EP.097 : เปิดตำนาน 52 เรื่องผี และสิ่งลี้ลับในจังหวัดสงขลา!

เรื่องที่จะนำมาเล่าต่อจากนี้ เป็นเรื่องที่ผู้เขียนได้รับทราบจากการออกเดินทางไปทำงานวิจัย ตามสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดสงขลา เเน่นอนล่ะว่าการออกเก็บข้อมูลงานทางไทยคดีศึกษาในเรื่องต่างๆ ตามสถานที่ต่างๆย่อมต้องได้รับทราบข้อมูลทั้งเชิงประจักษ์ เเละความเชื่อในเเนวทางเฉพาะถิ่น อาทิ ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องภูติผี เเละดวงวิญญาณ(ลัทธิวิญญาณนิยม)เพื่อนๆ หลายๆ คนของผู้เขียนเลยขอให้ทำการรวบรวมนำมาเล่าสู่กันฟัง(บ้าง) เพื่อเป็นประสบการณ์เเลกเปลี่ยนกัน



1.หน้าโรงเรียนอุดมศึกษาพานิช.. สมัยก่อนล่วงผ่านเลยมามีเรื่องเล่ากันปากต่อปากจากผู้สูงวัยว่าที่เชิงสะพาน ตอนเช้าตรู่ (ราวตี 4-6 โมงเช้า) มักจะมีสาวสวยผมยาวผิวขาวมากๆ ใส่ชุดขาวมายืนโบกรถอยู่ หากใครจอดรถรับ เธอจะหายไปพร้อมกับความซวย หรือเรื่องร้ายๆที่เข้ามาเยือนคนดวงซวยคนนั้น…บรื๋ออออ

2.บริเวณถนนศรีภูวนารถ มีซอยหลายซอยมากๆ มีอยู่ซอยหนึ่งคือซอย 12 ซอยนี้เองมีโรงเก็บหัวหอมร้างอยู่ซอยหนึ่ง เล่าลือกันว่าผีดุมากๆ มีเรื่องเล่าว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนมีลูกจ้างโรงเก็บหัวหอมถูกบานประตูเหล็ก ตกใส่ ทับจนร่างกายเเหลก เละทั้งตัว ไม่มีใครสามารถจะนอนค้างคืนในโรงเก็บหัวหอมร้างซอย 12 ได้เพราะถูกหลอกกันมานับไม่ถ้วนเเล้ว

3.สะพานรถไฟ(มีราวเหล็ก)ที่ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านน้ำน้อย เคยมีคนตายกว่า 400 ศพ ที่สำคัญเป็นการตายโหง ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเชื่อกันว่าที่นี่เฮี๊ยนมาก คนเฒ่าคนแก่หลายคนเรียกสะพานรถไฟแห่งบ้านน้ำน้อยว่าสะพานสายมรณะ บ้างก็ว่าเป็นสะพานผีตายโหง เคยมีเรื่องเล่าในอดีตว่า เคยมีกลุ่มคนมายืนโบกรถอยู่ที่แถวๆสะพานรถไฟดังกล่าว โบกรถเพื่อจะไปสงขลา พอรถให้ขึ้นมาปรากฏว่าระหว่างขับกลุ่มคนดังกล่าวก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ ร่องรอย ทำเอาคนขับรถถึงกับจับไข้ไปหลายวัน



4.ซอยๆ หนึ่งข้างวัดโคกนาว กับห้างโลตัส เด็กหาดใหญ่เรียกกันว่า…” ซอยคุณยายสปีด ” เชื่อกันว่าหากขับรถมอเตอร์ไซด์เข้ามาในซอยคนเดียวหลังเที่ยงคืนในคืนเดือน มืดเเล้วจะเจอกับผีคุณยายสปีดหลอกเอา ด้วยการกระโดดขึ้นมาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ ใครดวงซวยอาจถึงตายได้

5.ถนนสายหาดใหญ่-สงขลา(สายใหม่)ก่อนถึงปั้นน้ำมันมีเรื่องสยองเล่าว่า เคยมีกลุ่มรถซิ่งถูกสายสลิงที่ขึงไว้กับต้นไม้ใหญ่ 2 ข้างทาง ตัดเอาคนนั่งซ้อนท้ายซึ่งเป็นผู้หญิงจนหัวขาดมาเเล้ว…เชื่อกันว่าหากขับ รถมาตอนกลางคืนเเล้วเห็นคนขับมอเตอร์ไซด์ไม่มีหัว…อย่ามอง หรือชี้มือไปหา เพราะท่านอาจจะซวยเอาได้

6.บริเวณเปิดท้ายกรีนเวย์(ข้างป่าช้า โคกโพธิ์)…เเต่เดิมเป็นวังน้ำขนาดใหญ่ ชาวบ้านคลองเรียนเรียกกันว่า ” วังน้ำดำ ” เชื่อว่าเป็นดินเเดนอาถรรณ์ที่ผู้มีวิชาอาคมมักมาลองปล่อยของกัน

7.วัดโคกนาว..สมัยก่อนเรียก ” โคกเน่า ” เพราะเคยมีการฝังศพกันเป็นจำนวนมาก เเต่ปรากฏว่ามีน้ำท่วมขังในบริเวณดังกล่าวในปีหนึ่ง ชาวบ้านเลยจำต้องนำศพไปผูกติดเอาไว้กับกิ่งไม้ใหญ่ บ้างก็ว่ามีนายพรานหลายคนไปยิงสัตว์ในโคกเน่า ถูกซากศพที่เน่าเปื่อยตกใส่จนขวัญหนีตามๆกัน ผู้เขียนเคยสัมภาษณ์ผู้เฒ่าผู้เเก่ท่านหนึ่ง ท่านกรุณาเล่าให้ฟังว่า…หากมืดค่ำจะไม่ยอมเดินทางผ่านโคกเน่าเป็นอันขาด เพราะผีที่นี่หลอกเก่งที่สุด
8.หน้าสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่… เชื่อกันว่าเฮี๊ยนน่าดูชม..เพราะจะต้องมีคนถูกรถชนตาย หรือรถทับตายทุกปี หลายคนบอกว่าเขาต้องการ ” ตัวตายตัวเเทน ”


9.หน้าวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่….บริเวณใต้สะพานลอยหน้าวิทยาลัย เชื่อกันว่ามีผีเฝ้าอยู่ใต้สะพานลอย…ใครดวงถึงฆาตจะถูกผีผลักให้รถชน เพื่อเป็นตัวตายตัวเเทนตน(เด็กเทคนิคหาดใหญ่เล่ากันภายใน)

10.เจ้าที่ที่ปกป้องรักษาวิทยาลัยเทคนิค หาดใหญ่นอกจากจะมีพระวิษณุกรรมแล้ว บริเวณเชิงเขา(ข้างแผนกช่างยนต์)ยังมีเจ้าที่เก่าของที่นี่ปรากฏให้ได้เห็น ครู-อาจารย์ เรียกท่านว่า “ทวดตาเดียว” ส่วนนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่เรียก “เจ้าพ่อตาเดียว” ถือกันว่าท่านนั้นศักดิ์สิทธิ์มากๆ บูชาหรือเซ่นด้วยอะไรก็ได้ ยกเว้นเนื้อสุกร(เพราะท่านเป็นมุสลิม)

11.เจ้าที่ที่มหาวิทยาลัยทักษิณเด็กที่นี่เรียกกันว่า..” ทวดเลียบ ” เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่ ปรากฏในรูปของต้นไม่ใหญ่ เชื่อกันว่าหากใครขวัญอ่อน หรือต้องการเจริญก้าวหน้าในการเรียน หรือการงานด้านต่างๆให้บูชาท่านด้วยยาคูลท์ เท่านั้น

