EP.100 : กู้ภัยผวายืนคุยกับวิญญาณหนุ่มขับเก๋งตกคลองพระยาสุเรนทร์

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุการณ์รถเก๋งโตโยต้าวีออส สีขาว ทะเบียน ณษ 2469 กรุงเทพมหานคร พุ่งตกลงไปในคลองพระยาสุเรนทร์ บริเวณถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา กลับเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น


ซึ่งภายหลังเกิดเหตุได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊งและชาวบ้านละแวกนั้นว่า ช่วงเกิดเหตุขณะที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิและชาวบ้านเดินทางยังที่เกิดเหตุ ก็พบชายคนหนึ่งยืนอยู่ที่เสาตอม่อใกล้กับที่เกิดเหตุ ในสภาพสวมเสื้อสีเขียวแขนสั้น ตัวเปียกปอน ใบหน้ามีรอยช้ำ

เจ้าหน้าที่และชาวบ้านจึงคิดว่าน่าจะเป็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าวที่สามารถช่วยเหลือตัวเองขึ้นมาจากน้ำได้ แต่พอสอบถามไปชายคนดังกล่าวก็ไม่ตอบอะไร เอาแต่ยืนนิ่ง ระหว่างนั้นเป็นช่วงชุลมุนชายคนดังกล่าวก็หายไป โดยไม่มีใครเอะใจสงสัย


ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ลงงมหาร่างนายชัยนำ โชติมโนธรรม อายุ 47 ปี ที่นายชัยยศ โชติมโนธรรม อายุ 50 ปี พี่ชายแจ้งว่าอยู่ในรถด้วยกันและเป็นคนขับ สูญหายไปคาดว่าจะจมน้ำ หลังผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่ก็พบศพนายชัยนำ จมอยู่ในคลองดังกล่าว

แต่ที่ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านแปลกใจคือลักษณะเสื้อที่สวมใส่และใบหน้าละม้ายคล้ายกับชายที่ยืนตัวเปียกอยู่ตรงตอม่อดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบอีกว่ามีเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทร ซึ่งเดินทางเข้าตรวจสอบ และบันทึกภาพด้วยมือถือบริเวณที่เกิดเหตุ ปรากฎว่าภายในภาพมีเงาสีดำปรากฎอยู่บนเสาตอม่อ ลักษณะคล้ายรูปร่างของคน สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก และพากันวิภากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว




เรื่องเล่าจากรายการ The Ghost Radio




ขอบคุณภาพจาก  สว่างอุทยานฯ403บังร่มไทร, มูลนิธิกู้ภัยร่มไทร, เฟซบุ๊ก มูลนิธิกู้ภัยร่มไทร จุดบัวขาว

EP.099 : เปิดเรื่องหลอน "อัฐิธาตุ รีสอร์ท" รีสอร์ทหนึ่งเดียวในป่าช้า !


วัดหนองจับเต่า อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี สร้าง "อัฐิธาตุ รีสอร์ท" รีสอร์ทแห่งความสงบสุข ไว้ใช้เก็บอัฐิคนตาย และสร้างขึ้นเพื่อเตือนสติมนุษย์ว่าสังขารไม่เที่ยงแท้ เกิดได้ก็ดับได้


จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าภายในป่าช้าวัดหนองจับเต่า ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีการสร้างรีสอร์ทขึ้นภายในป่าช้า เพื่อใช้เก็บอัฐิผู้เสียชีวิต โดยตั้งชื่อว่า "อัฐิธาตุ รีสอร์ท" รีสอร์ทแห่งความสงบสุข นั้น

