั้งยังกล่าวอีกว่าเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลยในขณะที่ลงมือ ภายหลังจากที่โรนัลด์สารภาพเรื่องราวทั้งหมดออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการจับกุมเขาในทันทีด้วยข้อหาฆาตกรรม

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา บ้านหลังที่เกิดเหตุได้ถูกประกาศขายทอดตลาดไปอย่างรวดเร็วแต่น่าแปลกที่ไม่มีใครคิดจะซื้อมันเลยจนกระทั่งในที่สุดบ้านหลังนี้ก็ตกไปอยู่ในมือของครอบครัว ลุทซ์ (Lutz) ที่ได้บ้านหลังนี้มาเพราะความสวยงามของมัน


ในวันแรกที่พวกเขาย้ายเข้ามาในบ้านก็มีผู้ที่เจอดีเข้าจนได้ ในขณะที่บาทหลวงกำลังทำพิธีอยู่ด้วยความตั้งใจ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงประหลาดๆ ดังขึ้นภายในบ้าน แต่ก็ทำพิธีจนเสร็จและรีบออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะมีเรื่องประหลาดๆ ตามมาอีกมากมายร้อนถึงพวกวอเรน ที่ถูกครอบครัว ลุทซ์ เชิญเข้ามาปราบผีในบ้านหลังนี้ก่อนที่พวกเขาจะประกาศขายบ้านหลังนี้ในเวลาต่อมา แต่เชื่อหรือไม่ครับผู้อ่านทุกท่านว่าเจ้าของบ้านหลังใหม่ที่ย้ายเข้ามาอยู่กลับไม่เคยเจอผีเลยแม้แต่ครั้งเดียว (ก็แปลกดีเหมือนกันนะครับไม่รู้ว่าเพราะครอบครัววอเรนไล่ผีออกไปแล้ว หรือผีตัวนี้เก็บกระเป๋าออกจากบ้านเองเพราะเบื่อที่จะหลอกคนต่อ หรือเหตุผลอย่างอื่น)

4.เรื่องสยองของครอบครัว Perron



เรื่องนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุ้นเคยกันดีสำหรับผู้ที่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง คนเรียกผี 1 (The Conjuring 1) กันมาแล้ว เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้แทบจะโกยรายใน Box Office ของประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างถล่มทลายเลยทีเดียว

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งที่ชื่อว่า ฮาริสวิล (Harrisville) ในเขต โรดไอแลนด์ (Rhode Island) ที่ครอบครัว เพอร์รอน (Perron) เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน แต่พวกเขากลับต้องมาเผชิญหน้ากับวิญญาณร้ายที่มีชื่อว่า เบธชีบ้า (Bathsheba) อดีตเจ้าของบ้านที่ครอบครัวเพอร์รอนอาศัยอยู่ ซึ่งเธอถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด เพราะได้ฆ่าลูกชายของตัวเองสังเวยให้กับซาตานผู้ชั่วร้าย


ครอบครัวเพอร์รอนต้องมาเจอเหตุการณ์สยองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นถูกผีหลอก โดนโจมตีจากวิญญาณร้าย (เรียกได้ว่าจัดหนักเลยทีเดียว) จนพวกเขาต้องเชิญครอบครัววอเรนให้เข้ามาจัดการกับคดีสยองในครั้งนี้ พวกวอเรน ได้จัดการสืบสวนขึ้นจนค้นพบความจริงที่น่าตกใจว่าภายในบ้านหลังนี้แท้จริงแล้วมีคนตายอยู่หลายต่อหลายคนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นฆ่าตัวตาย,ฆ่าข่มขืน,ฆาตกรรม จนไปถึงกรณีหายสาปสูญอย่างลึกลับ สร้างความตกใจให้กับเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นอย่างมาก

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเพอร์รอน หากใครสนใจอยากติดตามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ แนะนำให้ชมภาพยนตร์เรื่อง The Conjuring 1 ที่ได้นำเอาเรื่องราวความน่ากลัวที่พวกเขาได้ประสบพบเจอมาบอกเล่าเอาไว้อย่างเขย่าขวัญสั่นประสาท


5.คดีผีหลอกวิญญาณหลอนที่ Enfield


คดีสุดท้ายของครอบครัววอเรนที่เรานำเอามาฝากผู้อ่านทุกท่านในวันนี้ เป็นคดีที่ต่อมาจะกลายเป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่องคนเรียกผี 2 (The Conjuring 2) ที่ในตอนนี้ผมเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะได้ดูกันแล้ว (ยอมรับความจริงว่าโดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยชอบดูหนังแนวนี้เท่าไหร่ กลัวหัวใจวายคาโรงครับ)

เรื่องราวดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ฮัดสัน (Hudgson) และลูกๆ ทั้ง 4 คนที่บังเอิญเหลือเกินว่าย้ายมาอยู่ในบ้านแสนสวยหลังหนึ่งในย่าน เอนฟิลด์ (Enfield) ทางตอนเหนือของลอนดอน ประเทศอังกกฤษ โดยพวกเขาต้องมาเจอกับเรื่องราวสยองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เสียงพูดที่มองไม่เห็น ข้าวของภายในบ้านที่เคลื่อนย้ายเอง วิญญาณร้ายที่ตามสิงร่าง และที่สำคัญที่สุดก็คือการที่ลูกสาวของบ้านหลังนี้โดนวิญญาณร้ายเข้าสิง ร้อนถึงสองนักปราบผีในตำนานอย่างครอบครัววอเรน ที่ต้องมาทำการสืบสวนสอบสวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในบ้าน เพื่อหาวิธีจัดการกับเจ้าวิญญาณร้ายตัวนี้ให้สำเร็จก่อนที่มันจะกัดกินทุกคนในบ้านอย่างโหดร้ายทารุณ

ขอให้ผู้อ่านทุกท่านโปรดใช้วิจาณญาณในการอ่านเพื่อความสนุกสนานเพียงเท่านั้น

 
Wordpress Theme by wpthemescreator .
Converted To Blogger Template by Anshul .