12.หน้าตึกเรียนอาคาร 13 ภายในมหาวิทยาลัยทักษิณ เชื่อกันว่ามีความเฮี๊ยนระดับสูงมากๆ เเละที่หน้าตึกเรียนอาคาร 13 นี้เองที่มีฮวงซุ้ยขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าตึก(น่าจะเป็นตึกเรียนตึกเดียวใน ประเทศไทยที่มีฮวงซุ้ยตั้งอยู่ด้านหน้า) เล่าลือกันว่าบางครั้งดึกๆจะมีคนเดินไปเดินมาที่หน้าฮวงซุ้ย มองนานๆเเล้วท่านก็จะหายไป

13.ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เชื่อกันว่าสระน้ำหน้าอาคารตึกอำนวยการหลังเก่า…เคยมีเด็กผู้หญิงที่มา เข้าค่ายที่นี่จมน้ำตาย เธอมักชอบออกมาเล่นงานคนที่ดวงถึงฆาตด้วยการดึง หรือลากลงไปในน้ำ

14.ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา อาคารหอสมุด(หลังเก่า)…เชื่อกันว่าที่ บล็อก ฮ. นกฮูก มีดวงวิญญาณของนักศึกษาที่นี่สิงอยู่ ท่อนบนเป็นผู้ชายใส่ชุดช่างอุตสาหกรรม ท่อนล่าง…..ไม่มี !!!

15.เเถวๆท้ายวัดคลองเรียน…ในอดีตยังมีต้นยางใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง บนต้นยางปรากฏเป็นฝูง “ชิน” จำนวนมากลอยอยู่(ชิน หลายคนเชื่อว่าเป็นผีชนิดหนึ่ง รูปลักษณะเป็นดวงไฟสีขาวขุ่นใหญ่ประมาณเท่าลูกฟุตบอล-1 เมตร) ปัจจุบันเชื่อว่าต้นยางใหญ่ดังกล่าวไม่มีเเล้ว เเละน่าจะเป็นสถานที่ตั้งของหมู่บ้านร่มเย็น(ตรงบริเวณไหนไม่อาจคาดเดาได้ เเน่ชัด)

16.รถเมล์สายหาดใหญ่-สงขลา(เด็กหาดใหญ่ เรียก รถโพธิ์ทอง)….เชื่อกันว่ามีรถโพธิ์ทองอยู่คันหนึ่งมักปรากฏหญิงสาวในชุด นักศึกษา ผมยาว เธอมักชอบนั่งอยู่เก้าอี้เกือบท้ายสุดในยามหัวค่ำ พอมองไปนานๆเธอจะหายไป

17.หลังวัดคลองเเห ตำบลคลองเเห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา…เชื่อกันว่ามีเนินดินสูงอยู่เนินหนึ่ง เรียก…” โคกนกคุ่ม ” ภายในเนินดินว่ามีทรัพย์สมบัติฝังอยู่ เเละมีผีนานาชนิดเฝ้าดูเเล อาทิ ผีปลาหัวกระโหลก

18.เเถววัดคูเต่า ตำบลเเม่ทอม สงขลา(วัดคูเต่าหลังเเรก…วัดสระเต่า)เคยมี ?เสือสมิง? อาศัยอยู่ใกล้บริเวณวัดได้เข้าทำร้ายสามเณรมรณภาพ 1 รูป คือสามเณรถูกกัดจนศีรษะขาดและถูกกินเป็นอาหารเป็นที่เล่าลืออย่างสยดสยอง ต่างๆนานา(เสือสมิง คือ เสือร้ายที่เชื่อกันว่าเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณร้ายที่แปลงร่างขึ้นมา)

19.วัดโลการาม บ้านสะทิ้งหม้อ สิงหนคร สงขลา…มีเจ้าที่ประจำวัดเป็นพญางูจงอางขนาดใหญ่ เรียก ” ทวดตาหลวงรอง ” เชื่อว่าใครบูชาเเล้วจะเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ…นอกจากนี้ยังเชื่ออีก ด้วยว่าหากใครจะเข้ามาขโมยทรัพย์สมบัติของทางวัดจะโดนงูทวดเล่นงานจนต้องหนี กระเจิงทุกรายไป

20.หน้าอุโบสถวัดพรุเตาะ หาดใหญ่ สงขลา มีต้นโพธิ์อยู่ต้นหนึ่ง…เชื่อว่าต้นโพธิ์นี้เเต่เดิมคือเจ้าอาวาสวัดพรุ เตาะ ครั้งหนึ่งท่านได้ใช้น้ำมันราดเเละเผาตนเองจนมรณภาพ เเล้วท่านก็ได้เกิดใหม่เป็นต้นโพธิ์หน้าอุโบสถ(ชาวบ้านเขาเชื่อกัน)

21.บริเวณหัวเขาแดง-สงขลา เชื่อกันว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยป้องปกดูแลอยู่เรียกว่า ?ทวดหัวเขาแดง? เชื่อกันว่าท่านนั้นมักปรากฏกายให้ได้เห็นในรูปของจระเข้ใหญ่มีนัยตาสีแดงเพลิง

22.น้ำตกโตนงาช้างที่ตั้งอยู่ในจังหวัด สงขลาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ปรากฏมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ป้องปกอยู่เรียกว่า “ทวดตาขุนดำ-ทวดโต๊ะปะหวัง” ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงกับน้ำตกเชื่อว่าท่านนั้นมีรูปกายเป็นเสือดำ ขนาดใหญ่ มีเรื่องเล่าว่าราวปี พ. ศ. 2549 ได้มีนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์คนหนึ่งเดินทางมาเที่ยวน้ำตกโตนงาช้าง จนตกช่วงเย็นชายคนดังกล่าวได้ออกเดินทางปีนขึ้นไปชมทัศนียภาพบนน้ำตกโตนงา ช้าง จากนั้นจึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เพื่อนๆที่มาด้วยกันจึงออกตามหาแต่ก็หาไม่พบจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของทาง น้ำตกทราบช่วยกันตามหาจนช่วงดึกจึงต้องยกเลิกไปแล้วออกหาตอนเช้าอีกที หาอยู่ 3 วัน 3 คืนก็ยังหานักท่องเที่ยวชายชาวสิงคโปร์คนดังกล่าวไม่พบ จึงได้เชิญหมอไสยศาสตร์มาทำพิธีกรรม “เข้าทรง” และพอได้รับข้อมูลมาว่านักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ที่หลงป่ายังมีชีวิตอยู่ ประทังชีพด้วยการกินยอดไม้ และน้ำเป็นอาหาร เขาเพียงโดน “ผีบังตา” เอาไว้ท่านมิต้องเป็นห่วงแต่ประการใด ถึงเวลาเขาก็จะกลับมาเอง แต่หลังจากนั้นก็ขอให้ช่วยสร้างศาลให้เราอยู่ด้วย หัวหน้าทีมค้นหาจึงสัญญาว่าหากหาเจอก็จะสร้างศาลสถิตบูชาให้ วันที่ 4 ที่ออกค้นหาจึงหานักท่องเที่ยวคนดังกล่าวจนพบแล้วสร้างศาลให้เรียกว่า “ทวดตาขุนดำ-ทวดโต๊ะปะหวัง”