ล่าสุด (29 สิงหาคม 2559) จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของผู้สื่อข่าว โดยมี นายประมวล เป็นสุข อายุ 32 ปี สัปเหร่อประจำวัดเป็นผู้พาเข้าเยี่ยมชม "อัฐิธาตุ รีสอร์ท" รีสอร์ทแห่งความสงบสุข ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นลักษณะห้องปูนชั้นเดียว รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ภายในใช้อิฐบล็อกก่อจำนวน 3 ชั้น และแต่ละชั้นทำเป็นช่อง ๆ ที่ทำขึ้นมาจากไม้ฝาโลงศพ แต่ละช่องมีรูปภาพ ชื่อเจ้าของอัฐิ และอัฐิห่อด้วยผ้าขาวมัดใส่ถุงพลาสติกมากกว่า 100 อัฐิ ภายนอกรายล้อมไปด้วยเจดีย์บรรจุอัฐิ โดยรีสอร์ทแห่งนี้ได้จากการนำเงินของประชาชนที่มาทำบุญมาสร้าง เพื่อเตือนใจให้ทุกคนรำลึกถึงสังขารที่ไม่เที่ยงแท้


ทั้งนี้ นายประมวล เล่าว่า เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ห้องเก็บอัฐินั้นทรุดโทรมมาก ซึ่งสัปเหร่อคนเก่า ได้คิดบูรณะซ่อมแซมและทาสีขึ้นมาใหม่พร้อมกันตั้งชื่อว่า อัฐิธาตุ รีสอร์ท รีสอร์ทแห่งความสงบสุข เนื่องจากอยากให้วิญญาณผู้เสียชีวิตมีความสงบสุข เมื่อญาติพี่น้องผู้ตายได้นำอัฐิมาฝากไว้กับวัด เพื่อรอเวลาครบกำหนดรับอัฐิกลับบ้าน หรือนำไปลอยอังคาร หรือทำบุญครบปี โดยบางอัฐิครบกำหนด 5 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีญาติมารับกลับไป ทางวัดก็จะดำเนินการติดต่อไปยังมูลนิธิ เพื่อนำอัฐิไปฝังในสุสานหรือไปทำพิธีส่งวิญญาณต่อไป

อย่างไรก็ดี วัตถุประสงค์ของการสร้างรีสอร์ทแห่งนี้ก็เพื่อเป็นการเตือนสติให้มนุษย์เข้า ใจว่า สังขารคนเรานั้นไม่เที่ยงแท้ เกิดขึ้นได้ก็มีดับสูญได้ จงหมั่นสร้างบุญ และทำคุณงามความดีไว้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ติดตัวเราไปตลอด




ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN

EP.098 : "ค่ายลูกเสือร้าง" เรื่องชวนขนหัวลุกจากปี พ.ศ.2517 ที่กำลังโด่งดัง


เรื่องเล่าจากรายการวิทยุ "The Ghost Radio" กลายเป็นเรื่องชวนขนหัวลุกที่เล่าต่อกันปากต่อปากและโด่งดังในขณะนี้


ผู้โทรมาเล่าคือคุณหมี เล่าเรื่องเกี่ยวกับการนำเด็กไปเข้าค่ายลูกเสือ คืนแรกมีนักเรียนมาบอกว่า มีเด็กลูกเสือที่ไม่รู้จัก เปิดเต๊นท์เข้ามานอนด้วย ลักษณะตัวเปียกน้ำ และถือไม้พลองติดตัวตลอด พอวันต่อมาขณะที่เล่นกิจกรรมรอบกองไฟ จู่ๆก็มีเด็กมาแจ้งว่า "เพื่อนในแถวหายไป 2 คน" พอไปตามก็เห็นนักเรียน 2 คนนั้นนั่งอยู่ริมตลิ่งในสถาพที่เหม่อลอย จึงรีบนำตัวกลับ จากนั้นพอเริ่มกิจกรรมรอบกองไฟไปได้ซักพัก เด็กนักเรียน 2 คนเดิมก็หายไปอีก! คราวนี้หายังไงก็หาไม่เจอ จนต้องหยุดกิจกรรมรอบกองไฟ และให้นักเรียนทุกคนรวมตัวกันอยู่ในความดูแลของครูอย่างใกล้ชิด