23.ห้องเบอร์ 333 ณ โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่เยื้องๆกับฟาร์มจระเข้ เก่า…เชื่อกันว่ามีผีฝรั่งสิงสถิตอยู่ หากใครจิตอ่อนเวลานอนอยู่บนเตียงจะถูกลากขา หรือบีบนวดขาให้ในเวลากลางคืน..ให้แก้เคล็ดด้วยการนำเหรียญบาท 3 เหรียญมาวางไว้ตรงมุมบานประตูทางเข้าห้อง(ด้านใน)แล้วบอกกล่าวขอเช่าห้องกับ ผีเจ้าของห้องก่อนจึงจะอยู่ได้อย่างปกติสุข(เจอกันหลายคนแล้วห้องเบอร์นี้)

24.ชาวอำเภอเมืองสงขลา เชื่อกันว่า ณ เขารูปช้างมีผีฟ้า-เทวดาป้องปกรักษาอยู่เรียกกันว่า “ทวดช้าง” หรือ“พ่อทวดช้าง” เชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณของควาญช้างและพญาช้างใหญ่ 2 เชือก(พ่อพลายแก้ว และแม่พังงา)

25.แถวน้ำตกโตนงาช้าง และย่านหูแร่ในสมัยก่อนเชื่อกันว่ายังมี ?ผีหลังกลวง? อาศัยอยู่เชื่อกันว่าผีหลังกลวงเป็นความเชื่อของชาวไทยภาคใต้มีลักษณะเป็น เหมือนกับคนธรรมดาแบบเราๆท่านๆนี่แหล่ะ แต่มันไม่ชอบใส่เสื้อผ้า(ประมาณว่าใส่แต่กางเกงที่ขาดรุ่งริ่ง)และที่สำคัญ คือมันมีสันหลังที่กลวงโบ๋วมีน้ำหนองไหลออกมาอย่างน่ากลัว ผีหลังกลวงชอบอาศัยอยู่ในแถบสถานที่ๆมีอากาศเย็นโดยเฉพาะในบริเวณน้ำตกต่างๆ ของทางภาคใต้ เชื่อกันว่ามันชอบกินของดิบๆเป็นนิสัย ส่วนกรรมวิธีในการหลอกคนก็คือ มันจะมาทำทีพูดจา-เจรจาเป็นมิตรกับผู้ที่ผ่านถิ่นที่อยู่ของมันในยามค่ำคืน จากนั้นมันจะแกล้งคันหลังแล้วขอให้มิตรใหม่ช่วยเกาหลังให้… หันหลังให้คนที่มันจะหลอกดู(หลายคนพอได้เห็นหลังอันกลวงโบ๋วของมันแล้วก็อาจ จะกลัวจนวิ่งหนีไปเลยก็มี) แต่ผีหลังกลวงในบางพื้นที่ เช่น ที่จังหวัดพัทลุงนั้นมันมีวิธีหลอกโดยการเดินมาตอนกลางคืนแล้วอาสาว่าจะช่วย ตำข้าวให้ พอเจ้าของบ้านเผลอมันจะฉวยโอกาสหักคอกับครกตำข้าว(คนพัทลุงในสมัยก่อนเลยไม่ ค่อยมีใครนิยมตำข้าวตอนเวลากลางคืน)

26.บ้านคูเต่า อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ยังเชื่อว่าในเครื่องดนตรีของถิ่นตนมีผีชนิดหนึ่งสถิตอยู่เรียก “โต๊ะเคร็ง” เชื่อกันว่าโต๊ะเคร็งเป็นผีที่สถิตอยู่ในเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งของทางภาค ใต้ โดยหากมีการเซ่นสรวงที่ดีโต๊ะเคร็งจะทำให้การประกอบอาชีพทางด้านเป็นนัก ดนตรีเจริญก้าวหน้า แต่หากทำผิดกฎการเซ่นสรวงบูชาแล้วโต๊ะเคร็งจะนำพาความวิบัติมาให้ได้

27.เชื่อกันว่าในคลองอู่ตะเภาในอดีตยังมีจระเข้ผีสิงสถิตอยู่ มีตำนานเล่าว่า ในอดีตลำคลองอูตะเภายังอุดมสมบูรณ์มีจระเข้อาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่น เนื่องด้วยมีปลาอย่างชุกชุมทำให้วิถีทางการดำเนินชีวิตของคน และจระเข้ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน จวบอยู่มายุคหนึ่งเกิดเหตุจระเข้กินคนเกิดขึ้นลือว่าเป็นจระเข้ผีสิง ขึ้นมาจากน้ำ คาบ กัดกินเด็กที่เล่นน้ำบริเวณท่าน้ำวัดท่าแซไปหลายรายจนเป็นที่ประหวั่นพรั่น พรึงของผู้คนในสมัยนั้นเป็นยิ่ง จวบจนความเจริญได้เดินทางเข้ามาสู่ชุมชนคลองอูตะเภามากขึ้น ตำนานจระเข้กินคนเลยลบหายไปกับกาลเวลาเหลือเพียงคำเล่าลือจากผู้เฒ่าผู้แก่ ว่า….ในอดีตลำคลองแห่งนี้ยังเคยมีจระเข้ผีสิงที่ชอบกินเด็กเป็นอาหารอาศัย อยู่

28.เชื่อกันว่าทะเลสาบสงขลายังมีนาง เงือก(ผีนางเงือก)อาศัยอยู่ ณ ยามใดก็ตามที่เป็นคืนจันทร์เดือนเพ็ญสว่างเต็มท้องน้ำ ผีนางเงือกจะขึ้นมาจากท้องน้ำ นั่งอยู่บนโขดหิน ใช้หวีที่ทำจากก้างปลาหวีผมอย่างน่าดูชม…..ใครดวงถึงฆาตนางจะลากลงไปใน ท้องน้ำเอาบุรานายนั้นทำสามี

29.ถนนสายบ้านในไร่-เขากลอย(ทางโค้งข้อศอก)…ยามค่ำคืน หากเห็นหญิงสาวรถมอเตอร์ไซด์เสีย ยืนคนเดียว… อย่าชี้นิ้วไปหา-อย่ารับขึ้นรถ…เพราะไม่ใช่คน!!!

30.ต้นไทรใหญ่หน้าวัดคลองเรียน มีอายุนานมากแล้ว(อาจจะถึง หรือเกิน 100 ปี)…..ยามค่ำคืนมักปรากฏผู้คนมากมายพร้อมเทียนส่องสว่าง พวกเขามาหาตัวเลขก่อนวันหวยออกกันน่ะ แต่….หากเห็นผู้คนมากมายอันตรธานหายไปในพริบตาที่ชี้มือไปหา…ท่านจะซวย เอาได้!!!

31.พระคเณศ หน้าภาควิชาศิลปะ ว.ค.สงขลา เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ…..หากใครอยากลองดีให้มาตอนเที่ยงคืน พร้อมกับหันก้นเข้าหาและ…เกาใส่หน้าท่าน(เชื่อกันว่าจะโดนดีทุกรายไป)

32.ข้างภาคศิลปะ ว.ค.สงขลา สมัยก่อนยังมีต้นมะพร้าวใหญ่อยู่ต้นหนึ่งข้างสระน้ำ(ปัจจุบันตัดทิ้ง แล้ว)…..ยามดึกๆเด็กๆที่นี่อาจจะเห็นชายหนุ่มร่างกำยำผิวดำหัวหยิก ไม่ใส่เสื้อผ้า พุ่งดิ่งลงมาจากต้นมะพร้าว ลงสู่สระน้ำข้างภาควิชา…หายลงไปไม่โผล่ขึ้นมาอีกเลย.. ไม่ต้องตกใจ เขาแค่ทักทายเด็กศิลป์น่ะ(สมัยก่อนเจอกันบ่อย)

33.ตำนานบ้านโลงศพ (หน้าซอย 10 ราษฏร์อุทิศ) เคยได้ยินเรื่องเล่าในหาดใหญ่อยู่เรื่องหนึ่งเมื่อหลายสิบปีก่อนคือเรื่อง ตำนานบ้านโลงศพ ว่ากันว่ามีบางส่วนของตัวบ้านดังกล่าวที่สร้างออกมาเหมือนรูปโลงศพยังไงยัง งั้น เล่าลือกันอีกต่อว่าหลังจากเจ้าของบ้านได้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังดัง กล่าวไม่นานก็ประสบอุบัติเหตุหมู่ยกครัว (บางคนก็เล่าลือว่ามันเห็นเรื่องแปลกๆเวลาขับรถผ่านบ้านหลังดัง กล่าว(ปัจจุบันบ้านโลงศพกลายเป็นร้านถ่ายรูปไปแล้ว) – เคยไปพิสูจน์มาแล้ว Dr.BOND

34.บ้านรูปยิ้ม (ท้ายซอย 7 ราษฏร์อุทิศ)เป็นภาพขาว-ดำ ของหญิงสาวนางหนึ่งที่เล่าลือกันว่าเธอผูกคอตายภายในบ้าน ได้มีการนำรูปภาพดังกล่าวมาแขวนไว้บริเวณหน้าบ้าน ลือกันอีกว่าหากใครดวงซวยเวลาขับรถผ่านหญิงสาวในภาพจะยิ้มให้(รีบไปทำบุญ ล้างซวยโดยด่วน!!!) – เคยไปพิสูจน์มาแล้ว Dr.BOND

35.ตำนานผีช่องแอร์ที่หาดใหญ่ เชื่อกันว่ามีโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองหาดใหญ่ที่เป็นต้นเหตุแห่งตำนานผีช่อง แอร์(ฆาตกรรมยัดช่องแอร์) และก็มีการเล่าลือกันว่าห้องดังกล่าวของโรงแรมที่เกิดเหตุมีอัตราความเฮี๊ยน สูงมากๆ!!! ใครมาพักมักเจอดีเข้าแทบทุกราย เส้นผมหญิงสาวร่วงลงมาจากเพดาน เสียงประหลาดยามค่ำคืน กลิ่นศพเน่าโชยมาโดยหาสาเหตุไม่ได้!!! หลายคนมาถามผมว่าแล้วมันที่ไหนกันล่ะโรงแรมนั้น แน่นอนว่าไม่ใช่โรงแรมกลางเมืองหาดใหญ่แน่ โรงแรมนี้ร้างมากว่า 10 ปีตั้งแต่น้ำท่วงใหญ่คราวนั้นแล้ว หลายคนบอกว่ามันคือโรงแรมหาดใหญ่ออxxxจริงหรือไม่?

36.เรื่องผีที่อาคาร 3 เด็กเทคนิครุ่นเก่าๆเขาเล่าลือกันนักกันหนาว่าแต่เดิมอาคาร 3 ในวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่เคยมีคนตกลงมาตาย(ครูหลายคนยืนยันว่าจริง)หากยืนมอง วิวทิวทัศน์อยู่ดีๆมีใครตกลงมาแล้วปรากฏว่าร่างนั้นอันตรธานหายไป ขอร้อง…อย่าไปทักเดี๋ยวซวย!!!

37.ตำนานต้นจามจุรีให้โชค-หาดใหญ่ใน หลายคนเรียกกันว่าทวดแม่จามจุรี หรือทวดไกรสิงห์-ราชสีห์จามจุรีใหญ่อันเป็นที่สิงสถิตของทวดแม่จามจุรีตั้ง อยู่ ณ ปากทางเข้าถนนโชคสมาน 1 ตรงข้าม สภ.หาดใหญ่ ลือกันว่าต้นไม้ต้นนี้เคยเป็นที่ประหารชีวิตนักโทษในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (ผู้คอตาย)สืบตำนานพอได้ว่าในราวปี พ.ศ. 2552 ภรรยาของตำรวจชั้นประทวนซึ่งทำงานอยู่ใน สภ.หาดใหญ่ ได้หลับลงด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการปฏิบัติภาระหน้าที่ประจำวันที่บ้านพัก ใกล้กับต้นจามจุรี ครั้งหลับก็ฝันไปว่ามีเจ้าแม่จามจุรี สถิตอยู่ ณ ต้นจามจุรีใหญ่ใกล้กับที่พักของตน เจ้าแม่จามจุรี หรือทวดแม่จามจุรีบอกว่าจะให้เลขเด็ดแต่มีข้อแม้ว่าขอให้ตั้งศาลให้ที่ใต้ ต้นจามจุรีเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ปรากฏว่าถูกหวยจริง แต่ผู้เป็นภรรยาของตำรวจชั้นประทวนนางนี้ก็ยังไม่ปักใจเชื่อเสียเท่าใดนัก จึงไปทำการบนกับทวดแม่จามจุรีว่าขอให้ถูกหวยเป็นครั้งที่สองแล้วจะสร้างศาล แก้บนให้ ปรากฏถูกหวยมาเลย์จริงดังที่ทำการบนไว้ ต่อมาจึงมีการสร้างศาลเพียงตาไว้ให้สำหรับเป็นที่สถิตแก่ทวดแม่จามจุรี ครั้งข่าวลือเรื่องทวดแม่จามจุรีให้เลขเด็ดได้อย่างแม่นยำยิ่งนักรู้ถึงหู เซียนหวย นักเลงตัวเลขจากทั่วประเทศจึงแห่กันเดินทางมาเพื่อขอเลขเด็ด ไม่เว้นแม้แต่ชาวต่างประเทศที่ทราบข่าว อาทิ ชาวมาเลย์ สิงคโปร์ จีน เป็นต้น จามจุรีอันเป็นที่สิงสถิตของทวดแม่จามจุรี ณ ปากทางเข้าถนนโชคสมาน 1 ตรงข้าม สภ.หาดใหญ่จึงแน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ อันมีสิ่งมุ่งหวังอันเดียวกันคือ “เลขเด็ด” นั่นเอง นอกจากเรื่องเลขเด็ดที่ชาวบ้านนิยมมาขูด ทาแป้ง ลูบหากันแล้วนี่ยังปรากฏความเชื่ออีกอย่างหนึ่งที่แพร่สะพัดกันไปในวงกว้าง คือเชื่อกันว่าทวดแม่จามจุรีนี้ไม่ชอบให้ใครมาตัดกิ่ง ก้าน ใบโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังเรื่องเล่าลือที่ว่าก่อนหน้านี้ไม่นานเคยมีเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนคร หาดใหญ่ จะทำการตัดแต่งกิ่งไม้ข้างถนน ครั้งตัดแต่งมาเรื่อยๆจนถึงต้นจามจุรีใหญ่ต้นดังกล่าวปรากฏว่าอุปกรณ์ สำหรับตัดแต่งกิ่งไม้ไม่ทำงานอยู่นาน พยายามอย่างไรก็ไม่สามารถซ่อมอุปกรณ์ดังกล่าวได้ จึงต้องล้มเลิกการตัดแต่งกิ่งต้นจามจุรีออกไป ครั้งเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่มาทำการตัดแต่งกิ่งไม้ในครั้งที่สองก็ ปรากฏว่าอุปกรณ์สำหรับตัดแต่งกิ่งไม้ไม่ทำงานเหมือนครั้งแรก จึงเกิดการเล่าลือกันถึงเรื่องความเฮี๊ยนของต้นจามจุรีใหญ่ ณ ปากทางเข้าถนนโชคสมาน 1 กันอย่างกว้างขวาง