ขณะที่ครูกำลังโทรแจ้งผู้ปกครองของนักเรียนที่หายตัวไป ก็ได้พบกับ 1 ใน 2 นักเรียนที่หายไป โดยนั่งอยู่ที่ฐานมุดดินในสภาพหวาดกลัว ส่วนอีกคนหาจนถึงตี 2 ก็ยังหาไม่พบ จนชาวบ้านแถวนั้นแนะนำให้ลองบนยายดู ซึ่งทางครูก็ทำตาม ปรากฏว่ารอจนถึงรุ่งเช้า จู่ๆ มีลุงท่านหนึ่งขับรถสามล้อมาในค่ายแล้วพูดว่า "หาเด็กอยู่ใช่ไหม ให้ไปดูที่วัด" พอไปดูก็ปรากฏพบ เด็กอีกคนที่หายไปนั่งอยู่ในโบสถ์ของวัด ซึ่งห่างจากค่ายถึง 6 กิโลเมตร

ผู้ปกครองนำตัวเด็กคนนั้นกลับบ้านและต่อมาได้ให้ย้ายออกจากโรงเรียนทันที แต่ก่อนที่ลาออก นักเรียนคนนั้นได้เล่าเหตุการณ์ในวันเข้าค่ายให้อาจารย์ท่านนึงฟังว่า "ระหว่างกิจกรรมรอบกองไฟ มีพี่ลูกเสือคนนึงกวักมือชวนไปเล่นด้วย ชวนเล่นผูกคอตาย ซึ่งนักเรียนคนนั้นกลัว เลยจะวิ่งหนีกลับ แต่ด้วยความมืดจึงหลง จู่ๆ ก็มียายแก่ท่านหนึ่งตัดผมทรงดอกกระทุ่ม ถือตะกร้าหมากเดินมาพร้อมตาแก่ นุ่งผ้าขาวม้า พาไปส่งที่โบสถ์ โดยตายายบอกให้เข้าไปดูในโบสถ์ อย่าออกมา ซึ่งระหว่างที่นักเรียนคนนั้นอยู่ในโบสถ์ พอมองออกมา ก็เห็นเด็กลูกเสือคนนั้น ถือไม้พลองเดินวนรอบโบสถ์ทั้งคืน


คุณหมี ได้กลับไปสอบถามแม่ ซึ่งเป็นคนในพื้นที่นั้นทำให้ทราบว่า วัดที่พูดถึงนี้ถูกบริจาคโดย 2 ตายายคู่หนึ่ง ซึ่งตอนนี้ก็มีรูปปั้นท่านอยู่ ซึ่งลักษณะรูปปั้นตรงกับที่นักเรียนคนนั้นเห็นทุกอย่าง ส่วนที่ค่ายลูกเสือนั้นก็เคยมีเด็กจมน้ำหายไปคนนึง ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2517 จนทุกวันนี้ยังหาไม่เจอ แม้กระทั่งจะเคยสูบน้ำจนเกือบหมดบ่อแล้ว และหากใครเดินทางไปหลังเขา ซึ่งเป็นอีกทางเส้นทางสู่ค่าย จะเห็นรูปปั้นลูกเสือตั้งอยู่ ซึ่งตรงฐานจะเขียนปี พ.ศ.ที่สร้างขึ้นนั้นคือ พ.ศ.2517 (ปีเดียวกับที่มีเด็กจมน้ำ) และชาวบ้านในละแวกนั้นเล่าว่า ค่ายนี้ได้ปิดร้างไปนานแล้ว ในบางคืนก็จะมีเด็กมาเคาะประตูขอนอนด้วย ขอข้าวกินอยู่เสมอๆ

และนี่คือคลิปเสียง ที่ทางคุณหมีได้เล่าผ่านทางรายการ จะน่ากลัวแค่ไหนมาลองฟังกัน


 
Wordpress Theme by wpthemescreator .
Converted To Blogger Template by Anshul .