38.ตำนานผีทวดเฝ้าถ้ำ หรือตำนานทวดแหลมจาก เป็นความเชื่อของชาวบ้านตำบลเกาะใหญ่ อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา ตำนานทวดแหลมจากมีดังนี้กล่าวคือ ภายในอาณาบริเวณของหมู่ที่ 1 ตำบลเกาะใหญ่ อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา ปรากฏว่ามีถ้ำใหญ่อยู่แห่งหนึ่งที่ซึ่ง ณ ถ้ำแห่งนี้เองชาวบ้านล้วนเชื่อกันว่าภายในถ้ำมีทรัพย์สมบัติ แก้วแหวนเงินทอง ถ้วยชามที่เป็นทองคำฝังเอาไว้อยู่ภายในเป็นจำนวนมาก และภายในถ้ำนี้เองปรากฏว่ามีจระเข้ใหญ่ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นจระเข้เจ้าและศักดิ์สิทธิ์ พร้อมทั้งขนานนามให้ว่า “ทวดแหลมจาก” มีหน้าที่เฝ้าปกปักรักษาทรัพย์สมบัติดังกล่าวอยู่ คนแต่ครั้งโบราณหรือชาวบ้านในสมัยก่อนจะสามารถเข้าไปหยิบยืมทรัพย์สมบัติ ต่างๆของทวดแหลมจากได้แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องนำมาคืนในระยะเวลาที่กำหนด ครั้งกาลต่อมามีคนพาลเข้าไปหยิบยืมทรัพย์ของทวดแล้วไม่ได้นำไปคืนให้ ทวดแหลมจากจึงโกรธและปิดถ้ำลงด้วยหินก้อนขนาดใหญ่ตรงบริเวณปากทางเข้าถ้ำ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครสามารถเข้าไปหยิบยืมทรัพย์สมบัติของทวดได้อีก แต่ชาวบ้านในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวก็ยังเชื่อว่าทวดแหลมจากในรูปของจระเข้ ทวดขนาดใหญ่ยังคงสถิตอยู่ภายในถ้ำแห่งนั้น

ทวดท่าข้าม หรือ ทวดพญาท่าข้าม

39.ตำนานทวดแม่กง ผู้ยิ่งใหญ่แห่งบ้านเกาะหมี มีเรื่องเล่าสืบทอดกันมาอย่างยาวนานถึงรูปแบบ-ความศักดิ์สิทธิ์ของทวดแม่กง เอาไว้ว่า…..เมื่อนานมาแล้วยังมีชายชาวบ้านเกาะหมีคนหนึ่งนั่งคุยกับ เพื่อนที่ชานเรือน เขาท้าเพื่อนๆเอาไว้ว่าไม่เชื่อในตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของทวดแม่กง…..“ ถ้าทวดแม่กงศักดิ์สิทธิ์จริง ขอให้ขึ้นมาหาเขาบนเรือน เขาจะยอมให้ทวดกัดให้ถึงแก่ชีวิต” ขณะเดียวกันนั้นเองปรากฏว่ายังมีพญาคางคก(แม่กง)ใหญ่อยู่ตนหนึ่ง นั่งอยู่บนโขดหินริมฝั่งน้ำ ณ บ้านเกาะหมี โจนทะยานลงจากโขดหินลงสู่แม่น้ำดังกล่าวเสียงดังสนั่น…..กลายร่างเป็นเข้ เจ้า(จระเข้ใหญ่)ในทันทีทันใด ว่ายตรงไปสู่บ้านของชายหนุ่มผู้ท้าทาย ถึงริมฝั่งได้ ทวดแม่กงมองชายผู้ท้าทายด้วยสายตาที่โกรธอย่างถึงที่สุด พร้อมลำเลียงตนขึ้นสู่บนฝั่งพร้อมกลายร่างเป็นงูบองหลาขนาดใหญ่(งูจงอาง ขนาดใหญ่) เลื้อยตรงรี่เข้าไปจนถึงบ้านของชายผู้ท้าทาย ขึ้นไป ณ เรือนชานได้ก็ตรงเข้าหาชายคนดังกล่าว…เล่นเอาท่านเจ้าของบ้านถึงกับหน้า ถอดสี จำต้องยอมขอขมาโทษแก่ทวดแม่กงในทันทีทันใด ทวดจึงยอมกลับลงสู่แม่น้ำ มิทำร้ายเอา(สืบทราบว่าปัจจุบันชาวบ้านเกาะหมีก็ยังคงเชื่อกันอยู่)

40.ตำนานผีนางรำไร้หน้าที่โรงเรียนใหญ่ แห่งหนึ่งแถวย่านหาดใหญ่ใน เป็นเรื่องเล่ากันในหมู่นักเรียนโรงเรียนนี้มานานแล้วว่าที่ตึกศูนย์ศิลป์ มักมีเหตุการณ์แปลกๆในค่ำคืนวันทางศาสนา เช่น วันพระ เป็นต้น กล่าวคือมักมีคนได้ยินเสียงดนตรีไทยแว่วมาตามลม บางคนที่ดวงไม่ค่อยดีอาจเห็นนางรำไร้หน้ากำลังร่ายรำกันอย่างสวย งาม…บรื๋อ!!!

41.ตำนานผีผ้าม่านในตึกศูนย์ศิลป์ที่โรงเรียนใหญ่แห่งหนึ่งแถวย่าน หาดใหญ่ใน เรื่องเล่าของเด็กวงโยฯเก่าๆเขาเล่ากันให้ฟังมาว่า มักมีอะไรแปลกๆชอบเดินไปมาผ่านผ้าม่านในตึกหลังดังกล่าว เป็นเงาดำๆ แต่พอเดินตามมันไปมันก็จะหายไป เด็กรุ่นเก่าๆเขาเล่าให้ฟังมาน่ะ!!!

42.ตำนานกระดาษข้อสอบที่เกินมาในอาคาร 2 ม.หาดใหญ่ เล่าลือกันในหมู่นักศึกษาว่า ณ ห้องสอบห้องหนึ่งในอาคารดังกล่าวอาจารย์จะต้องแจกข้อสอบให้เกินมา 1 ชุดเสมอๆเพราะเคยมีเหตุนักศึกษาตายในระหว่างสอบ หากข้อสอบไม่เหลือ 1 ชุดมักมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นเสมอๆ(เด็กที่นี่เขาเล่าลือกันน่ะ)

43.เรื่องผีห้อยขา ม.หาดใหญ่ ลือกันในหมู่นักศึกษาว่า ณ ตึกๆหนึ่งใน ม.หาดใหญ่หากใครเห็นคนนั่งห้อยขาอยู่ที่เหนือบันไดตัวหนึ่ง อย่าไปร้องทัก(เพราะไม่ใช่คน)

44.ตำนานเสียงซอดังแว่ว ณ ห้องดนตรีไทยโรงเรียนวรนารีเฉลิม เชื่อกันในหมู่เด็กนักเรียนว่าเวลาดึกๆมักได้ยินเสียงดนตรีไทย(โดยเฉพาะ เสียงซอ)ดังแว่วมาจากตึกดังกล่าว(ชั้น 3) ข้างในมีใครอยู่หรือเปล่า? นั่นสิ ไม่รู้ เพราะประตูทางเข้ามันล็อคจากข้างนอก!!!
ปล. ผู้เขียนเองก็เคยไปฝึกสอนที่โรงเรียนนี้มาแล้ว ปรากฏว่าเจอเหตุการณ์แปลกๆที่อาคารดังกล่าวเหมือนกัน กล่าวคือคืนนั้นต้องมาช่วยท่าน อ.สืบ แกะแผ่นโฟมที่ห้องศิลปะทั้งคืน ผมอยู่กับเพื่อนรวม 3 คนปรากฏว่าตกดึกเพื่อนๆอีก 2 คนออกไปกินกาแฟ ส่วนผมอาบน้ำ(ราวตี 2) ขณะอาบน้ำนั้นเอง(ห้องน้ำครูชั้น 2)มีคนมาเคาะประตูแรงๆ 2 ที พอใส่กางเกงได้ก้รีบออกมาดุปรากกว่าไม่เจอใคร มองออกไปที่หน้าต่างพบเพื่อน 2 คนยังนั่งอยู่ร้านกาแฟ ในตึกมีผมอยู่คนเดียว และยังคงสงสัยอยู่ทุกวันนี้ว่า ใครกันเล่าที่กรุณามาเคาะประตูห้องน้ำตอนตี 2 ส่วนเหตุการณ์เสียงซอดังแว่วก็เคยได้ยินนะ ได้ยินพร้อมกันทั้ง 3 คนตอนเที่ยงคืนตรง แต่พอออกหาต้นตอของเสียงกลับมาจากซอของ อ.สืบ ที่แอบเล่นอยู่ข้างล่าง(นอนดึกจริงนะท่าน)

45.เรื่องเล่าสายลมที่พัดแรงในห้องสมุดโรงเรียนวรนารีเฉลิม สายลมดังกล่าวมักพัดในเวลาช่วงเช้าทำให้เก้าอี้ในห้องสมุดหกล้มระเนระนาดไป หลายตัว ทั้งๆที่ปิดหน้าต่างหมดทุกบานแล้วนะ!!!

46.ตำนานผีวิ่งเล่น ที่อาคารเรียนอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ เล่าลือกันในหมู่นักศึกษาอิเล็กรุ่นเก่าๆ(ราวปี 36)ว่าชั้น 4 อาคารเรียนอิเล็กยามค่ำมักมีเรื่องแปลกๆ เคยมีเด็กที่เรียนภาคบ่าย(สมัยก่อน)ช่วยปิดประตูอาคารเรียนให้อาจารย์ ตรวจเช็คว่าไม่มีใครอยู่ในตึกแล้ว แต่…ปรากฏว่าได้ยินเสียงคนวิ่งอยู่ข้างบน พอขึ้นไปดูอีกครั้งก็ไม่ปรากฏใครบนอาคาร ว่ากันว่าคนที่ดวงซวยมากๆอาจเจอเป็นเงา เป็นร่างให้ได้เห็น อาทิ บริเวณแท้งเก็บน้ำอาคารอิเล็กที่หลายๆคนเคยเจอมาไง!!!

47.ตำนานนักเรียนหญิงถักเปีย ณ บันไดเวียนโรงเรียนหญิงล้วนแห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ เล่าลือกันว่าหากใครดวงซวยจะเจอเข้ากับเธอ บางครั้งเธอจะมาให้คุณเห็น บางครั้งจะมาเป็นเสียงเหมือนคนตกบันได อย่าพยายามวิ่งค้นหาเธอล่ะ ยังไงก็หาไม่พบ

48.ตำนานผีบูม ของคณะ วจก. เชื่อกันว่า ณ มหาวิทยาลัยใหญ่แห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่(ตั้งอยู่ตรงข้ามห้างโลตัส)ยังปรากฏ เรื่องเล่าที่น่าขนพองสยองเกล้าเรื่องหนึ่งว่า เคยมีรุ่นพี่คณะ วจก.เช่ารถตู้เหมารวมกันจะไปรับปริญญาที่จังหวัดหนึ่งทางตอนล่างของภาค ใต้(วิทยาเขต) แล้วรถตู้ประสบอุบัติเหตุตายหมู่หลายศพ พอถึงเวลาผ่านมาบรรจบรุ่นพี่ที่ตายไปมักจะกลับมาบูมถึงห้องน้องๆคณะ วจก. เพราะยังไม่ได้รับปริญญา เล่ากันต่ออีกว่าหลายคนเจอเข้ากับตัวถึงกับจับไข้ไปหลายวัน

49.ตำนานแขน-มือปริศนา เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าของนักเรียนโรงเรียนกอบกุลวิทยาคม หมู่บ้านคลองแงะ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับอาคารห้องสมุดเก่าของโรงเรียนว่า หลายคนมักจะเห็นแขน-มือปริศนาที่มีเล็บยาวและแหลมมากเป็นบางครั้งในเวลา เย็นๆ หรือกลางคืน หากมองนานๆแขน-มือดังกล่าวจะหายไป!!!

50.ตำนานผีทหารที่โรงเรียนบ้านคลองแงะ (ชาติบุณยวิทยาการ) อำเภอสะเดา เล่าลือกันในหมู่คนเฒ่าคนแก่ ณ บริเวณใกล้กับโรงเรียนว่าสถานที่ตั้งโรงเรียนเดิมทีเป็นสุสานทหารญี่ปุ่น เคยมีคนมาลองของกันตอนดึกปรากฏเจอผีทหารญี่ปุ่น(ไม่มีหัว)ต้องวิ่งกัน กระเจิง

51.ตำนานผีผูกคอในตู้เหล็ก เป็นเรื่องเล่าของนักศึกษาหอพักอาคาร 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง(ตั้งอยู่ตรงข้ามห้างโลตัส)เล่าลือกันในหมู่เด็กหอพัก ว่ามักเจอเหตุการณ์แปลกๆเวลาเอาเสื้อผ้า-วัสดุอุปกรณ์ไปเก็บในล็อคเกอร์-ตู้ เหล็กภายในหอพักดังกล่าว ว่ากันว่าคนที่ดวงซวยมากๆจะเห็นเป็นนักศึกษา(ชาย)ผูกคอตายในตู้เหล็ก!!!

52.ตำนานชุดนอนสีแดงหอพักในและตำนานเต่า ปริศนา เป็นเรื่องเล่าในหมู่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยทักษิณว่า ห้ามใส่ชุดนอนสีแดง และห้ามร้องเพลง “แต่ปางก่อน” ในหอพัก ไม่งั้นจะเรียนไม่จบและอาจเจอดีในหอพัก หลายคนเล่าให้ฟังว่าหากใส่ชุดนอนสีแดงจะถูกผีดึงลงมาจากเตียงนอน หากร้องเพลง “แต่ปางก่อน” ภายในหอพักจะมีเสียงร้องคลอตามมา…บรื๋อ!!! ตำนานเต่าปริศนา ณ สระน้ำหน้าหอพักริมบึง เด็กที่ ม.ทักษิณเชื่อกันว่าหากใครมานั่งเล่นในยามค่ำคืนแล้วเห็นเต่าในสระน้ำหน้าหอ พักริมบึงแล้วจะทำให้เรียนไม่จบ

จาก http://webboard.yenta4.com/topic/482335

EP.096 : 10 อันดับสถานที่สยองขวัญทั่วโลก ท้าให้คุณไปพิสูจน์

อันดับ 10 ปรากฏการณ์แม่มดเบลล์ (The bell witch)


ตั้ง เมืองอดัมส์ มลรัฐเทนเนสซี อเมริกา
ในปี ค.ศ.1817 สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อปรากฏการณ์หลอนที่มีชื่อที่สุดในอเมริกา ผู้คนทุกสารทิศพากันหลั่งไหลมาชม รวมไปถึงประธานาธิบดีด้วย
ซึ่งก็ไม่เคยผิดหวังทุกคนได้เห็นกันทั่วหน้า ซึ่งว่ากันว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากหญิงชราชื่อ เคท แบทส์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของครอบครัวเบลล์
เธอเจ็บแค้นมากเมื่อครอบครัวนี้โกงเธอในการซื้อขายที่ดิน ดังนั้นก่อนตายเธอได้สาปแช่งว่าถ้าเธอเป็นผีฉันจะให้ดู และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ครอบครัวของเบลล์ต้องประสบเคราะห์กรรมต่างๆ นาๆ จากผีที่มองไม่เห็นไม่ว่าจะเป็น ข้าวของแตกกระจาย เข็มทิ่มตามร่างกาย นมหกเลอเทอะ
ดึงผ้าคลุมจากเตียง การทุบตี แถมเสียงหัวเราะสยองแกล้งแบบสะใจ แม้กระทั่งตอนสมาชิกในครอบครัวตายผีตนนี้ยังไม่วายที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์
หัวเราะร้องเพลงอย่างเริงร่าและดังยาวนานจนผู้ร่วมพิธีศพคนสุดท้ายออกจากงานฝังศพ

แม้ทุกวันนี้ครอบครัวเบลล์จะหมดรุ่นไปแล้วเกือบ 200 ปี ก็ตาม แต่ทุกวันนี้วิญญาณยังปรากฏตัวอยู่ เนื่องจากมีผู้พบเห็นปรากฏการณ์แปลกๆ
ภายในถ้ำแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในบริเวณครั้งหนึ่งที่เคยเป็นสมบัติของเบลล์
(สยองงงงง ~~)

อันดับ 9 ผีที่บ้านเลขที่ 50 เบิร์กเลย์สแควร์ (50 Berkeley Square)


สถานที่ตั้ง บ้านเลขที่ 50 เบิร์กเลย์ สแควร์ กรุงลอนดอน
ผีที่นี่ดุจริงๆ เพราะมันทำให้เหยื่อเคราะห์ร้ายต้องสังเวยให้กับมัน แม้ไม่มีใครทราบที่มาแต่หลายคนต่างโดนมันฆ่าถ้าใครก็ตามที่มานอนพักบ้านร้าง
หลังนั้น เช่นในปี 1887 กะลาสีสองคนชื่อเอ็ดเวิร์ด บลันเดนและโรเบิร์ต มาร์ติน ได้อาศัยบ้านหลังนี้พักชั่วคราวและต่อมากลางคืนบลันเดนก็พบเห็น
ผีและสู้กับมันส่วนมาร์ตินหนีออกมาเพื่อแจ้งตำรวจและเมื่อกลับมาก็พบบลันเดนตายอยู่บันไดชั้นล่างในสภาพคอหัก ดวงตาเบิกโพลง นอกจากนั้น
จอร์จ แคนนิ่ง นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ก็โดนด้วยและ เสียชีวิตในปี 1827
ปัจจุบันคนละแวกแถวนั้นมักตกใจเสียงทุบและเสียงกระแทกปึงปังในบางคืน

(อย่าไปแถวนั้นตอนกลางคืนเด็ดขาด!)

อันดับ8 บ้านอมิตี้วิลล์ (Amityville House)


สถานที่พบเจอ บ้านเลขที่ 112 โอนอเวนิว อเมริกา
บ้านอมิตี้วิลล์ โอนอเวนิว เป็นบ้านทรงดัทซ์ โคโลเนียล หน้าตาเหมือนโรงนาทรงสูงที่ที่สวยงามมากหลังหนึ่ง ถูกสร้างตั้งแต่ปี 1924 แต่เมื่อ
13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1974 เกิดการฆาตกรรมหมู่ครอบครัวหนึ่งจากนั้นเป็นต้นมาที่นี่ก็กลายเป็นบ้านผีดุไปในบัดดล โดยที่โด่งดังที่สุดคือกรณี
ของครอบครัวของจอร์จ ลัทซ์ก็อาศัยอยู่บ้านหลังนี้และพบเหตุการณ์ประหลาดแทบทุกคืนไม่ว่าจะเป็นเสียง รอยเท้า ผีอำ ฯลฯ นอกจากนั้น ไม่ว่า
ใครหน้าไหนเอาเรื่องนี้มาแต่งเป็นนิยายหรือทำเป็นหนังจะโดนคำสาป เห็นได้จาก เคยมีคนนำเรื่องอมิตี้วิลล์มาสร้างหนังปรากฏว่าหลายคนในกอง
ถ่ายต่างประสบเคราะห์กรรมต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์ลึกลับ เจ็บไข้ ได้ป่วย หรือแม้กระทั่งตายอย่างลึกลับ (ปัจจุบันเราสามารถหาดู
เรื่องนี้จากหนังเรื่องผีทวงบ้านครับ) ระวังจะโดนคำสาบ!!
(งั้นไม่ดูละ กลัว!)

อันดับ 7 เดอะ ฟลายอิ้ง ดัชท์แมน (Flying Dutchman)


สถานที่พบเจอ แหลม Good Hope ฮอลแลนด์ และท้องทะเลทั่วโลก(ไทยก็เคยเจอ)
เป็นเรือปีศาจที่ปรากฏตัวให้เห็นบ่อยๆ ในทั่วโลกมาแล้วหลายร้อยปี เดิมคือ เรือ Flying Ducthman เป็นของกัปตัน Van Der Decken ที่นิสัยไม่ดี

โดยเขาหายสาปสูญที่แหลม Good Hope ก่อนหายได้ตะโกนขึ้นว่า "ข้าจะยังคงวนเวียนอยู่ที่แหลมแห่งนี้ ถึงแม้ว่าข้าจะต้องล่องเรือจนถึงวาระสุด
ท้ายของโลกก็ตาม" และนับจากนั้นเป็นต้นมาผู้คนทั่วโลกก็พบเรือปีศาจแบบนี้ และว่ากันว่าเรือใดที่เห็นเรือปีศาจนี้จะต้องรับความพินาศ โดยในปี
1881 คนประจำเรือเจ้าชายจอร์จที่ 5 เห็นเรือนี้จากนั้นไม่นานเขาก็พลัดตกเสากระโดงเรือตาย.... ทุกวันนี้ก็ยังมีคนกล่าวอ้างอยู่เสมอว่าเห็นเรือ
ฟลายอิ้ง ดัทช์แมนยังคงรอนแรมอยู่เดียวดายกลางทะเลด้วยรูปลักษณ์อันเศร้าโศกและสยดสยอง ริชาร์ด วากเนอร์ คีตกวีชื่อก้องโลกได้อาศัย
ตำนานปีศาจนี้แต่งอุปรากรที่มีชื่อว่า Der Fliegende Hollander
(บ้านใครอยู่แถบทะเลระวังนะ เหอะๆ)

อันดับ 6 วิญญาณที่โบลถ์บอร์ลีย์ (Borley Rectory)


สถานที่พบเจอ กรุงลอนดอนทางตะวันออกเฉียงเหนือ 60 ไมล์ แถบชานเมืองเอสเซกซ์(ปัจจุบันโดนทุบทิ้งแล้ว)
เมื่อปี ค.ศ.1362 นักบวชนิกายเบเนดิกทีนและแม่ชีจากสำนักชีในละแวกนั้นถูกพ่อมดหมอผีและชาวบ้านที่งมงายจับสองคนไปฆ่าโดยนักบวชถูก
แขวนคอส่วนแม่ชีถูกฝังทั้งเป็นภายในผนังของสำนักชี ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นโบสถ์แห่งบอร์เลย์ในปี 1863 และหลังจากนั้นเหตุการณ์ประหลาดก็
เกิดขึ้นต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นก้อนหินที่ขว้างไปโดยไม่รู้ที่มา รอยเท้าประหลาด เสียง และภาพหลอนขนาดปรากฏตัวในตอนกลางวันแสดๆ เลยก็มี
โดยปี 1929 เธอปรากฏตัวถี่ขึ้นและเริ่มเห็นเต็มตัวโดยในลักษณะแต่งกายเป็นชีและท่าทางใบหน้าเศร้าหมองร้องขอให้มีผู้พบศพเธอเพื่อประกอบ
พิธีทางศาสนา และมีผู้ถ่ายรูปเธอออกมาเพียบ จนกระทั่งคืนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1939 ก็เกิดเพลิงไหม้ตอนเที่ยงคืนและเผาโบสถ์จนเหลือเพียง
ซากและโบสถ์ก็โดนทุบทิ้งจนผีไม่ปรากฏตัวออกมาอีกเลย

อันดับ 5 วิญญาณสีชาด


กษัตริย์เฮนรีที่ 4
สถานที่พบเจอ ฝรั่งเศส ???
วิญญาณสีชาดตนนี้ไม่มีที่มา แต่มันสำแดงตนเสมอในช่วงเปลี่ยนกษัตริย์ของฝรั่งเศส เป็นร่างของชายสูงใหญ่ ใส่เสื้อคลุมสีชาด มีเครายาวสีชาด
เช่นกัน ร่างนี้ไปปรากฏต่อพระพักตร์ของกษัตริย์เฮนรีที่ 4 แห่งฝรั่งเศส ในคืนที 13 พฤษภาคม 1610 ในห้องพระบรรทมของกษัตริย์เฮนรีเลยทีเดียว
แล้วมันก็กล่าวคำพยากรณ์ว่า "พรุ่งนี้เจ้าจะต้องตาย" พระองค์ตกใจมากและรีบเรียกตัวขุนนางผู้ใหญ่มาหารือเพื่อหาทางแก้ไข และอีก 12 ชั่วโมงต่อมา
เฮนรีก็ถูกผลักตกจากบัลลังก์จริงตามคำพยากรณ์เพราะฟรองซัวราวิลแย็คทำการรัฐประหาร นอกจากนี้วิญญาณตัวนี้ยังสำแดงตนให้นโปเลียน โปนา
ปาร์ตเห็นถึง 4 ครั้ง และครั้งที่ 4 คือคืนวันที่ 5 พฤษภาคม 1821 ก็เป็นวันตายของนโปเลียนนั้นเอง
(อาถรรพ์เลข 4!)

อันดับ 4 ผีชุดขาวแห่งเบอร์ลิน (Ghost White of The Berlin)


สถานที่พบเจอ เยอรมัน ฝรั่งเศส ??
ว่ากันว่าเป็นวิญญาณของอันนา ซิโดว์ ภรรยาลับของกษัตริย์โจอาคิมที่ 2 ในศตวรรษที่ 16 ที่ถูกจับขังจนถึงแก่กรรม ซึ่งใครก็ตามที่ได้เห็นวิญญาณ
หญิงสีขาวเมื่อไหร่คนในราชวงศ์นั้นจะประสบเคราะห์กรรม เช่นปี 1619 มหาดเล็กของกษัตริย์จอร์น ซิกมุนด์เห็นร่างสีขาวก่อนที่จะตายโดยอุบัติเหตุ
จากนั้นกษัตริย์จอห์น ซิกมุนด์ก็สวรรคต, นอกจากนั้นกษัตริย์หลายพระองค์ก็เห็นวิญญาณนี้ปรากฏที่รัสเซีย ปารีส และครั้งสุดท้ายที่ปรากฏคือวันที่
29 เมษายน 1945 ซึ่งเป็นวันล่มสลายของนาซีเยอรมันที่เบอร์ลินพอดี!!

อันดับ 3 วิญญาณที่เรือควีนแมรี่ (Queen Mary)


สถานที่พบเจอ เรือควีนแมรี่(ปัจจุบันถูกจอดไว้ที่เมืองลองบีช โดยดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ โรงแรม)
ควีนแมรี่เป็นเรือใหญ่มากลำหนึ่งในประวัติศาสตร์อังกฤษ เคยถูกนำมาใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วถูกปลดระวางในปี 1967 เพื่อนำไปทำโรงแรม
ซึ่งมีเรื่องเล่ากันว่าถ้าใครตายในเรือแมรี่มีอันต้องเป็นผีเฝ้าเรือทุกตน โดยมีผู้พบเห็นผีนี้ตามจุดทั่วเรือในลักษณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรอยเท้าที่เปียก
น้ำ เด็กน้อยตามหาแม่และหายตัวไปต่อหน้า สตรีในชุดราตรีโบราณ ฯลฯ

อันดับ 2 วิญญาณของพระนางแคทเธอรีน โฮวาร์ด (Catherine Howard)


สถานที่พบเจอ หอคอยลอนดอน ประเทศอังกฤษ
แม้พระนางจะโดนสำเร็จโทษหลังอภิเษกกับพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ได้เพียง 8 เดือน ไปตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1542 แล้วก็ตาม ระเบียงของพระราชวัง
แฮมตัน คอร์ท พาเลสทุกวันนี้ยังมีเสียงร้องโหยหวนในยามดึกเสมอ นอกจากนี้ยังสิงสู่อยู่ที่อีธอร์น มาเนอร์ ฮอลลิงบอร์น เค้นท์อีกด้วย

อันดับ 1 วิญญาณของพระนางแอนน์ โบลีน (Anne Boleyn the headless Queen)


สถานที่พบเจอ หอคอยลอนดอน ประเทศอังกฤษ (รูปถ่ายนี้ถูกถ่ายในธันวาคม ที่ศาล Hampton ใกล้ลอนดอน)
พระเจ้าเฮนรีที่ 8 นี้ช่างเป็นต้นเหตุสร้างเรื่องสยองจริงๆ เมื่อพระนางแอนน์ โบลีนพระมเหสีองค์ที่สองถูกสำเร็จโทษ 19 พฤษภาคม ปี 1536 โดยก่อน
ตายนางกล่าวว่า "โอ้ ความตาย นำข้าให้หลับใหล พาข้าให้พักอย่างเงียบสงัด นำข้าไปสู่ผี..ที่สุดแสนจะเงียบงัน ออกไปจากอกของข้าที่ห่วงหา
อาทร ย่ำระฆังความตายที่เศร้าสร้อย ปล่อยให้มันก้องกังวาน"

ว่ากันว่าวิญญาณของพระนางจะกลับมาที่ บลิคลิง ฮอลล์ ในนอร์ฟอล์ค ในวันครบรอบที่พระนางถูกสำเร็จโทษ ซึ่งสถานที่แห่งนั้นพระนางเคยใช้
ชีวิตในวัยเยาว์ที่นั้นเลยผูกพันเป็นพิเศษ ซึ่งมีรายงานปรากฏวิญญาณของพระนางไปยังสถานทีประสูติไม่ว่างเว้น โดยผู้คนมักเห็นร่างของหญิงสูง
ศักดิ์ปราศจากศีรษะ นั่งอยู่ในรถม้าที่ลากโดยม้าที่ปราศจากหัวสี่ตัว และคนขับซึ่งไม่มีหัวเช่นกัน รถม้าจะวิ่งช้าๆ ไปยังอาคารโบราณที่บลิงตันและ
หายลับไปยังประตูหน้า นอกจากนี้พระนางยังปรากฏอยู่ที่หอคอยแห่งลอนดอนอีกด้วย โดยผู้ใดที่อยู่ตรงข้ามพระนางจะพลอยได้พบหายนะไปด้วย
เสียสิ้น โดยใครพบเจอคนนั้นอาจหัวใจวายตายในเวลาไม่นาน ไม่ก็เสียสติ

Cr :Ghost Korean Boy
 
Wordpress Theme by wpthemescreator .
Converted To Blogger Template by Anshul .